จับแล้ว 2 โจ๋ทุบป้อมตำรวจ เหตุทำเสียอารมณ์ ขณะไปซื้อเหล้า



"เหตุแค้น ตร.จับ ไม่สวมหมวก ไม่มีใบอนุญาต"


ตำรวจสายสืบ สน.เตาปูน ตามรวบ 2 วัยโจ๋ เกลียดตำรวจของไทย ตระเวนทุบป้อมตำรวจตามแยกต่างๆ จนได้รับความเสียหายรวม 3 ป้อม สารภาพ เพราะโกรธแค้นที่ถูกตรวจจับไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ เหตุทำเสียอารมณ์ระหว่างขี่รถไปซื้อเหล้า

วันนี้ (5 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ สน.เตาปูน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.น.2 พร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน แถลงการจับกุม นายธีรวัฒน์ หรือ แม็ก สุขวงษ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 1 ต.วัดซูม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และนายเฉลิมรัฐ หรือหนุ่ม โพธิ์เจริญ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/276 ถนนประดิพัทธ์ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม.พร้อมของกลาง ท่อสเตนเลสกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กล่าง 1.5 นิ้ว ยาว 90 ซม.1 ท่อน รถจักรยานยนต์ฮอนด้า โซนิค สีน้ำเงิน ทะเบียน บบล-469 กทม.1 คัน



"รับสารภาพ ก่อนเกิดเหตุขับขี่ จยย.ไปซื้อเหล้า"


พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อตอนรุ่งเช้าของวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ และใช้ท่อนเหล็กทุบทำลายกระจก ป้อมควบคุมสัญญาณไฟจราจร บริเวณสามแยกเตาปูน บริเวณสี่แยกประชาชื่น และบริเวณสี่แยกสะพานแดง รวม 3 ป้อม ทำให้กระจกป้อมควบคุมดังกล่าวได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่า 24,000 บาท ต่อมาตำรวจสายสืบ สน.เตาปูนนำโดย พ.ต.ต.พจนาจ งบพิมาย สว.สส.สืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นผู้ก่อเหตุ จึงติดตามจับกุมได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ถนนริมคลองประปา แขวงและเขตบางซื่อ กทม.เมื่อเวลา 04.00 น.ของวันนี้

ผบก.น.2 กล่าวว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ตั้งวงก๊งเหล้าอยู่กับเพื่อนๆ ต่อมาเหล้าหมด จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีนายเฉลิมรัฐเป็นคนขับขี่ นายธีรวัฒน์ เป็นคนนั่งซ้อนท้าย ออกไปซื้อเหล้ายังร้านสะดวกซื้อ แต่เมื่อขับขี่มาใกล้สามแยกเตาปูน

"แจ้งข้อหา แล้วนำไปทำแผนก่อนส่งดำเนินคดี"


พบด่านตรวจของ สน.เตาปูน ปฏิบัติหน้าที่อยู่ และทั้งคู่ไม่ได้สวมหมวกนิรภัย รวมทั้ง นายเฉลิมรัฐ ไม่มีใบขับขี่ จึงถูกตำรวจจับกุม ด้วยความโกรธแค้น จึงขี่รถกลับไปยังวงเหล้า และนำท่อนเหล็กสเตนเลสของกลางดังกล่าว ขับขี่ย้อนกลับไปยังป้อมตำรวจบริเวณสามแยกเตาปูน ใช้ท่อนเหล็กสเตนเลสทุบกระจกจนได้รับความเสียหายรวม 3 ป้อม เมื่อระบายแค้นจนสาแก่ใจแล้ว จึงพากันกลับ และใช้ชีวิตตามปกติ จนกระทั่งมาถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ จากนั้นควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามป้อมควบคุมฯจุดต่างๆ ก่อนจะควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์