สยองเซ็นทรัลเวิลด์-นั่งร้านถล่มทับ2ศพ

สยองกลางกรุง นั่งร้านห้างเซ็นทรัลเวิลด์ถล่มระหว่างก่อสร้างซ่อมแซมหลังถูกเผา แท่งปูนทับคนงานตายสยอง 2 ศพ บาดเจ็บอีก 6 คน

 เผยเหตุเกิดระหว่างคนงานกำลังตัดแผ่นพื้นปูน จู่ๆนั่งร้านที่ทำงานอยู่ก็ทรุดแล้วพังลงมา คนงานกว่า 10 คนตกลงมา โดยแผ่นแท่งปูนร่วงลงมาทับ คนหนึ่งตัวขาด 2 ท่อน อีกคนถูกทับร่างแหลกเหลว ที่เหลือบาดเจ็บ มีหนึ่งรายแขนขาด ตร.เตรียมตั้งข้อหาเอาผิดวิศวกรฐานกระทำการโดยประ มาท ทำให้มีคนเสียชีวิต เซ็นทรัลพัฒนาเจ้าของห้างออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจ ยืนยันระบบความปลอดภัยได้มาตร ฐานและจะเสริมและปฏิบัติเข้มงวดมากขึ้น

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 ต.ค. พ.ต.ท. (หญิง) กิ่งกาญจน์ กาญจนไพศาล พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ปทุมวัน

รับแจ้งมีเหตุนั่งร้านก่อสร้างถล่ม มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พ.ต.อ.ชุมพร กาญจนรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช ร.พ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัย กทม.หน่วยแพทย์กู้ชีพวชิรพยาบาล และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซมและต่อเติม หลังจากถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายในช่วงมีการชุมนุมที่แยกราชประสงค์

จากการตรวจสอบพบว่านั่งร้านเหล็ก ความสูง 7 ชั้น ซึ่งค้ำเพื่อรองรับน้ำหนักคานของชั้น 7 พังถล่มลงมากองอยู่ที่บริเวณพื้นชั้นล่าง มีแผ่นปูนขนาดใหญ่ร่วงลงมากองอยู่ นอก จากนี้ยังมีถังแก๊สที่ใช้เชื่อมเหล็กในการก่อสร้างถูกแผ่นปูนหล่นทับจนได้รับความเสียหาย มีแก๊สรั่วไหลออกมาส่งกลิ่นเหม็น เจ้าหน้าที่รีบตัดไฟ ก่อนใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำเข้าไปที่ถังแก๊สเพื่อไม่ให้เกิดระเบิด

จากนั้นตรวจสอบในบริเวณดังกล่าว พบศพชายทราบชื่อต่อมาว่า นายพยอม หอมขจร อายุ 50 ปี ชาว จ.สุรินทร์ คนงานก่อ สร้างของบริษัท ช.อโยธยา รับเหมางานรื้อถอนและก่อสร้าง จำกัด สภาพศพนอนคว่ำหน้าลำตัวขาดตั้งแต่ช่วงเอว ผู้ตายสวมเสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า ถุงมือสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ใกล้กันพบศพนายฉัตร สุขดี อายุ 51 ปี คนงานก่อสร้างของบริษัทเดียวกัน ถูกแท่งปูนขนาดใหญ่ทับร่างจนแหลกเหลวอย่างสยดสยอง

นอกจากนี้ยังมีคนงานก่อสร้างบาดเจ็บอีก 6 คน คือนายผล บรรลือทรัพย์ อายุ 54 ปี นายเสรี บรรลือทรัพย์ อายุ 40 ปี นายบุญเลิศ บรรลือทรัพย์ อายุ 44 ปี นายสวาท นิเรืยงรัมย์ อายุ 37 ปี นายจำเนียร บุญยงค์ อายุ 44 ปี และนายจำนงค์ บุญยงค์ อายุ 17 ปี จึงนำทั้งหมดส่งร.พ.ตำรวจ โดยเฉพาะนายจำนงค์แขนขวาขาดอาการสาหัสมาก

พล.ต.ต.สุเมธกล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บริเวณช่วงต่อเติมที่เกิดเหตุ คือบริษัท ช.อโยธยา

ที่ทำสัญญากับห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อรื้อถอนต่อเติมซ่อม แซมส่วนที่ได้รับความเสียหาย โดยทางห้าง เซ็นทรัลเวิลด์ได้ว่าจ้างบริษัทพีพีเอสมาตรวจสอบควบคุมงานอีกทีหนึ่ง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในบริเวณจุดเกิดเหตุเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากนั่งร้านรับน้ำหนักไม่ไหวจึงถล่มลงมา

พล.ต.ต.สุเมธกล่าวว่า จากนี้จะให้วิศวกรจากสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบว่าการก่อสร้างต่อเติมนั้นถูกต้องตามแบบแปลนและได้มาตรฐานหรือไม่ เบื้องต้นน่าจะมีความผิดข้อหากระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต เนื่องจากขณะเกิดเหตุนั้นยังมีคนงานทำงานอยู่ด้านล่าง ไม่มีการกันพื้นที่ไม่ให้ใครเข้าไป วิศวกรผู้ควบคุมงานต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนบริษัทรับเหมาก่อสร้างต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าทำงานอย่างถูกต้องหรือไม่ คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์

