อหังการวัยโจ๋! จับล็อกม.2 สันติราษฎร์จ้วงแทงพรุนหน้าห้างดังกลางกรุง
"แทงยับคาป้ายรถเมล์"
ยั๊วะขอเบอร์หญิงไม่ให้ 4โจ๋ซ่ารุมทำร้ายเพื่อนชายรุ่นน้อง นักเรียนม.2 สันติราษฎร์เคราะห์ร้าย ถูกอัดยับหน้าป้ายรถเมล์ห้างดังย่านอนุสาวรีย์ 3 คนจับล็อกให้มืดมีดจ้วงแทงไม่ยั้งร่างพรุนดับอนาถ ตำรวจได้เค้าแก๊งเดนนรก ตามรวบตัวดำเนินคดี
เมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ (29 พ.ย.) พ.ต.ท.ธำรง สวางควัฒน์ สารวัตรเวร สน.ดินแดง รับแจ้ง มีเหตุทำร้ายร่างกาย โดยคนร้ายใช้อาวุธมีดจ้วงแทงเด็กวัยรุ่นบริเวณป้ายรถเมล์หน้า ห้างแฟชั่นมอลล์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถ.ทุ่งพญาไท แขวง-เขตดินแดง กทม. จึงรุดตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือดกระจายเต็มพื้น ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งรพ.ราชวิถีและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงเก็บรวบรวมหลักฐานก่อนรุดตรวจสอบสภาพศพผู้เสียชีวิต
"เข้ามาขอเบอร์ ไม่ให้แทงเพื่อนชายรุ่นน้องยับ นับ 10 แผล"
จากการตรวจสอบทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ ด.ช. ธีระพงษ์ แหวนเงิน อายุ 13 ปี เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย ถ.ศรีอยุธยา แขวงพญาไท เขตราชเทวี อยู่บ้านเลขที่ 5004/60 แขวง-เขตดินแดง กทม. สวมชุดกีฬาเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาล กางเกงวอร์มสีดำ ถูกอาวุธมีดแทงเข้าบริเวณใต้ราวนมซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ยาวประมาณ 15 ซม. 1 แผล, บริเวณโคนขาทั้ง 2 ข้าง, และรอบลำตัวถูกฟัน แทงรวมกว่า 10 แผล เจ้าหน้าที่นำศพส่งนิติเวช รพ.รามาฯ เพื่อชันสูตร
จากการสอบสวน น.ส.อมราวดี สายเย็น อายุ 19 ปี เพื่อนรุ่นพี่ผู้ตายให้การว่า เมื่อค่ำที่ผ่านมาตนได้นัดเพื่อนออกไปเดินเล่นที่ห้างแฟชั่นมอลล์ โดยมีน้องธีระพงษ์เป็นผู้ชายในกลุ่มเพียงคนเดียว โดยเดินเล่นจนกระทั่งเวลาประมาณกว่า 21.00 น. ได้เจอกลุ่มวัยรุ่น 4 คน มาขอเบอร์โทรศัพท์ของตน แต่ตนเองไม่ให้เพราะจำได้ว่าวัยรุ่นพวกนี้มักจะเที่ยวเตร็ดเตร่อยู่ย่านนี้เป็นประจำและคาดว่าน่าจะเป็นพวกที่อยู่ในค่ายทหาร ได้เคยมาขอเบอร์โทรจากตนครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ 2-3 วันก่อนแต่ตนก็ไม่ได้ให้ไป ครั้งนี้จึงพากันเดินหลีกกลุ่มวัยรุ่นพวกนั้นไป
"เดินเข้ามาล็อกคอ แล้วแทงไม่ยั้ง"
หลังจากนั้นพวกตนกำลังจะกลับบ้าน โดยได้ส่งเพื่อน 2 คนขึ้นรถเมล์ไปก่อน และกำลังยืนรอรถเมล์กันอยู่ ก็พบว่ากลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิมได้เข้ามาหาเรื่องอีก โดยได้วกมาหาตนและพูดว่า "ไม่ใช่เด็กสันติราษฎ์ออกไป" แต่กลับหันไปหาผู้ตายและบอกว่า "มึงเด็กสันติราษฎร์" จากนั้นวัยรุ่นทั้ง 4 คนได้เข้ามาทำร้ายน้องธีระพงษ์ โดย 2-3 คน ได้เข้าล็อกตัวผู้ตายไว้ ส่วนอีกคนได้ใช้อาวุธมีดจ้วงแทงอย่างไม่ยั้ง จากนั้นทั้งหมดก็วิ่งหลบหนีไป โดยคนตายได้ทรุดลงตนจึงเข้าประคองและช่วยกันนำส่งรพ.แต่ต้องมาเสียชีวิตในที่สุด
ต่อมา นายสนธยา และนางบุญมี แหวนเงิน บิดา-มารดาของผู้เสียชีวิตและเพื่อนที่ทราบเหตุได้เดินทางมายังรพ.และต่างร้องไห้เสียใจที่ต้องสูญเสียลูกชายไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว โดยทันทีที่เห็นศพลูกชาย นายสนธยาและนางบุญมีต่างร่ำไห้กอดกัน ก่อนที่จะใช้มีลูบศีรษะลูกชาย และใช้ผ้าเช็ดตัวให้กับลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย
"ปกติเป็นเด็กเรียนเก่งเพิ่งโทรคุยกันว่ากำลังจะกลับบ้าน"
โดยนางบุญมี ผู้เป็นแม่ได้เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนมีด.ช.ธีระพงษ์เป็นลูกคนเดียว ปกติลูกชายเป็นคนเรียนเก่ง และยังเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียน ยอมรับว่าลูกยังมีอาการตุ๊งติ๊งคล้ายผู้หญิง ชอบคบกับเพื่อนผู้หญิงไปไหนมาไหนด้วยกัน และไม่เคยเกเร จึงเป็นไปไม่ได้ว่าลูกจะไปมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร โดยวันนี้ลูกชายไม่ได้ไปโรงเรียน
ซึ่งเมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 10.00 น. ลูกชายขออนุญาตออกไปเที่ยวกับเพื่อน โดยที่ผ่านมาลูกมักจะแวะเที่ยวย่านอนุสาวรีย์ แฟชั่นมอลล์เป็นประจำเพราะเป็นเส้นทางผ่านระหว่างบ้านกับโรงเรียน และเมื่อตอน 22.00 น. ตนเองได้โทรศัพท์ไปหาลูกให้รีบกลับบ้าน แต่ลูกบอกว่ายืนรอรถเมล์อยู่ กำลังจะกลับบ้าน กระทั่งเพื่อนของลูกชายโทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกชายถูกแทงได้รับบาดเจ็บ
"ตร.เร่งสืบ ยันพอรู้ตัวคนร้ายแล้ว"
"ตอนแรกคิดว่าแค่ทำร้ายกันธรรมดา ไม่คิดว่าจะทำกันถึงขนาดนี้ ลูกชายฉันไปทำอะไรให้ ไม่รู้ว่าใครที่มันจิตใจโหดร้ายมาทำกับลูกได้ ถึงแม้จะมีเรื่องโกรธแค้นอะไรกันหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่น่าจะเอากันถึงชีวิต จึงอยากให้ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี"นางบุญมากล่าวทั้งน้ำตา
ด้าน พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรัมย์ สว.สส.สน.ดินแดง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้วหลายปาก และพอจะรู้เบาะแสแล้วว่าคนร้ายเป็นใคร แต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนที่จะดำเนินการจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป