แฉเงินขายที่ 15 ล้านปมขัดแย้งศพพ่อผล

"ปัญหาจากเงินขายที่ 15 ล้าน"


เผยต้นตอปัญหาขัดแย้งงานพระราชทานเพลิงศพ "หลวงพ่อผล" มีหลายชนวน ประเด็นหลักมาจากเรื่องเงินขายที่ 15 ล้านของหลวงพ่อ เมื่อก่อนอยู่ในความดูแลของลูกศิษย์คนสนิท แต่พอหลวงพ่อมรณภาพ เงินทั้งหมดตกไปอยู่ในความดูแลเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันตามกฎหมาย เตรียมเปิดโลงพิสูจน์ร่างเน่าไม่เน่าแน่ 3 ธ.ค.นี้ หากศพไม่เน่าห้ามเผา ยันที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเปิดโลงหลวงพ่อ เพราะถ้าทำโดยพลการถือว่าผิดกฎหมาย

ความคืบหน้าปัญหางานพระราชทานเพลิงศพพระราชนันทาจารย์ หรือหลวงพ่อผล อดีตเจ้าอาวาสวัดเชตวันธรรมาวาส (วัดเซิงหวาย) บางซื่อ กทม. ล่าสุดบรรดาลูกศิษย์ขัดขวางไม่ให้สลายร่าง อ้างสังขารไม่เน่าเปื่อยจะนำไปใส่ไว้ในโลงแก้วเพื่อบูชา โดยลูกศิษย์ที่คัดค้านการเผาศพยังคงผลัดเปลี่ยนเวรกันมาเฝ้าศพหลวงพ่อ รวมทั้งตำรวจสน.เตาปูน มาช่วยรักษาความสงบในเวลากลางคืน เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้ง 2 กลุ่มมีปัญหากัน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

"ปล่อยข่าว ศพเน่าส่งกลิ่น"


เมื่อวันที่ 27 พ.ย. พระกีระปัญญา พระผู้ดูแลศพหลวงพ่อ กล่าวว่า กลุ่มที่จะให้เผาศพหลวงพ่อปล่อยข่าวว่ามีการฉีดน้ำยาอาบศพ ศพเน่าส่งกลิ่นเหม็น มีน้ำเหลืองไหลออกมาบ้าง และมีการนำศพหลวงพ่อเก็บไว้ในโลงเย็น ซึ่งความจริงไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ศพของหลวงพ่อเก็บไว้ในโลงไม้สักที่กุฏิ ร.9 ตลอดเวลา และกุฏิก็ไม่ได้ติดเครื่องปรับอากาศ สภาพอากาศภายในกุฏิร้อนอบอ้าว เหตุที่ศพไม่เน่าเพราะบารมีของหลวงพ่อ

"อาตมาเฝ้าศพหลวงพ่อตั้งแต่ท่านมรณภาพจนถึงวันเปิดศพ ยืนยันว่าไม่เคยมีการเปิดโลง เพราะไม่มีอำนาจ ใครเปิดโลงถือว่าทำผิดกฎหมาย ซึ่งตอนที่หลวงพ่อมรณภาพทางโรงพยาบาลบางโพ ถามว่าจะฉีดยารักษาศพหรือไม่ พวกลูกศิษย์ไม่ให้ฉีดเพียงแต่ราดน้ำยาดับกลิ่นไว้รอบๆ ศพ เพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นเหม็นเวลาเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังมาเปิดโลง" พระกีระปัญญา กล่าว

"ปม 3 ประเด็นเผา"


