เก๋งเฉี่ยวจยย.ดับ-เพื่อนเหยื่อรุมตื้บ

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 24 พ.ย. พ.ต.ท.สุพจน์ คงนาลึก สว.เวรสอบสวน สภ.อ.ลานสกา นครศรีธรรมราชได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุรถชนกันที่ถนนสายนคร-ลานสกา ม.4 ต.ท่าดี อ.ลานสกา และมีการทำร้ายร่างกายคู่กรณีกันที่เกิดเหตุ รับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงนำกำลังตำรวจรีบรุดไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบกลุ่มวัยรุ่นกำลังรุมทำร้ายชายคนหนึ่งทราบชื่อในเวลาต่อมาคือนายณัฐพงศ์ ธรรมทูน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 ม.4 ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเมื่อกลุ่มวัยรุ่นเห็นเจ้าหน้าที่จึงรีบวิ่งแยกย้ายกันหลบหนีไปทันที และพบว่านายณัฐพงศ์ อยู่ในสภาพถูกทำร้ายจนเลือดกบปาก ใกล้กันพบรถยนต์เก๋งฟอร์ดสีแดงทะเบียนป้ายแดง กจ-1985 สุราษฎร์ธานี ชนเสาไฟฟ้าข้างถนนสภาพพังยับเยินเนื่องจากถูกกลุ่มวัยรุ่นทุบตีซ้ำด้วย

นอกจากนั้นยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นวัยรุ่นนอนเจ็บอาการสาหัสอยู่กลางถนน 3 คน ข้างรถจยย.ฮอนด้าเวฟสีแดง ทะเบียน ขฉท-539 นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่จึงรีบนำคนเจ็บส่งร.พ.ลานสกา อย่างรีบเร่ง แต่ปรากฏว่าคนเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อผู้ตายคือนายปราโมทย์ ครุฑแคล้ว อายุ 23 ปี เป็นคน ต.ท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช

สภาพหน้าอกยุบ คอหัก ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 คน คือนายสัญชัย จิตสมพงศ์ อายุ 23 ปี และนายจตุพร หิรัญรักษ์ อายุ 23 ปี อยู่ในอาการสาหัสแพทย์ ร.พ.ลานสกาได้ส่งต่อไปรักษาตัวที่ร.พ.มหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อช่วยชีวิตเป็นการด่วนแล้ว ในขณะที่ได้นำตัวนายณัฐพงศ์ไปรักษาบาดแผลที่ร.พ.ลานสกา มีกลุ่มวัยรุ่นคู่อริที่ทำร้ายร่างกายพยายามตามมาก่อกวนที่ ร.พ.และพยายามที่จะเข้าไปทำร้ายร่างกายนายณัฐพงศ์ ซ้ำอีก แต่ตำรวจอยู่จึงไม่มีใครกล้า

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายและผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน ได้ขับขี่รถจยย.มาจากร้านอาหารแห่งหนึ่งในละแวกที่เกิดเหตุหลังจากดื่มเหล้ากับกลุ่มเพื่อนฝูง เมื่อขึ้นมาถึงที่เกิดเหตุได้ถูกเก๋งของนายณัฐพงศ์ เฉี่ยวชนรถจยย.จมล้มระเนระนาด ส่วนรถยนต์เก๋งเสียหลักไปพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าข้างถนน ปรากฏว่าหลังเกิดเหตุรถชนกันกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บตามไปดูที่เกิดเหตุพบว่าเพื่อนถูกรถชนจึงกรูเข้าไปรุมทำร้ายนายณัฐพงศ์ ผู้ขับขี่รถเก๋งอย่างชุลมุนด้วยความโกรธแค้น พร้อมทุบตีรถเก๋งจนพังยับเยิน กระทั่งเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ กลุ่มวัยรุ่นจึงแยกย้ายกันหลบหนีดังกล่าว

พ.ต.ท.สุพจน์ คงนาลึก สารวัตรเวร สภ.อ.ลานสกา เจ้าของคดีกล่าวว่า ช่วงที่ตำรวจนำตัวนายณัฐพงศ์ คนขับรถเก๋งส่งร.พ.ลานสกา มีวัยรุ่นเพื่อนของผู้ตายและผู้บาดเจ็บตามมาแล้วบังคับให้นายณัฐพงศ์ไปกราบศพนายปราโมทย์ ผู้ตายด้วย เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาห้ามปรามแยกฝ่ายกันอย่างจ้าละหวั่น ซึ่งการดำเนินคดีนี้จะต้องแยกออกเป็นคดี พ.ร.บ.จราจร และคดีอาญาร่วมกันทำร้ายร่างกาย โดยจะให้ฝ่ายผู้ขับขี่รถเก๋งมาชี้ตัวฝ่ายที่ทำร้ายเพื่อดำเนินการต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด