จับ4เณรโหด-ฆ่าเผาเณร

อ้างแค้นถูกแกล้งซ่อนบาตร-จีวร!


ตร.จับ 4 สามเณรวัดดังขอนแก่น ฆ่าเผาเพื่อนสามเณรด้วยกัน แค้นที่ชอบกลั่นแกล้งซ่อนบาตร-จีวรไม่ให้ออกไปบิณฑบาต เลยช่วยกันวางแผนฆ่า ใช้ไม้ไผ่ตันกระหน่ำตีตอนนอนหลับจนตายคาที่ แล้วอุ้มศพไปเผาทำลาย ตร.ใช้เวลา 4 ช.ม. ตามรวบได้ทั้งแก๊ง ทั้งหมดสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. พ.ต.อ.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผกก.สภ.อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.คะเชนทร์ ยืนยง รองผกก.ป.สภ.อ.ชุมแพ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.อ.ชุมแพ ร่วมแถลงข่าวจับกุมแก๊งเณรน้อยร่วมกันฆ่าผู้อื่นและย้ายหรือทำลายศพ ผู้ต้องหาประกอบด้วย อดีตสามเณรน้อย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี อยู่หมู่ 2 ต.บ้านพร้าว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู 2.อดีตสามเณรสุข (นามสมมติ) อายุ 15 ปี อยู่หมู่ 11 ต.โนนเมือง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู อดีตสามเณรสถิต (นามสมมติ) อยู่หมู่ 9 ต.นาหนองทุ่ม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น และอดีตสามเณรนนท์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี อยู่หมู่ 1 ต.โนนสะอาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนปริยัติธรรมวัดแจ้งสว่างนอก พร้อมของกลาง 1.ไม้ไผ่ตันยาวประมาณ 2 ฟุต จำนวน 2 ท่อน และเศษผ้าซึ่งเกี่ยวติดกับต้นไม้เป็นทางมาจากบริเวณวัดส่วนหนึ่ง

"พบศพถูกไฟเผาไหม้จนเกรียม"


พ.ต.อ.สมหมายกล่าวว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ธ.ค. พ.ต.ท.คะเชนทร์ ยืนยง รอง ผกก.ป.สภ.อ.ชุมแพ รับแจ้งจากวัดแจ้งสว่างนอก หมู่ 5 บ้านแสนสุข ว่ามีผู้พบศพถูกไฟไหม้เผาแต่เหลืออวัยวะบางส่วน บริเวณป่าละเมาะทางทิศใต้ของวัด ห่างจากวัดประมาณ 150 เมตร นำกำลังไปตรวจที่เกิดเหตุ และสืบสวนจนทราบว่าผู้ตายคือสามเณรพัลลภ มานาดี อายุ 15 ปี อยู่บ้านหนองบัว หมู่ 3 ต.โนนสะอาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เป็นสามเณรเรียนอยู่โรงเรียนปริยัติธรรมวัดแจ้งสว่างนอก ชั้นม.3

สภาพศพนอนหงาย ส่วนบนถูกไฟเผาไหม้จนเกรียม บริเวณชายโครงด้านขวามีรอยไหม้เกรียม ส่วนท่อนขาถูกไฟเผาไหม้บางส่วน อวัยวะภายในยังไม่ไหม้ไฟ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พบเศษผ้าเกี่ยวตามกิ่งไม้ใกล้ศพประมาณ 6 ชิ้น ตลอดจนรอยน้ำตาเทียนหยดอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ สภาพศพมีหนอนไต่ยั้วเยี้ยเริ่มส่งกลิ่นเหม็นทั่วบริเวณ สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน

"พบร่องรอยหลักฐานต่างๆ จนทราบว่าเป็นเณรที่หายตัวไป"


ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนสืบสวนจากร่องรอยพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ เช่น เศษผ้าในที่เกิดเหตุ ซึ่งมีรอยเกี่ยวกับต้นไม้เป็นทางมาจากบริเวณวัดแจ้งสว่างนอก จึงย้อนไปตรวจสอบบริเวณวัดอีกครั้งหนึ่ง ทราบว่าสามเณรพัลลภจำวัดอยู่ที่ชั้นล่าง กุฏิทางทิศตะวันตกของวัดแจ้งสว่างนอก โดยจำวัดอยู่กับสามเณรผู้ต้องหา จึงนำสามเณรทั้งสองรูปมาสอบปากคำที่สภ.อ.ชุมแพ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ทั้งสองรูปยอมรับสารภาพว่าได้ร่วมกันฆ่าและย้ายทำลายศพของสามเณรพัลลภจริง พร้อมเพื่อนสามเณรด้วยกันอีก 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไปจับกุมที่วัดแจ้งสว่างนอก โดยทั้งหมดทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นในการก่อคดีฆ่าโหดสามเณรพัลลภ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสึกกับเจ้าอาวาส แล้วควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ มีชาวบ้านกว่า 200 คน มารุมดูการทำแผนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพากันสาปแช่งสามเณรทั้งหมดที่ได้ก่อคดีฆ่าโหดสามเณรพัลลภอย่างโหดเหี้ยมคากุฏิ

