คมชัดลึก :ตร.มั่นใจนางแบบสาวเอฟเอชเอ็มถูกฆาตกรรม มุ่งปมชู้สาว-แค้นส่วนตัว เตรียมจับแฟนหนุ่มเข้าเครื่องจับเท็จ เผยฆาตกรต้องสนิทกับเหยื่อมากถึงขนาดมีกุญแจไขเข้าออกในห้อง ระบุวงจรปิดพบรถกระบะสี่น้ำเงินต้องสงสัย ยันคลี่คลายคดีได้ ขณะที่แม่นางแบบไม่เชื่อลูกฆ่าตัว ย้ำปมมรกดกไม่เกี่ยวแน่นอน ส่วนหมอระบุนางแบบดังถูกยิงระยะประชิดผิวหน้า
ความคืบหน้าคดีฆ่าฆาตกรรม น.ส.ศศิธร อ่อนวิมล หรือ "ปิ๊ก" อายุ 27 ปี อดีต 1 ใน 10 ผู้เข้าประกวด Girl Next Door หรือสาวข้างบ้านของนิตยสารเอฟเอชเอ็ม ปี 2008
ภายในคอนโดมิเนียมหรูใน ซ.รัชดาภิเษก 7 ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. ล่าสุดแม้แนวทางการสืบสวนจะมุ่งไปที่เรื่องฆาตกรรม แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่า สาเหตุการตายของสาวเซ็กซี่ผู้เคราะห์ร้ายเกิดจากเรื่องใด แต่มุ่งปมไปเรื่องชู้สาว หรือความแค้นส่วนตัว
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. (ฝ่ายสืบสวน)
กล่าวว่า ฝ่ายสอบสวนกำลังรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ในเรื่องของบาดแผล วิถีกระสุน เวลาการตายที่แน่ชัด สารพิษในร่างกาย และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในส่วนของผู้ตายว่า กลับถึงห้องเมื่อใด มากับใคร เดินมา หรือเอารถมา ส่วนกรณีโน้ตบุ๊กที่หายไปนั้นตอนนี้ตรวจพบแล้วอยู่ในรถ ซึ่งตำรวจจะต้องตรวจสอบในทุกส่วนว่า ก่อนตายผู้ตายติดต่อกับใครหรือไม่ และคุยกับใครเป็นคนล่าสุด ขอเวลาในการตรวจสอบสักระยะ
“ประเด็นการตายนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าจะเป็นเรื่องชู้สาวหรือความแค้นส่วนตัว ส่วนปัญหาเรื่องมรดก และปัญหาอื่นๆ ยังไม่ตัดทิ้ง อยู่ระหว่างตรวจสอบ ตอนนี้เรารอเรื่องหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และรอผู้ชำนาญการมาจำลองภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุว่า เกิดเหตุอย่างไร ทิศทางของกระสุนเป็นอย่างไร ตายท่าอะไร“ รอง ผบช.น.กล่าว
พล.ต.ต.สุเมธกล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุที่เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมเพราะมีจุดน่าสงสัย คือหากจะฆ่าตัวตายเมื่อยิงเสร็จแล้วจะนำผ้าห่มมาคลุมทำไม
เพราะหากยิงเองก็น่าจะตายในทันที แต่นี้มีลักษณะคล้ายมีการจัดเสื้อผ้าท่าทางการเสียชีวิต ซึ่งตำรวจมั่นใจว่าเกิดจากการฆาตกรรม อย่างไรก็ตาม จะทำการตรวจสอบรายละเอียด หลักฐานต่างๆ ให้ชัดเจนอีกครั้ง
เล็งแฟนหนุ่มนางแบบเข้าเครื่องจับเท็จ
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 กล่าวว่า
ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าผู้ตายถูกฆาตกรรมหรือฆ่าตัวตายเอง ดังนั้นจะต้องรอผลการผ่าพิสูจน์ศพจากแพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี และผลการตรวจในที่เกิดเหตุจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเสียก่อน เนื่องจากคดีนี้เป็นไปได้ทั้ง 2 ประเด็น โดยหลังเกิดเหตุได้เชิญแฟนของผู้ตายที่เลิกรากันไป และคนใกล้ชิดมาสอบปากคำอย่างละเอียดแล้ว เบื้องต้นพบว่า ผู้ตายมีปัญหาส่วนตัวหลายอย่าง รวมทั้งปัญหาครอบครัว อาจจะเป็นมูลเหตุที่ทำให้คิดสั้นฆ่าตัวตาย
