ล่าแขกขาวแสบพกเครื่องช็อตไฟฟ้า ช็อตสาวออมสิน ลากเข้าห้องมัดมือ-ปิดปาก หวังข่มขืน-ชิงทรัพย์
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 ต.ค. พ.ต.ท.อนุพงษ์ ทัศนา พงส. (สบ.3) สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายร้องขอความช่วยเหลืออยู่ภายในห้องพักคอนโดทวิคุณคอมเพล็กซ์ เลขที่ 80 ซอยลาดพร้าว 4 แขวงจอมพล เขตจตุจักร จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่ที่ชั้น 7 ห้องเลขที่ เอ 15 บริเวณหน้าห้องดังกล่าวพบพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดกำลังให้ความช่วยเหลือ น.ส.ประภารัตน์ บุญมา อายุ 23 ปี พนักงานธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ สะพานควาย ซึ่งเป็นเจ้าของห้องเกิดเหตุ ที่อยู่ในอาการตัวชาและกำลังจะหมดสติจากการที่ถูกคนร้ายใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตเข้าที่บริเวณลำคอจนเป็นรอยแดง จึงรีบประสานให้ทางมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรีบนำตัวส่ง รพ.เปาโลเมมโมเรียล นอกจากนี้บริเวณหน้าห้องเกิดเหตุยังพบกระเป๋าสะพายและกระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของผู้เสียหายตกอยู่ ส่วนภายในห้องมีร่องรอยการต่อสู้จนข้าวของกระจายเกลื่อน และยังพบของกลางของคนร้ายที่ก่อเหตุ เป็นเครื่องช็อตไฟฟ้า 1 อัน และมีดคัตเตอร์ 1 เล่มตกอยู่กลางพื้นห้อง
จากการสอบสวนนายกสวย เหลาอ่อน อายุ 46 ปี รปภ.ที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งจากผู้พักอาศัยข้างห้องผู้เสียหายว่าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือออกมาจากภายในห้องเกิดเหตุ จึงรีบขึ้นไปตรวจสอบพบว่าห้องดังกล่าวถูกล็อกประตูจากด้านใน เมื่อตะโกนสอบถามไปก็ได้ยินเสียงครวญครางขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหาย จึงได้เรียกให้ช่างประจำอาคารไปยืนเฝ้าหน้าประตูห้องไว้ ส่วนตนลงไปโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ระหว่างที่ช่างเฝ้าหน้าประตูห้องอยู่ปรากฏว่าคนร้ายได้เปิดประตูห้องสวนออกมา ซึ่งพยานจำได้ว่าเป็นชาวต่างชาติที่เพิ่งเข้ามาเปิดห้องเช่าพักได้ประมาณ 1 สัปดาห์ โดยพักทีห้องเลขที่ เอ 4 ชั้นที่ 12 ทำให้ช่างที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูห้องไม่กล้าเข้าจับกุม เพราะเกรงว่าจะเป็นเรื่องแฟนทะเลาะกัน ทำให้คนร้ายฉวยโอกาสวิ่งหลบหนีออกไปทางหนีไฟอย่างลอยนวล
รปภ.คอนโดฯ ที่เกิดเหตุให้การต่อว่า หลังจากที่คนร้ายหนีไป ตนได้พยายามเรียกหญิงสาวที่อยู่ภายในห้อง เนื่องจากก่อนหลบหนีไปคนร้ายได้ล็อกประตูห้องไว้ด้วย จนซักพักผู้เสียหายได้ตะเกียกตะกายพยายามมาเปิดประตูห้องได้ในสภาพตามร่างกายกระเซอะกระเซิง ท่อนบนสวมชุดทำงาน ส่วนท่อนล่างสวมเพียงกางเกงใน โดยกางเกงทำงานของผู้เสียหายถูกคนร้ายถอดกองไว้กับพื้นห้องแล้ว ส่วนที่ข้อมือของผู้เสียหายถูกคนร้ายมัดไพล่หลังด้วยสายไฟเตารีด ที่บริเวณปากถูกพันด้วยผ้าขนหนูขนาดเล็ก จึงช่วยกันนำตัวมาปฐมพยาบาลที่หน้าห้องเกิดเหตุ ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดของอาคารนั้นไม่มี เนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการบันทึกชำรุดอยู่ในระหว่างรอการซ่อมแซม
ภายหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขึ้นไปตรวจสอบที่ห้องพักของผู้ต้องสงสัยที่บริเวณชั้น 12 พบว่าห้องดังกล่าวอยู่ในสภาพโล่ง มีเพียงที่นอนและกระเป๋าเสื้อผ้าเครื่องใช้ของผู้เช่าจำนวน 2 ใบ วางอยู่ ตรวจสอบพบหนังสือเดินทางสีเขียวของประเทศแอลจีเรีย ระบุชื่อนาย Boukhenifer Mohammed Seghir อายุ 38 ปี อยู่ภายในกระเป๋า ส่วนบริเวณหน้าห้องพบตะกร้าผ้า 1 ใบ ภายในมีอาวุธมีด และคัตเตอร์ อย่างละ 1 เล่ม ม้วนเทปกาวสีน้ำตาล 1 ม้วน โดยคนร้ายใช้ผ้าขนหนูคลุมเอาไว้
เบื้องต้นทางจากการสอบพยานและหลักฐานที่พบทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานได้ว่า คนร้ายรายนี้อาจจะทราบว่าเหยื่อพักอาศัยอยู่ในห้องเพียงลำพังจึงได้มายืนดักรออยู่ที่หน้าประตูห้อง และฉวยโอกาสที่ผู้เสียหายเปิดประตูห้องออกมาเพื่อจะไปทำงานใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตเหยื่อเข้าที่บริเวณลำคอ ก่อนจะลากตัวเข้าไปในห้องเพื่อหวังข่มขืนหรือเพื่อชิงทรัพย์หรือคนร้ายอาจจะเดินตระเวนหาเหยื่อในคอนโดดังกล่าว โดยเตรียมอุปกรณ์ใส่ตะกร้าและเอาผ้าคลุมไว้เพื่อให้คนไม่สงสัย นึกว่าคนร้ายจะนำผ้าไปซัก เมื่อสบโอกาสเจอเหยื่อก็จะลงมือทันที นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องสงสัยได้มาเปิดห้องกับเพื่อนชายสัญชาติเดียวกันอีก 1 คน โดยมีหญิงสาวชาวไทยเป็นผู้มาเปิดเช่าห้องให้ ซึ่งหลังก่อเหตุเพื่อนของผู้ต้องสงสัยก็ได้หายตัวไปจากห้อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวหญิงชาวไทยที่มาเปิดห้องและเพื่อนชายชาวต่างชาติของผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนว่ามีส่วนเกียวข้องลักษณะทำเป็นขบวนการหรือไม่และจะประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี
เบื้องต้นข้อหาทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว เพื่อประสงค์ต่อร่างกายหรือทรัพย์สินอีกทางหนึ่งด้วย