ป่วนใต้ส่งจม.ขับไล่สมภาร

"นายกฯ ไม่หวั่นโดนตั้งค่าหัว ชีวิตทหารเรื่องธรรมดา ตายเมื่อไหร่ก็ได้"


ความคืบหน้าการหาทางแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 พ.ย. ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบภาคใต้ตั้งค่าหัวนายกฯ และ ผบ.ทบ.ว่า คงพยายามทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นมา แต่ตนไม่มีปัญหาอะไร

เพราะในชีวิตทหารเป็นเรื่องธรรมดาว่าสักวันหนึ่งถ้าเสียชีวิตก็ต้องเสียชีวิตแน่ แต่เสียชีวิตเพื่อชาติได้ก็ยิ่งจะดี เมื่อถามว่าทราบ หรือไม่ว่ากลุ่มที่ออกมาให้ข่าวเป็นกลุ่มใด พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่ายังไม่ทราบ คงต้องถาม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ไม่ได้ติดตามรายละเอียด เมื่อมอบงานแล้วก็ต้องให้เป็นหน้าที่ของ ผอ.กอ.รมน. โดยจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ประเมินผลงานว่ามีความคืบหน้าไปอย่างไรบ้าง

"ช่วงนี้ต้องใช้ความอดทน"


ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาความรุนแรงที่ทวีมากขึ้นต่อเนื่องจนส่งผลต่อโรงเรียนต้องปิดเรียน พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่า เป็นเรื่องที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบพยายามตอบโต้ต่อการดำเนินการของรัฐ อย่างที่ ผอ.กอ.รมน. บอกไปแล้ว คิดว่าช่วงนี้คงต้องให้เวลาผู้ปฏิบัติได้ทำงาน ปัญหาภาคใต้ไม่ได้จบง่ายๆ จะต้องใช้ความอดทน เพราะการแก้ไขเรื่องการสร้างความเข้าใจ

การที่จะทำให้เกิดความร่วมมือก็ต้องใช้เวลาทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับนโยบายเรื่องสันติวิธีสามารถได้รับความร่วมมือมากขึ้น แต่เรื่องการปฏิบัติต้องให้เวลาแก่ผู้ปฏิบัติ ต่อข้อถามว่าคิดอย่างไรที่บรรดาครูใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะเปิดเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเอง พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่า ไม่ได้ปิดโอกาส เป็นเรื่องของผู้ปฏิบัติสามารถดำเนินการในส่วนใดๆ ก็ได้ แต่ไม่ได้ให้นโยบายอะไร เป็นเรื่องของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้หารือกันแล้ว ก็รอฟังทางกระทรวงศึกษาธิการอยู่

"มาเลเซียให้การต้อนรับอย่างดี"


ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางเยือนประเทศมาเลเซียว่า ภาพรวมผู้นำของมาเลเซียและคณะให้เกียรติเป็นอย่างดี มีการหารือถึงประเด็นเก่าๆ รวมทั้งปัญหารุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้ แต่ไม่ได้หยิบยกประเด็นที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี

ระบุว่า มีร้านอาหารต้มยำกุ้งในมาเลเซียสนับสนุนเงินให้กับโจรใต้ เพราะเป็นเรื่องทางการเมือง ถือว่ายุติกันไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อถามว่าทางการมาเลเซียพร้อมที่จะสนับสนุนในการส่งแกนนำที่หลบหนีเข้าไปให้กับทางการไทยหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า ถ้าเรามีผู้ต้องสงสัย หรือมีรายชื่อผู้ที่หลบซ่อนในมาเลเซีย ตนคิดว่ามาเลเซียก็พร้อมที่จะให้ความสนับสนุน ขึ้นอยู่กับว่าเรามีข้อมูลเพียงใด

"ตรวจพบปืนซุกซ่อน"


ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีสมาพันธ์ครูภาคใต้มีมติหยุดโรงเรียนชั่วคราว พล.อ.สนธิกล่าวว่า ทางสมาพันธ์ครู ศอ.บต. และ กองทัพภาคที่ 4 จะหารือกันในรายละเอียดซึ่งจะเป็นข้อยุติในแนวทางการแก้ไขปัญหา ส่วนกรณีที่จะให้ทหารเข้าไปสอนแทนครูในพื้นที่นั้น จริงๆ แล้วมีความจำเป็น ทหารมีความพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งเห็นใจครูด้วย เพราะครูส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและพื้นที่อันตราย หากกระทรวงศึกษาธิการมีปัญหาหรือหนักใจอะไร ทางกองทัพบกก็พร้อมให้การสนับสนุน

สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ เมื่อเวลา 11.00 น. นายบุญไทย กาฬศิริ นายอำเภอยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งจากทหารร้อย ร.1512 ว่า ตรวจพบอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ในโรงเรียนปอเนาะวัฒนาวิทยา หมู่ 7 บ้านบือแนปีแน ต.ประจัน โดยมีชาวบ้านพยายามปิดล้อมการปฏิบัติหน้าที่ จึงนำกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าไปสนับสนุน เมื่อไปถึงพบว่าชาวบ้านสลายตัวไปแล้ว จึงกระจายกำลังปิดล้อมบริเวณโรงเรียนไว้พร้อมเข้าตรวจค้นห้องพักของนักเรียน เป็นเพิงไม้ยกพื้นสูงตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียน พบปืนอาก้า 1 กระบอก

"จดหมายขู่ไล่พระ"


พร้อมแมกาซีนบรรจุกระสุน และปืน 9 มม. อีก 2 กระบอก พร้อมกระสุน จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนห้องพักหลังอื่นไม่มีสิ่งผิดปกติ สอบสวนทราบว่า ขณะที่ทหารชุด ร้อย ร.1512 นำโดย ร.ท.สมชาย แป้นโพธิ์กลาง นำกำลัง 7 นายเข้าไปพบปะเยี่ยมเยียนบุคลากรและนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าว พบกลุ่มวัยรุ่นแต่งกายเหมือนนักเรียนเดินลงจากห้องพักจุดที่พบปืนอย่างมีพิรุธก่อนรีบเดินหายไป เมื่อเข้าไปตรวจค้นในห้องพักจึงพบปืนทั้ง 3 กระบอก ทราบว่าเป็นห้องของนายมะ ไม่ทราบนามสกุล ขณะเกิดเหตุไม่อยู่ คาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ จะได้ตามตัวมาสอบสวนต่อไป

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากพระสุนทรปริยัติวิธาน เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ว่า ถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบส่งจดหมายข่มขู่ โดยพระสุนทรปริยัติวิธานเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามีชายวัยรุ่นคนหนึ่งนำจดหมายมาให้ก็ไม่ได้สนใจ กระทั่งชายคนดังกล่าวกลับออกไปจึงเปิดอ่าน พบข้อความลักษณะข่มขู่ ให้คนไทยพุทธรวมทั้งพระสงฆ์ย้ายออกไปจากพื้นที่ แต่อาตมาไม่ได้เกรงกลัวหรือตกใจ เพราะเรื่องแบบนี้มีบ่อยครั้งจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว อยากให้เจ้าหน้าที่รัฐแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด การสมานฉันท์ก็สมานกันไปแต่การป้องกันดูแลประชาชนผู้บริสุทธิ์ก็ต้องทำ บ้านเมืองนี้ยังมีกฎหมายใช้กันอยู่หรือไม่ ทำไมไม่นำตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ เพราะการฆ่าคนแก่หรือเด็กเป็นคดีอุกอาจทำให้ชาวไทยพุทธเสียขวัญ หากจับกุมคนร้ายได้บ้างก็จะทำให้อุ่นใจขึ้น สำหรับวัดช้างให้ขณะนี้เงียบมาก ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลย แต่ก็มีทหารเข้ามาดูแลภายในวัด ส่วนพระลูกวัดก็บิณฑบาตได้แถวๆหน้าวัดเท่านั้น เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย

"ร.ร.เปิดการเรียนการสอนตามปกติแล้ว"


