รักษาการ ผบช.ภ.1 เรียกประชุมชุดสืบสวนเมืองกรุงเก่า ไล่ล่ามือปืนยิง ด.ช.โภคิน ดีผิว หรือ น้องโตมี่
กรณีคนร้ายใช้ปืนยิงใส่รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส ทะเบียนป้ายแดง กข 3271 ปทุมธานี ทำให้ ด.ช.โภคิน ดีผิว หรือน้องโตมี่ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนหนองม่วง จ.ลพบุรี ที่นั่งมาในรถพร้อมครอบครัว รวม 7 คนถูกยิงที่หน้าผาก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย เหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย ช่วง กม.1 ขาเข้า กทม. ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา สบ.10 และ รรท.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรียกหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรทุกโรงพัก 26 สถานี โดยมี พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เข้าร่วมประชุม วางมาตรการแนวทางป้องกันเหตุก่อนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 1 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 53 ซึ่งผลการกวาดล้างจับกุมช่วงก่อนการเลือกตั้ง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 29 คน พร้อมของกลางอาวุธปืน 40 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 594 นัด ของกลางยาบ้า กว่า1.8 หมื่นเม็ด ยาไอซ์ 1 ก.ก. คดีค้างเก่า รวมผู้ต้องหา 385 คน และติดตามความคืบหน้าคดี อาชญากรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยมุ่งเน้นในคดีคนร้ายก่อเหตุยิง รถยนต์เก๋ง จนทำให้ด.ช.โภคิน หรือโตมี่ ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นเจ้าชายนิทรา
หลังการประชุม พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่าคดียิงรถยนต์เก๋งถูกน้องโตมี่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นคดีที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสนใจ คนร้ายฮึกเหิมมากใช้อาวุธปืนยิงถึง 12 นัด ซึ่งแนวทางการสืบสวนการจับกุมคนร้ายได้เรียก ท้องที่ที่เกิดคดี สืบสวนภาค 1 และสืบสวนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าประชุมที่ภาค 1 โดยให้การบ้านตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปทำคดีให้กระจ่าง เนื่องจากมีคดีลักษณะเดียวกันเกิดมาหลายครั้งทั้งที่แจ้งความและไม่แจ้ง รวมแล้ว5 ครั้ง
ซึ่งวันนี้มาติดตามผล โดยตั้งประเด็นไว้3 ด้าน
1.เกิดจากความคึกคะนอง
2.เรื่องส่วนตัว
3.ด้านการจราจรที่อาจจะเกิดการขับรถปาดหน้ากัน
ยังไม่ชี้ขาดว่าประเด็นไหน ในทางคดีเป็นปัญหาที่ปลายเหตุ ทำอย่างไรจะจับคนร้ายให้ได้ ส่วนปัญหาต้นเหตุต้องหาวิธีป้องกันควบคู่ไปด้วย ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 สายตรวจรถยนต์ทุกคันจะต้องติดเบาะนั่งหลังกระบะให้เป็นมุมสูง และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งอยู่มีไฟสปอร์ตไรท์ส่อง เป็นการปฎิบัติการเชิงรุก สร้างความอบอุ่นให้กับเจ้าของอาคารสถานที่และผู้ใช้รถใช้ถนน เชื่อว่าวิธีการนี้จะเป็นการป้องกันได้ที่สุด โดย จ.พระนครศรีอยุธยา จะเป็นจังหวัดแรกที่ทำ สำหรับมาตรการป้องกันเกี่ยวกับแก๊ง จยย.ที่ขับขี่ป่วนเมืองเร่งให้ทุกท้องที่ ตั้งจุดตรวจอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งทำประวัติผู้ขับขี่ เน้นรถประเภทที่สอดคล้องกับคดียิงน้องโตมี่
ส่วนคดียิงน้องโตมี่ ที่มีข่าวว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพล พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ผมนี่แหละเป็นผู้มีอิทธิพลตัวจริง ใครจะใหญ่ไม่ได้ เรื่องนี้ได้ให้ชุดสืบสวน ภาค1 ตรวจสอบ เชื่อว่าจะไม่มีคดีลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก หากมีคดีเกิดขึ้นอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฎิเสธ ความรับผิดชอบไม่ได้ ตั้งแต่ผู้บังคับการไปต้องรับผิดชอบ ช่วงนี้จะลงโทษคนร้ายก่อน ขอให้ความมั่นใจกับประชาชนที่เดินทางผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อไปจะไม่มีคดีในลักษณะนี้เกิดขึ้น สำหรับคดีนี้แม้จะยาก ตำรวจจะจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ดูจากสภาพที่คนร้ายก่อเหตุแล้วสงสาร ประชาชนที่ถูกยิงโดยเฉพาะน้องโตมี่ และครอบครัวน่าสงสารมาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้ลงพื้นมาช่วยด้วย