พล.ต.ต.วิชัยกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบข้อพิรุธหลายอย่างประกอบกับลักษณะการตายที่ผิดธรรมชาติ อาจจะเป็นไปได้ว่าถูกฆาตกรรม ส่วนอาวุธปืนที่พบนั้นเป็นขนาด .32 ซึ่งผู้ตายได้รับมรดกมาจากบิดา อย่างไรก็ตามหากผลการผ่าพิสูจน์ศพออกมาแล้ว คาดว่าจะสามารถคลี่คลายคดีนี้ได้
ด้าน พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปหาสาเหตุการตาย เบื้องต้นได้ตั้งประเด็นไว้ 3 ประเด็น
คือประเด็นความขัดแย้งเรื่องมรดก ที่พ่อของผู้ตายเป็นอาจารย์สอนหนังสือมีภรรยา 2 คน และเพิ่งเสียชีวิตไปไม่นานมานี้ โดยที่ผู้ตายเป็นลูกสาวคนโตของภรรยาคนแรก จึงอาจมีเรื่องผลประโยชน์ของพ่อเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกประเด็นอาจเป็นเรื่องชู้สาว แต่จากการสอบปากคำอดีตแฟนหนุ่มของผู้ตายทราบว่าไม่ได้ติดต่อกันมาประมาณ 20 วันแล้ว เพราะผู้ตายมีนิสัยหึงหวงมาก จึงทำให้ต้องแยกทางกัน โดยตลอดเวลาแฟนหนุ่มพยายามจะขอคืนดีหลายครั้ง ล่าสุดผู้ตายเพิ่งกลับมาจากบ้านที่สุพรรณบุรี และไปดูหมอดูที่บอกว่ากำลังจะตั้งท้อง จึงโทรหาอดีตแฟนหนุ่มและบอกว่า หากท้องจริงจะทำอย่างไร
พ.ต.อ.สุพัชรกล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำอดีตแฟนของผู้ตายแล้วไม่พบพิรุธอย่างไร
ซึ่งคงจะต้องนำเข้าเครื่องจับเท็จอีกครั้ง ส่วนประเด็นสุดท้ายที่อาจจะเป็นการฆ่าตัวตายคงต้องรอผลพิสูจน์ทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้วรวม 8 ปาก มีทั้งอดีตแฟน และแม่ของผู้ตายรวมทั้งเพื่อนๆ โดยเฉพาะทางเพื่อนบอกว่า ผู้ตายมีโลกส่วนตัวสูง และเครียดบ่อยชอบกินยาคลายเครียด นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบข้อมูลจากคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี่ของผู้ตายเนื่องจากชอบเล่นอินเทอร์เน็ตว่าจะมีสิ่งใดเกี่ยวข้องหรือไม่
พ.ต.อ.สุพัชรกล่าวต่อว่า ในส่วนของภาพวงจรปิดภายในคอนโดดังกล่าวจะต้องตรวจสอบย้อนหลังไปประมาณ 1 เดือน
เบื้องต้นพบว่า มีรถกระบะสีน้ำเงินมาพบผู้ตายบ่อย แต่คงจะให้รายละเอียดอะไรไม่ได้ในตอนนี้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติมพบภายในถังขยะในห้องพบยาไซแนกซ์ 1 แผง ถูกใช้ไปแล้ว 6 เม็ด ซึ่งยาดังกล่าวใช้เป็นยานอนหลับโดยมีฤทธิ์กล่อมประสาท แต่จากการสอบถามเพื่อนผู้ตายให้การว่า ผู้ตายเป็นโรคเครียดนอนไม่หลับจึงต้องใช้ยาดังกล่าว
ส่วนจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเบื้องต้นพบว่าสามารถจับภาพรถยนต์ต้องสงสัยไว้ได้ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ตายหรือไม่ อย่างไรก็ตามยังคงไม่ตัดประเด็นใดๆ ทิ้ง โดยจะต้องรอผลชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบสภาพศพ วิถีกระสุน หัวกระสุนที่พบและรอยนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุ เพื่อคลี่คลายคดีต่อไป