ส่วนบรรยากาศตามโรงเรียนต่างๆใน จ.ปัตตานี มีโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมือง 5 โรงเรียน เปิดการเรียนการสอนตามปกติแล้ว แต่มีนักเรียนมาเรียนไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่โรงเรียนเอกชนจะเริ่มเปิดเรียนวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ตามมติสมาพันธ์ครูปัตตานี ส่วนโรงเรียนในพื้นที่รอบนอกยังคงปิดเรียน เนื่องจากครูยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย ทั้งนี้โรงเรียนบางส่วนจะเปิดเรียนในวันจันทร์ที่ 4 ธ.ค. และจะเปิดพร้อมกันทั้งหมดวันที่ 6 ธ.ค. ระหว่างนี้ได้มีการประสานกันระหว่างผู้บริหารโรงเรียน ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องถิ่น เพื่อขอความร่วมมือให้ดูแลโรงเรียนและครู โดยให้ทหารเข้าไปดูแลครูตามโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งปรับแผนป้องกันช่องว่างไม่ให้กลุ่มก่อความไม่สงบเข้ามาก่อเหตุร้ายได้

ที่วัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 13.30 น. นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผวจ. นราธิวาส พร้อมคณะ เดินทางไปถวายเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส เพื่อมอบให้แก่เจ้าอาวาสวัด 71 วัด และสำนักสงฆ์ 16 แห่ง ที่พระสงฆ์งดออกบิณฑบาตเนื่องจากกลัวภัยจากโจรใต้ โดย ผวจ.นราธิวาสกล่าวว่า มีความห่วงใยในสถานการณ์ ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่อไปอาจให้ทหารมาตั้งหน่วยเฉพาะกิจในวัดและลาดตระเวนดูแลพระสงฆ์

"คนร้ายซุ้ม โผล่กระหน่ำยิง 3นัดซ้อน"


ส่วนเหตุการณ์ฆ่าผู้บริสุทธิ์รายวันยังคงเกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 28 พ.ย. ร.ต.ต.นพดล ดิเรกพัฒนาสาร ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ไปตรวจสอบเหตุคนถูกยิงหน้าบ้านเลขที่ 72/8 ซอย 5 ถนนเจริญเขต เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก พบเพียงกองเลือดกับปลอกกระสุนปืน 11 มม. ตกอยู่ 3 ปลอก ส่วนคนเจ็บถูกนำส่ง รพ.สุไหงโก-ลก เสียชีวิตในเวลาต่อมา ชื่อนายสุไฮมี ดือราแม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเช่าเลขที่ 104 ซอย 7 ถนนเจริญเขต ถูกยิงที่หน้าอก 3 นัด สอบสวนทราบว่าผู้ตายมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ขณะเดินออกจากบ้านจะไปทำธุระ ถูกคนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ข้างทางกระหน่ำยิงใส่ 3 นัดซ้อน คาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของ โจรใต้ หรือไม่ก็เป็นเรื่องส่วนตัว

ด้านนายเดชรัฐ สิมสิริ ปลัดจังหวัดยะลา กล่าวถึงการดูแลชาวไทยพุทธที่หนีภัยโจรใต้อพยพมาอยู่ที่วัดนิโรธสังฆาราม อ.เมืองยะลา ว่า ทางจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำกับดูแลผู้อพยพทั้งหมด 228 คน แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรกเป็นราษฎรบ้านสันติ 2 หมู่ 6 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา จำนวน 76 คน ทุกคนพร้อมจะเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนา แต่มีข้อแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้ โดยเฉพาะเรื่องการรักษาความปลอดภัย และส่วนที่สองคือประชาชนที่ยังไม่พร้อมที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา ในส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าไปให้ความดูแลเรื่องความเป็นอยู่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร คาดว่าเมื่อประชาชนมีความพร้อมก็จะเดินทางกลับภูมิลำเนา

"4 ข้อเรียกร้อง"


ที่รัฐสภาเมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้ประสานงานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ได้นำญาติผู้ถูกดำเนินคดีความมั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 10 คน เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อสอบสวนและศึกษาสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อขอความเป็นธรรม

โดยมีข้อเรียกร้องดังนี้ 1. ขอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการร่วมอิสระเพื่อพิจารณาทบทวนคดีความมั่นคง 2. ขอให้เร่งรัดการดำเนินคดีความไม่สงบรายวัน 3. ขอให้ยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 4. ขอให้นำการศึกษาโดยคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ (กอส.) เป็นแนวทางดำเนินการแก้ไขปัญหา จากนั้น น.ส.พรเพ็ญได้เดินทางไปที่กระทรวงยุติธรรม ยื่นข้อร้องเรียนดังกล่าวต่อนาย มานิตย์ สุธาพร รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อส่งถึงนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม ต่อไป

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์