จากการสอบสวนทราบว่า หลังเจ้าหน้าตำรวจรับแจ้งได้ไปตรวจที่เกิดเหตุ พบหลักฐานจากศพที่เป็นเศษผ้า พร้อมหยดเทียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมาประชุมวางแผนหาตัวผู้ต้องหาอย่างเร่งด่วน และสงสัยว่าผู้เกี่ยวข้องในคดีฆ่าสามเณรพัลลภจะต้องอยู่ในวัดแจ้งสว่างนอก จึงไปตรวจที่ห้องสามเณรผู้ตายพบหลักฐานหลายอย่างที่เกี่ยวพันกับคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาผู้ต้องหาที่พักอยู่ในกุฏิเดียวกับผู้ตายมาสอบจนยอมรับสารภาพว่าฆ่าผู้ตายจริง โดยร่วมกันใช้ไม้ไผ่ตันยาวประมาณ 2 ฟุต 2 ท่อน เก็บมาจากรั้ววัดเข้ามาในกุฏิของผู้ตาย ขณะนั้นกำลังนอนหลับอยู่ในห้องพัก

"อ้างโดนแกล้งบ่อยเลยอยากเอาคืนให้เจ็บสาหัส"


ต่อมาช่วยกันใช้ผ้าห่มคลุมร่างสามเณรผู้ตาย หลังจากนั้นได้ใช้ไม้ไผ่ตันตีกระหน่ำไปที่ศีรษะ ใบหน้า และตามลำตัวหลายครั้งแบบไม่ยั้งมือ จนสามเณรพัลลภตายคากุฏิ เลือดนองที่นอนและเต็มผ้าห่มที่นอน และนำศพไปเผาทำลายเพื่อปกปิดความผิดโดยช่วยกันแบกศพสามเณรพัลลภไปทิ้งในป่าละเมาะติดกับรั้ววัดที่มีรั้วลวดหนามแบ่งพื้นที่เอาไว้เพื่อเอาไปเผา โดยใช้หญ้ามาสุมและเศษไม้และไม้ไผ่ที่พบในป่าละเมาะข้างเคียงมากองทับศพเอาไว้ แล้วใช้ไฟแช็กจุดกับรองเท้าแตะฟองน้ำที่ตนเองสวมใส่กับกิ่งไม้ ตามที่มีการวางแผนกันไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยปล่อยให้ศพไหม้ไฟจนกว่าจะมอด ก่อนกลับมาที่วัดและทำตัวเป็นปกติทุกอย่างเหมือนกับสามเณรผู้ตายยังอยู่ กระทั่งมีคนมาพบศพและแจ้งให้เจ้าที่ตำรวจทราบ และจับกุมผู้ต้องหาได้ทุกคน

"สาเหตุที่มีการฆาตกรรมสามเณรพัลลภ เพราะทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวกันมาก่อน เนื่องจากผู้ตายชอบกลั่นแกล้ง 2 ผู้ต้องหา ชอบเอาบาตร จีวรไปซ่อนหลายครั้ง เพื่อไม่ให้ออกไปบิณฑบาต ทำให้เกิดความแค้น จึงคิดวางแผนให้สามเณรพัลลภเจ็บสาหัสกินข้าวไม่ได้ เดินไม่ได้

"รับสารภาพนำตัวขอขมาศพ ขอขมาพ่อแม่"


กลายเป็นคนสติเสีย หรือเป็นอัมพาตไปเลย แต่เมื่อรุมตีไปแล้วสามเณรพัลลัภกับถึงแก่ความตาย" พ.ต.อ.สมหมาย กล่าว และว่าผู้ต้องหาสารภาพด้วยว่าได้ทะเลาะและโกรธเคืองกับสามเณรผู้ตายมาตั้งแต่เรียนม.2 เพราะผู้ตายชอบล้อเลียนพ่อแม่และชอบฟ้องเจ้าอาวาส

จากนั้นเจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหาไปขอขมาศพสามเณรพัลลภที่โรงพยาบาลชุมแพ และนำผู้ต้องหาทั้งหมดขอขมากับนางประยูร มานาดี อายุ 44 ปี แม่สามเณรพัลลภ ก่อนที่จะนำส่งพ.ต.ท.สมบัติ วงษ์วิชา พนักงานสอบสวนสภ.อ.ชุมแพ เพื่อควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือสาเหตุแห่งการตาย โดยในชั้นจับกุมทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์