เหยื่อฆ่าถ่วงน้ำ แม่ม่ายจีน
"ตร.เชื่อฆ่าจากที่อื่น นำศพทิ้งอำพรางคดี"
กรณีมีผู้พบศพหญิงลักษณะคล้ายชาวจีนถูกฆ่าถ่วงน้ำบริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง หมู่ 4 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงสายวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยลักษณะศพสวมเสื้อยืดคอกลมแขนกุดลายหลากสี กางเกงขายาวสีดำ สวมสร้อยคอทองคำห้อยเจ้าแม่กวนอิมล้อมเพชร 1 องค์ มือซ้ายสวมสร้อยข้อมือทองคำมีลายดอกรูปกุหลาบ โดยมือทั้ง 2 ข้างถูกสวมกุญแจมือไพล่หลัง ข้อมือ ข้อเท้า
และลำคอถูกมัดด้วยเชือกขมวดเป็นปมแน่น พันทับด้วยสกอตเทปอีกชั้น ปากมีสกอตเทปพันหลายรอบ ลำตัวด้านหน้าตั้งแต่อกจนถึงเท้ามีเหล็กขนาด 2 คูณ 5 นิ้ว มัดทาบ ใช้ลวดทองแดงรัดติดกับศพทั้งหมด 5 เปลาะ ในชั้นต้นตำรวจเชื่อว่าถูกคนร้ายฆ่าจากที่อื่น แล้วนำศพมาทิ้งเพื่ออำพรางคดี
"เป็นแม่ม่ายชาวจีนทำธุรกิจนำเข้าน้ำมันเก่า"
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 พ.ย. นายไพรัตน์ วิสานนท์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94/1032 หมู่ 4 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. พร้อมนายชัชชัย นิยมพรสิน อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/114 ตรอกหมู่บ้านนอกเขต หมู่ 3 แขวง-เขตบางนา กทม. เข้าพบ ร.ต.ต.เสด็จ แก้วสิงห์ทอง ร้อยเวร สภ.อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของคดี เนื่องจากสงสัยว่าเป็นศพของนางหยูเฉียว เยียน อายุ 44 ปี นักธุรกิจชาวจีน อยู่บ้านเดียวกับนายชัชชัย โดยนางหยูเฉียวเป็นเพื่อนนายไพรัตน์ และเป็นแม่บุญธรรมของนายชัชชัย
ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่ วันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหลักฐานเป็นสร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือทองคำมาให้ดู นายชัชชัยยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินของนางหยูเฉียว พร้อมกันนี้นายชัชชัยให้รายละเอียดว่า นางหยูเฉียวเป็นแม่ม่าย มีลูกกับสามีเก่า 1 คน เป็นหญิงวัย 9 ขวบ เข้ามาอยู่เมืองไทย ทำธุรกิจเกี่ยวกับนำเข้าน้ำมันที่ใช้แล้วจากฮ่องกง เพื่อนำไปทำไบโอดีเซลกับอาหารสัตว์
"ออกไปเล่นไพ่แล้วหายตัวไป พบอีกทีเป็นศพแล้ว"
นายชัชชัยยังให้การอีกว่า ต่อมาเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีนายปิง เป็นชาวจีน ทราบเพียงว่าทำธุรกิจส่งออกน้ำยางพาราจากภาคใต้ไปฮ่องกง เข้ามาติดพัน เนื่องจากนางหยูเฉียวเป็นคนหน้าตาดี พร้อมกับชักชวนนางหยูเฉียว ทำธุรกิจซื้อขายลวดทองแดง ก่อนที่จะหายตัวไป นางหยูเฉียวบอกว่าจะเดินทางไปเล่นการพนันไพ่ป๊อกแปดเก้าที่ จ.จันทบุรี ก่อนจะขับรถเก๋งโตโยต้าคัมรี่สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษฮ 5238 กรุงเทพมหานคร ออกจากบ้าน
แล้วหายตัวไป พยายามออกตามหาไปตามสถานที่ต่างๆแต่ไม่พบ จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.บางนา เพื่อให้ช่วยออกตามหา กระทั่งมาทราบข่าวว่ามีผู้พบศพผู้หญิงถูกฆ่าถ่วงน้ำ ด้วยความสงสัยเดินมาดู ปรากฏว่าเป็นศพของนางหยูเฉียวที่หายตัวไป สำหรับทรัพย์สินที่หายไปนอกจากรถเก๋งแล้ว ยังมีเงินสด 5 หมื่นบาท เงินหยวนอีก 5 หมื่นหยวน และบัตรเอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย 1 ใบ
"ตร.คาดคนใกล้ชิด ฆ่าชิงทรัพย์แล้วนำศพไปโยนทิ้งน้ำ"
ขณะเดียวกัน ตำรวจตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารพบว่าคนร้ายนำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดเงินจากตู้ เอทีเอ็ม 4 แห่ง โดยครั้งแรกกดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย ในปั๊มน้ำมัน ปตท. ย่านเทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ ครั้งที่ 2 กดที่ตู้เอทีเอ็มกสิกรไทย ในปั๊มน้ำมันเจ็ท ย่านบางปะกง ครั้งที่ 3 และ 4 กดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารเดียวกันในเขต อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
รวมเงินที่คนร้ายกดเอาไปทั้งหมด 4 แสนบาท จากข้อมูลรวมทั้งพยานหลักฐานต่างๆ ตำรวจมั่นใจว่าฆาตกรรายนี้น่าจะเป็นคนใกล้ชิด วางแผนลวงผู้ตายออกไปพบเพื่อชิงทรัพย์ โดยบังคับให้บอกรหัสเอทีเอ็ม ก่อนจะลงมือสังหารใช้เชือกรัดคอเสียชีวิตแล้วชิงเอาทรัพย์สิน จากนั้นนำศพยัดใส่ท้ายกระโปรงรถไปโยนทิ้งแม่น้ำบางปะกง แล้วหลบหนี ซึ่งตำรวจจะได้ติดตามตัวนายปิง ผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำอีกครั้งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ยังคงกบดานอยู่ในเมืองไทย
แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