ด้านนายพรเทพกล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งวิศวกรคุมงานต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

ส่วนจะยุติการก่อสร้างซ่อมแซมอาคารหรือไม่นั้นจะต้องให้สำนักการโยธาเข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนเรื่องที่ว่าเหตุเกิดจากการเร่งรัดทำงานหรือไม่นั้น กรณีนี้เป็นการก่อสร้างในกรณีพิเศษจากเหตุชุมนุมช่วงเดือนพ.ค. ไม่มีกำหนดระยะเวลาการก่อสร้างแต่อย่างใด

ต่อมานายพรเทพและคณะไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ร.พ.ตำรวจ พบว่านายผลและนายบุญเลิศมีบาดแผลและรอยฟกช้ำตามร่างกายแพทย์ปฐมพยาบาลแล้วให้กลับบ้านได้ ส่วนที่เหลือต้องอยู่รักษาอาการต่อที่ร.พ. คือนายสวาท ถูกของแข็งกระแทกที่ศีรษะ นายเสรี กระดูกต้นขาซ้ายและแขนซ้ายหัก นายจำเนียรมีเลือดออกที่ช่องท้อง และนายจำนงค์แขนขวาขาด

นายสวาทกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนและเพื่อนๆ 10 กว่าคน ทำงานอยู่ที่นั่งร้านบริเวณชั้น 2 โดยกำลังขนแผ่นพื้นออกมา เพื่อให้เครนยกลงไปด้านล่าง ขณะกำลังขนอยู่นั้นจู่ๆ นั่งร้านก็ทรุดตัวและพังครืนลงมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ทุกคนร่วงตกลงมาอย่างรวดเร็ว

นางภาวิณี อามาตย์ทัศน์ ผอ.เขตปทุมวัน กล่าวว่า ขณะนี้ได้กันพื้นที่ห้ามไม่ให้มีการเข้าใช้พื้นที่แล้ว สำหรับการขออนุญาตต่อเติม ปรับปรุงซ่อมแซมดังกล่าว ทราบว่าทางห้างได้ขออนุญาตกับกองควบคุมอาคาร สำนักการโยธา กทม. ซึ่งตนได้ประสานให้หน่วยงานดังกล่าวรับทราบ เพื่อเข้าตรวจสอบต่อไปแล้ว

นายจุมพล สำเภาพล ผอ.สำนักการโยธา (สนย.) กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ โดยนั่งร้านดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนการขออนุญาตรื้อถอนและซ่อมแซม ที่จะต้องมีนั่งร้านป้องกันอันตราย ซึ่งทางห้างได้ขออนุญาตกับทางกองควบคุมอาคาร มีบริษัทวิศวกรเป็นที่ปรึกษาควบคุมงาน คาดว่าการถล่มลงมาของนั่งร้านเป็นเพราะคนงานรื้อวัสดุลงมาหนักมากเกินไปจนนั่งร้านรับน้ำหนักไม่ไหว สนย.จะให้ทางห้างระงับการรื้อถอนอาคาร และแจ้งรายละเอียดเหตุ การณ์ว่าเกิดจากอะไร ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ หลายสาเหตุ เช่น ความประมาทของคนงานที่รื้อวัสดุลงมาหนัก จนนั่งร้านรับน้ำหนักไม่ไหว หรือเหตุสุดวิสัย สนย.และตำรวจจะต้องเข้าตรวจสอบพื้นที่ร่วมกันและสรุปสาเหตุอีกครั้งหนึ่ง

วันเดียวกัน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ออกหนังสือชี้แจง ว่า จากกรณีมีเหตุนั่งร้านยุบตัวที่ห้างสรรพสินค้าเซน

 โดยปกติแล้วบริษัทมีระบบการรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐาน ซึ่งทุกคนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตาม ดังนี้

1.ผู้รับเหมาจะต้องนำเสนอระบบการรักษาความปลอดภัยแบบองค์รวม และส่งแบบการติดตั้งนั่งร้าน เพื่อนำมาตรวจสอบโดยละเอียดก่อนเข้าพื้นที่ทุกครั้ง
2.มีการเข้มงวดในการตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะตรวจสอบระบบและอุปกรณ์ผ่านระบบการสแกนลายนิ้วมือ (Finger Scan) ทุกวัน
3.มีการประชุมเกี่ยวกับขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยโดยละเอียดก่อนเริ่มงานทุกเช้า (Morning Talk)
4.มีมาตรฐานระบบรักษาความปลอดภัยในที่สูง อาทิ การใช้เข็มขัดนิรภัย (Safety Belt) เพื่อการรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคล

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริษัทจะมีการเสริมระบบรักษาความปลอด ภัย และป้องกันอุบัติเหตุให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น บริษัทขอเรียนยืนยันว่าเราจะดำเนินการรักษาความปลอดภัยและดูแลความเรียบร้อยภายในสถานที่ของเราอย่างเต็มที่ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้ที่อยู่ในพื้นที่เป็นสำคัญ