หมอหนุ่มเมาดุมีดไล่ฟันเมีย-ตร.

นายแพทย์หนุ่มใหญ่เมาอาละวาด คว้ามีดไล่ฟันเมีย-ลูกกลางคลินิก ตร.บุกไปช่วยเหลือพร้อมอาสาสมัครกู้ภัยถูกไล่ฟันกระเจิง ก่อนหมอคลั่งจะเผ่นขึ้นรถขับหนี แต่ไม่รอดไปจนมุมกลางทาง ส่วนเมีย-ลูกปลอดภัยเพราะหลบเข้าไปอยู่ในห้องได้ทัน เผยกินเหล้าเมากลับมาบ้านกลางดึก เกิดมีปากเสียงกับเมียจนอาละวาด ตร.จับนอนบนโรงพักให้สร่างเสียก่อน ด้านเมียยันไม่เอาเรื่องแต่ขอย้ายไปอยู่กับญาติชั่วคราว ส่วนหน่วยกู้ภ้ยที่บาดเจ็บตร.เรียกสอบอีกครั้งหากเอาเรื่องหมอหนุ่มก็ไม่รอด

เมื่อเวลา 02.50 น. วันที่ 28 พ.ย. พ.ต.ท.กิติคุณ บุญเสรฐ สวป.สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งว่ามีชายเมาสุราอาละวาดทำร้ายร่างหญิงและเด็กภายในคลินิกเมืองใหม่แพรกษาการแพทย์ ถ.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมกับอาสาสมัครสภ.อ.เมืองสมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ด้านล่างเปิดเป็นคลินิกรักษาโรคทั่วไป ส่วนด้านบนเป็นที่พักอาศัย พบน.พ.พิชัย มงคลพรสินธรรม อายุ 45 ปี เจ้าของคลินิกดังกล่าวอยู่ในอาการเมาสุรา ถือมีดดาบยาวประมาณ 1 ฟุต พยายามพังประตูห้องนอนชั้น 2 โดยมีเสียงผู้หญิงและเด็กร้องตะโกนขอความช่วยเหลืออยู่ด้านใน

เมื่อน.พ.พิชัย เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยก็ผละจากประตูห้องนอน มาที่เจ้าหน้าที่ใช้มีดไล่ฟันหน่วยกู้ภัยบาดเจ็บเล็กน้อย 4 คน ก่อนที่จะแหกวงล้อมวิ่งหนีออกมาขึ้นรถฮอนด้าซีอาร์วี สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ชข 4496 กทม. ที่จอดอยู่หน้าร้านขับหลบหนี แต่ตำรวจสายตรวจขับรถไล่ตามและไปทันกันบริเวณซอยแพรกษา 8 ขับรถปาดหน้าก่อนเข้าควบคุมตัวหมอเมาคลั่งไว้ได้ ภายในรถพบอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ 1 เล่ม และค่อนปอนด์อีก 1 อัน จึงยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนพามาสอบสวนที่โรงพัก ส่วนลูกและภรรยาของน.พ.พิชัย ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่มีท่าทีตื่นตระหนก ตำรวจจึงให้ไปอาศัยอยู่กับญาติชั่วคราวก่อน

สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุน.พ.พิชัย ไปดื่มเหล้าเมากลับมาถึงบ้านกระทั่งเกิดมีปากเสียงกับภรรยา จนเกิดอาการคลุ้มคลั่งคว้ามีดดาบจะทำร้าย ทำให้ภรรยาและลูกวิ่งหนีเข้าไปหลบในห้องนอนและล็อกประตูเอาไว้ ก่อนโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากญาติ กระทั่งเรื่องมาถึงตำรวจจึงยกกำลังมาจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นน.พ.พิชัย ยังมีอาการมึนเมาไม่สามารถให้การใดๆ ได้ ขณะที่ภรรยาก็ไม่เอาเรื่อง

ด้านร.ต.ท.อุทัย โชติมณี พนักงานสอบสวน กล่าวว่า แม้ภรรยาจะไม่เอาเรื่องแต่อาสาสมัครที่ถูกทำร้ายจำนวน 4 คนมาลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ซึ่งตำรวจต้องเรียกมาสอบปากคำและสอบถามอีกครั้งว่าจะเอาเรื่องหรือไม่ หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องดำเนินคดีกับน.พ.พิชัยต่อไป