ในเวลา 13.00 น.วันเดียวกันพล.ต.อ.อัศวิน ได้เรียกชุดสืบสวน ภาค 1 ป้องกันปราบปรามและสืบสวน ทุกสถานีของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าประชุมต่ออีกเพื่อสอบถามความคืบหน้าตามที่ให้การบ้านไว้ โดยเน้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งรถ จยย.ซุปเปอร์โฟร และรถจยย.แบบซีบีอาร์ มีกลุ่มแก๊งไหนใช้อยู่และมีจำนวนเท่าใด ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆบนถนนสายเอเชีย ของทางราชการและของเอกชน
พ.ต.ท.ประสงค์ เทพรักษ์ สวญ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าผลการพิสูจน์หัวกระสุนเป็นอาวุธปืน ขนาด 9 มม.แบบกล็อก กำลังตรวจสอบหาอาวุธปืน ว่าปืนชนิดนี้มีผู้ใดครอบครอง เชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ เห็นคนเจ็บแล้วสงสาร เปรียบเสมือนลูกของเราตำรวจจะไม่ยอมให้คนร้ายลอยนวลไปได้
นายนัทธี บ่อสุวรรณ นายอำเภอบางปะอิน เปิดเผยว่าในพื้นที่ อ.บางปะอิน ได้อนุญาต ให้มีอาวุธปืนขนาด 9 มม.แบบกล็อก จำนวน 20 กระบอก
ผู้สื่อข่ารายงานว่า ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ในจุดเกิดเหตุอีกครั้งโดยทำการเดินหาพยานหลักฐานในวงกว้างบนถนนและบริเวณโดยรอบ เน้นที่ภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งขณะนี้พอจะมีข้อมูลพยานหลักฐานบางส่วนแล้ว นอกจากนี้ชุดสืบสวนยังพบข้อมูลว่ารถจยย.ซุปเปอร์โฟร มีราคาแพงจึงมีผู้นิยมขับขี่ในกลุ่มของคนมีฐานะ ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ประมาณ 20-30 คัน บางส่วนเป็นรถยนต์ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ทำการตรวจสอบรถจยย.ฮอนด้า ซีบีอาร์ สีดำพบว่ารถจยย.รุ่นนี้เป็นรถที่นิยมใช้ใกลุ่มของ ปล่อยเงินกู้ไว้ใช้ในการออกเก็บเงินและเก็บดอก
นางสำรวย ดีผิว แม่น้องโตมี่ ที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระนั่งกล้า กล่าวว่าขณะนี้ได้ทำใจไว้บ้างแล้วเกี่ยวกับอาการของน้องโตมี่ ซึ่งยังไม่รู้สึกตัวโดยเสียค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่รพ.นวนครไป กว่า 1.3 แสนบาท ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนและนายกอบจ.ลพบุรี ที่มีแม่ตาให้ความช่วยเหลือ และในวันนี้ ทางกาชาด จ.นนทบุรี ได้เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจ มอบเงินส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการรักษาพยาบาล ถึงเวลานี้อาการของน้องโตมี่เกี่ยวกับคลื่นหัวใจและความดันดีขึ้นกว่าวันก่อน ยังมั่นใจว่า ด้วยบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทำให้เกิดปาฎิหารย์ ได้
เหยื่อแก๊งซุปเปอร์โฟรโผล่อีกราย
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายมานพ สิริภควัฒน์ อายุ 34 ปี ช่างภาพอิสระ ที่บ้านเลขที่ 20 ม. 8 ต.นครหลวง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าเมื่อประมาณ กลางเดือนกันยายน 53 ที่ผ่านมา ซึ่งจำได้ว่าตรงกับวันอาทิตย์ ขณะที่ตนเองขับรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซิตตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กต 3359 พระนครศรีอยุธยา กลับจากล้างรูปที่ตลาดรังสิต จ.ปทุมธานี ขับรถยนต์เก๋งมาตามถนนสายพหลโยธิน มุ่งหน้า กลับบ้านพักที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างขับรถมาช่องทางด่วนเลนกลาง ผ่านตลาดประตูน้ำพระอินทร์ ได้สังเกตุเห็นรถ จยย.ซุปเปอร์โฟร ด้านหัวรถสีแดง ท้ายรถสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทั้งคนขับและคนซ้อนใส่เสื้อแจ๊คเก็ตสีดำ กางเกงขายาวสีนำเงิน สวมหมวกกันน๊อคสีดำเต็มใบทั้งคู่ แต่ขณะนั้นไม่คิดอะไร เมื่อขับรถผ่านตลาดประตูน้ำพระอินทร์ ใกล้ถึงทางแยกออกทางคู่ขนานเพื่อขึ้นทางต่างระดับบางปะอิน พบว่า รถ จยย คันดังกล่าววิ่งแซงขึ้นมาทางด้านขวา เห็นคนซ้อนท้ายชักปืนสั้นแบบออโต้ไม่ทราบขนาด ใช้มือขวาจับด้ามปืน อ้อมตัวมาทางด้านซ้าย ยิงใส่มาที่รถยนต์เก๋งของตน กระสุนถูกยางหน้าด้านขวาจำนวน 3 นัด ยางระเบิด แล้วคนร้ายขับรถหนีมุ่งหน้าไป ตามถนนพหลโยธิน ไปทางอ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนตนเองได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.พระอินทร์ราชา
นายมานพ เปิดเผยต่อว่า ก่อนที่ตนเองจะเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน มีคนขับรถบัส ถูกคนร้าย ขี่รถ จยย ซุปเปอร์โฟร ลักษณะแบบเดียวกันยิงรถบัสรับส่งพนักงานมินิแบ เข้าที่กระจกหน้า โดยขณะเกิดเหตุมีพนักงานอยู่เต็มรถบัส ซึ่งเหตุเกิดใกล้เคียงกัน