พระกีระปัญญา กล่าวต่อว่า ก่อนจะเปิดโลงเคยคุยกันมาก่อนแล้วว่า หากเปิดโลงแล้วศพไม่เน่าจะไม่เผาจะเผาแต่โลงเท่านั้น และเมื่อเปิดโลงแล้วศพไม่เน่า เจ้าพนักงานสำนักพระราชวัง เจ้าคณะจังหวัด พระผู้ใหญ่ และเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ต่างก็เห็นเช่นนั้น แต่ทางนั้นยังยืนยันที่จะเผา อ้างว่าขอพระราชทานเพลิงศพไปแล้ว ซึ่งบรรดาลูกศิษย์ที่คัดค้านเดินทางไปสำนักพระราชวังหลายครั้ง เพื่อขอหนังสือยกเลิกพระราชทานเพลิงศพซึ่งสำนักพระราชวังบอกด้วยว่าหากจะเลื่อนวันหรือยกเลิกพระราชทานเพลิงศพนั้นทำได้ แต่ต้องให้เจ้าอาวาสรับรองคำร้อง แต่เจ้าอาวาสไม่ยอมเซ็นอ้างเป็นหนังสือปลอม

"พวกที่ต้องการเผาคาดว่ามีอยู่ 3 ข้อหลักๆ คือ 1.ต้องการเอาชนะ เนื่องจากตอนที่เก็บศพไว้ 100 วัน พวกนั้นต้องการเผา แต่ศพไม่เน่าทำให้ต้องเก็บศพไว้ 2.เป็นเรื่องเงินที่เป็นมรดกของหลวงพ่อที่เหลืออยู่จากการขายที่ดินประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้เงินจะอยู่ในความดูแลของลูกศิษย์คนสนิทของหลวงพ่อ แต่เมื่อท่านมรณภาพไป เงินทั้งหมดตกไปอยู่ในความดูแลของเจ้าอาวาสปัจจุบันตามกฎหมาย และสุดท้ายคือเรื่องบารมีของหลวงพ่อ เพราะหากเก็บศพของหลวงพ่อไว้ พวกเขาคงกลัวว่าผู้คนจะไปกราบไหว้แต่ศพ ไม่ไปไหว้พระที่ยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้ได้แต่รอให้ถึงวันที่ 3 ธ.ค. เพื่อเปิดโลงดูอีกครั้ง ซึ่งถึงตอนนั้นผลจะออกมาอย่างไร จะต้องเป็นไปตามข้อตกลง หากศพไม่เน่าห้ามเผา แต่ถ้าศพเน่าถือว่าหลวงพ่อไม่อยากอยู่กับพวกเราแล้ว จะยอมให้เผาศพหลวงพ่อแต่โดยดี วันนั้นชาวบ้านที่คัดค้านจะรวมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง เพื่อให้หลวงพ่ออยู่กับพวกเรา" พระกีระปัญญา กล่าว

"จัดกำลัง ตร.ดูแลความสงบเรียบร้อย"


ด้านพ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ สุมิตนันท์ ผกก.สน.เตาปูน กล่าวว่า ขณะนี้จัดกำลังตำรวจสายตรวจเข้าไปดูแลความเรียบร้อยจนกว่าจะถึงวันที่ 3 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันที่กำหนดพิสูจน์สังขารหลวงพ่อผล เหตุการณ์ไม่ตึงเครียดมาก ไม่มีความจำเป็นต้องจัดกำลังไปเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง และวัดเซิงหวายเป็นสถานที่ปลอดภัย และใส่กุญแจศาลาไว้อย่างแน่นหนา ซึ่งทุกฝ่ายตกลงกันเป็นอย่างดี คงไม่มีใครผิดคำพูด คงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร และไม่คิดว่าจะมีใครมาทำอะไรกับร่างของหลวงพ่อผล เพราะทุกคนล้วนเป็นลูกศิษย์ และรักเคารพหลวงพ่อเหมือนกันทุกคน

"ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างกลัวว่า ฝ่ายตรงข้ามคิดจะทำอะไรไม่ดีต่อร่างหลวงพ่อ ไม่เพียงฝ่ายที่คัดค้านการเผาศพเท่านั้น เพราะฝ่ายเจ้าอาวาสเองก็กลัวเหมือนกัน และประมาณวันที่ 30 พ.ย. ถึงวันที่ 1 ธ.ค.นี้ จะเรียกทุกฝ่ายเข้ามาปรึกษาในรายละเอียดอีกครั้งว่า หากเปิดโลงพิสูจน์แล้วพบว่า ร่างของหลวงพ่อไม่เน่าจะต้องทำอย่างไรกันต่อ จะเก็บไว้อย่างไร และให้ใครเป็นผู้ดูแล หากร่างหลวงพ่อเน่าเปื่อย จะเก็บไว้กี่วันจึงจะเผา เพื่อยุติปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าทุกคนรักหลวงพ่อด้วยใจจริง ไม่มีใครคิดที่จะหาผลประโยชน์จากร่างของหลวงพ่อ" ผกก.สน.เตาปูน กล่าว

"ไม่มีใครรู้ มีตู้บริจาคมาตั้งได้ยังไง"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาตั้งศพหลวงพ่อผล บริเวณด้านหน้าหีบบรรจุร่างหลวงพ่อ มีเจ้าหน้าที่วัดนำตู้รับบริจาคมาตั้งไว้ พร้อมป้ายเขียนว่า ตู้รับบริจาคงานพระราชทานเพลิงพระราชนันทาจารย์ โดยลูกศิษย์ที่เฝ้าศาลา กล่าวว่า ไม่ทราบว่าใครนำมาตั้งไว้ตั้งแต่เมื่อใด โดยเห็นตู้ดังกล่าวมาตั้งไว้แล้วเมื่อมาเปิดศาลาในช่วงเช้าที่ผ่านมา

ส่วนที่กุฏิ 3 ซึ่งเป็นกุฏิของพระครูปลัดแก้ว กิตติสาโร เจ้าอาวาส วัดเซิงหวายรูปปัจจุบัน ปิดประตูอย่างมิดชิด โดยมีป้ายเขียนข้อความไว้ว่า "กำลังจำวัด ห้ามรบกวน" เมื่อสอบถามพระที่อยู่ข้างเคียง ได้ความว่า พระครูปลัดแก้วเพิ่งปิดกุฏิดังกล่าวได้ไม่นาน เนื่องจากต้องการพักผ่อนหลังจากที่มีลูกศิษย์มากราบนิมนต์พูดคุยเรื่องต่างๆ พร้อมทั้งขอหนังสือหลวงพ่อผลตลอดเวลา ตั้งแต่หลังการฉันเพล ทำให้เหน็ดเหนื่อยจนต้องจำวัด ซึ่งไม่รู้กำหนดเวลาแน่นอนที่พระครูปลัดแก้ว จะเปิดกุฏิออกมา

"ยันศพไม่เน่า"


ขณะที่ชาวบ้านในชุมชนวัดเซิงหวาย กล่าวว่า วันที่เปิดศพหลวงพ่อนั้น เห็นกับตาว่าร่างหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อย แต่มีความเห็นเป็นกลางไม่ว่าจะเผาร่างหลวงพ่อหรือไม่ ยังศรัทธาหลวงพ่ออยู่เหมือนเดิม ส่วนกระแสข่าวที่ว่าลูกศิษย์ส่วนใหญ่คัดค้านเผาศพหลวงพ่อนั้น เท่าที่เห็นเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เพราะวันเกิดเหตุมีประมาณ 100 คนเท่านั้นที่สวมเสื้อสีเหลือง

และส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่เพียงไม่กี่ปี ส่วนลูกศิษย์เก่าแก่ของหลวงพ่อจะสวมชุดดำ และต่างเข้าใจในความตั้งใจของหลวงพ่อซึ่งเป็นพระที่ไม่ยึดติด และต้องการละสังขารตามอย่างท่านพุทธทาสภิกขุ เพียงแต่หลวงพ่อไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้อย่างท่านพุทธทาสฯ จนเกิดความวุ่นวายในวันนี้



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์