เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ตราด ถึงเหตุพายุฝนกระหน่ำและดินถล่มที่เกาะช้าง
ถนนตั้งแต่เนินเคซี บ้านหาดทรายขาว จนถึงโรงแรมเกาะช้างแกรนด์วิว อยู่ในสภาพชำรุด อีกทั้งยังคงมีน้ำท่วมที่หน้าโรงแรมเกาะช้างลากูน และโรงแรมแมคซีสอร์ต น้ำสูงประมาณ 30-50 ซ.ม. และยังมีหลุมบ่อจำนวนมาก ส่วนจุดที่ดินถล่มที่หน้าโรงแรมเคซี แกรนด์รีสอร์ตนั้น ทางเทศบาลประกาศให้เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย ห้ามบุคคลใดๆ เดินทางเข้าไปอย่างเด็ดขาด ขณะที่ชายหาดมีเศษไม้และขยะถูกซัดมากองเป็นจำนวนมาก
สำหรับถนนสายบ้านคลองสน-บ้านหาดทรายขาว ทางเจ้าหน้าที่นำดินไปกองไว้ข้างทาง แต่ในช่วงบ่ายถนนได้ทรุดตัวลงอีก
ทำให้รถวิ่งผ่านได้ช่องทางเดียว ทางเทศบาลต้องนำป้ายเตือนมาติดไว้ ขณะที่ทางสำนักงานโทรศัพท์ จ.ตราด และการสื่อสาร ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาซ่อมแซมระบบอินเตอร์เน็ต หลังจากใช้การไม่ได้มา 2 วัน ส่งผลให้ไม่สามารถบริการธุรกรรมทางการเงินได้ในเกาะช้าง ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ส่วนที่น้ำตกคลองพลู ทางหน่วยรักษาป่าไม้น้ำตกคลองพลู เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชม และเล่นน้ำตกได้แล้ว หลังปิดมา 2 วัน เนื่องจากมีฝนตกอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปเล่นน้ำที่บริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 เพราะกระแสน้ำยังไหลแรงมาก เกรงจะเกิดอันตราย
วันเดียวกัน ที่จ.บุรีรัมย์ เกิดฝนตกอย่างหนักตลอดคืนวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำเอ่อท่วมถนน นาข้าว และพื้นที่ทางการเกษตร
โดยเฉพาะถนนสายประโคนชัย-บ้านกรวด ก่อนเข้าตัว อ.บ้านกรวด น้ำสูงกว่า 1 เมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ นอกจากนี้ นาข้าว ไร่อ้อย และมันสำปะหลัง ที่ต.บึงเจริญ ต.หนองไม้งาม ต.บ้านกรวด ต.ปราสาท และ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด ถูกพายุฝนพัดหักโค่นและน้ำท่วม ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก และที่บ้านสายโท 2 ต.จันทบเพชร มีผู้ถูกกระแสน้ำพัดจมเสียชีวิต 1 ราย
ฤทธิ์ฝนถล่ม-รฟ.ตกรางเจ็บ300
ก่อนหน้านี้เวลา 22.30 น. วันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ใสเย็น สารวัตรเวร สภ.ย่อยท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
รับแจ้งอุบัติเหตุรถไฟตกราง มีผู้โดยสารเจ็บจำนวนมาก ที่ทางรถไฟหลักก.ม.ที่ 436 หมู่ 11 บ้านหนองแวง ต.ท่าพระ จึงนำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุพบรถด่วนดีเซลราง ขบวนที่ 78 มีทั้งหมด 6 โบกี้ สายอุดรธานี-กรุงเทพฯ ตกราง และพบต้นไม้ใหญ่ล้มคว่ำรางรถไฟ และมีผู้โดยสารบาดเจ็บกว่า 300 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 2 คน จึงลำเลียงส่งร.พ.สิรินธรและร.พ.ขอนแก่น
จากการสอบสวนทราบว่า รถไฟขบวนดังกล่าวมี นายวีระพจน์ จากโคกสูง และนายสดายุห์ ประทานทรัพย์ เป็นพนักงานขับรถ
โดยออกจากสถานีอุดรธานี เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 12 ต.ค. จะไปส่งผู้โดยสารที่กรุงเทพฯ เมื่อมาถึงสถานีย่อยท่าพระ เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีต้นไม้ถูกพายุพัดโค่นล้มทับรางรถไฟ ก่อนที่รถไฟจะพุ่งชนอย่างจังและตกราง เป็นเหตุให้มีผู้โดยสารบาดเจ็บจำนวนมาก
ต่อมาเจ้าหน้าที่การรถไฟ นำรถปั้นจั่นจากหน่วยช่วยอันตรายบนรางรถไฟ จ.นครราชสีมา มากู้ซากรถไฟออกจากราง พร้อมทั้งซ่อมราง เพื่อเปิดเส้นทางให้ขบวนรถสายอื่นวิ่งผ่านได้ คาดว่าจะเคลียร์เส้นทางได้ในตอนกลางคืนของวันที่ 13 ต.ค.