ตั้งค่าหัว5หมื่นล่าหน.โจรปล้นทอง

ตร.หนองคายตั้งค่าหัว 5 หมื่น รางวัลนำจับหัวหน้าแก๊งโจรปล้นทอง คุมสองสมุนทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่จุดรับเงินไปซื้อจยย.จนถึงจุดทำลายพาหนะของกลาง ตร.ลาวบุกบ้านญาติผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ระบุทางการลาวต้องการตัว เพราะก่อคดีอุกฉกรรจ์ไว้หลายคดีหลายพื้นที่ แต่ละครั้งจะลงมือก่อเหตุอย่างเลือดเย็น มีเพื่อนร่วมขบวนการทั้งคนไทยและคนลาว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 พ.ย. พ.ต.อ.สุริยา วรินทรา รองผบก.ภ.จว.หนองคาย, พ.ต.อ.วุฒิ ป้อมปักษา ผกก.สภ.อ.เมืองหนองคาย, พ.ต.ท.ปัญญา ปุยนุเคราะห์ รองผกก.(สส.), พ.ต.ท.เกษม มุทาพร สว.สส. พร้อมตำรวจจำนวนหนึ่ง ควบคุมตัวนายสุรชัย จันทองสุก หรือหยุย อายุ 36 ปี ราษฎรชาวลาว, น.ส.ประพัฒน์สร สุริยะเพ็ญ อายุ 28 ปี ภรรยานายสุรชัย อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมในความผิดพัวพันกับคดีปล้นร้านทองศรีกาญจนา อ.เมืองหนองคาย เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยทั้งคู่เป็นผู้จัดหารถจักรยานยนต์ให้นายสมบัติ เพิ่มปัญญา หรือแด๊ก ผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุปล้นร้านทอง

จุดแรกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งสองคนไปยังจุดที่รับเงินนำไปซื้อรถจักรยานยนต์บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จากนั้นไปยังร้านขายรถจักรยานยนต์มือสองบริเวณตลาดชัยพร เมื่อซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบีทสีแดงแล้ว นำรถคันดังกล่าวไปยังทางเข้าวัดเนินพระเนาว์ จุดที่สองสามีภรรยานำรถไปจอดรอนายแด๊ก จากนั้นควบคุมตัวไปยังป่าละเมาะบริเวณหมู่บ้านดงเจริญ ซึ่งเป็นจุดที่นายแด๊กนำรถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งไว้หลังจากก่อเหตุปล้นร้านทองแล้ว บริเวณนี้นายแด๊กได้โทรศัพท์หานายสุรชัยเพื่อให้นายสุรชัยนั้นนำรถไปทิ้งลงสระน้ำภายในป่าละเมาะ ต่อมานายสุรชัยได้รับโทรศัพท์จากนายแด๊กอีกครั้ง

ว่าให้นำรถขึ้นมาจากนั้นแล้วถอดชิ้นส่วนชำแหละตัวรถ ซึ่งนายสุรชัยกับเพื่อนอีก 2 คนช่วยกันถอดชิ้นส่วนในเวลากลางดึกค่อนรุ่ง ด้วยเกรงว่าจะมีคนมาเห็นจึงถอดชิ้นส่วนรถไม่หมด ชิ้นส่วนรถที่ถอดออกแล้วนายสุรชัยนำใส่กระสอบโยนทิ้งไว้ในป่า แล้วนำซากรถที่ยังชำแหละไม่หมดพ่วงใส่รถจักรยานยนต์อีกคันนำไปชำแหละต่อที่บริเวณป่าละเมาะอีกแห่ง หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จแล้วควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดกลับมาควบคุมไว้ที่สภ.อ.เมืองหนองคาย

เวลา 09.30 น.ได้มีตำรวจลาวจำนวน 5 นาย พร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงเขตหนองคาย(นรข.) มาตรวจสอบที่บ้านญาติของนายสมบัติ หรือแด๊ก ผู้ต้องหาปล้นร้านทองศรีกาญจนา ซึ่งบ้านญาติหลังดังกล่าวอยู่ที่บ้านบอน ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย โดยญาติรายนี้เผยว่าตำรวจลาวแต่งตัวเต็มยศนั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งเดินเข้ามาถึงบ้านระยะทางประมาณ 150 เมตร ถึงตัวบ้าน พร้อมกับนรข.ไทยเข้ามาพูดคุยสอบถามประวัติทั่วไปของนายแด๊ก และความสัมพันธ์กับน.ส.เตียง โดยบอกไปว่านายแด๊กมาอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียง 3 วัน ตั้งแต่วันแต่งงานกับน.ส.เตียงเท่านั้น

จากนั้นก็พากันไปเช่าบ้านอยู่ที่ตัวเมืองหนองคายและนานๆ จึงจะกลับมาเยี่ยมบ้าน ตำรวจลาวก็มีการสำรวจรอบบ้าน ภายในบ้าน และถ่ายรูปของนายแด๊กที่มีอยู่ภายในบ้านไว้ด้วย ซึ่งตำรวจลาวบางนายบอกว่าอยากจะจับตัวนายแด๊กอาจจะทั้งจับเป็นหรือจับตายก็เป็นได้ เพราะก่อคดีอย่างโชกโชนหลายคดี จนทำให้ญาติของนายแด๊กนั้นรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย เนื่องจากขณะนี้อยู่กันเพียงลำพังสองตายาย และต้องเลี้ยงหลานซึ่งเป็นลูกชายของนายแด๊กกับน.ส.เตียงอายุ 8 เดือนเท่านั้น พร้อมเปิดใจว่ารู้สึกเสียใจมากหลังจากทราบประวัติและพฤติกรรมของนายแด๊ก หากรู้ก่อนหน้านี้ก็จะห้ามน.ส.เตียงไม่ให้ยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้ทางการลาว โดยชุดประสานงานความมั่นคงแนวชายแดนไทย-ลาว ประเทศสปป.ลาว จัดชุดปฏิบัติงานตามล่าตัวนายแด๊กออกเป็น 4 ชุด มีการตรวจสอบรูปถ่าย ประวัติ รูปพรรณสัณฐานของนายแด๊ก ติดตามและไล่ล่าตัวนายแด๊กทั้งฝั่งลาวและฝั่งไทย นอกจากนี้ยังทราบอีกว่าเพื่อนร่วมขบวนการของนายแด๊กมีหลายคนทั้งคนไทยและคนลาว ลงมือปฏิบัติการโหดในคดีอุกฉกรรจ์ในประเทศไทยหลายคดีหลายพื้นที่ แต่ละครั้งจะลงมือก่อเหตุอย่างเลือดเย็น ซึ่งขณะนี้ได้มีหนังสือจากนายอำเภอศรีเชียงใหม่ไปถึงประธานเมืองศรีโคตรตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ ให้ช่วยจับตากลุ่มขบวนการต้องสงสัยที่เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกับนายแด๊ก โดยทางการลาวให้ความสนใจกับการติดตามไล่ล่าตัวนายแด๊กเป็นอย่างมาก

พล.ต.ต.ปราโมทย์ เอี่ยมทัศน์ ผบก.ภ.จว.หนองคาย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ลาวเป็นการส่วนตัวให้ช่วยสืบสวนหากลุ่มคนร้ายและได้ตั้งรางวัลนำจับ 5 หมื่นบาท หากผู้ใดชี้เบาะแสคนร้ายแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนสามารถจับกุมตัวได้ให้มารับเงินรางวัลได้ทันที

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด