ภัยทางหลวง-อ้างตร.ขู่กรรโชก

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. พ.ต.อ.ธีรัชช โอสถานนท์ ผกก.สภ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น

พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิทักษ์ อุทัยธรรม รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สยาม ลารังสิต รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ต.เสกสิทธิ์ ทวีชัย สว.สส. ร่วมแถลงการจับกุมนายชำนาญ นามวิเศษ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ 13 ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด, นายวิชัย สิทธิกร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 4 ต.กุดยาลวน อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี, นายถนอม ภาวินันท์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 1 ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด และนายเฉลิมพร ศรีแสน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 2 ต.กุดยาลวน อ.ตระการพืชผล

นอกจากนี้ ยังตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก ประกอบด้วยรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน รฐ 9233 กทม.

มีรอยเฉี่ยวชนด้านขวา วิทยุสื่อสาร 2 เครื่อง กระจกมองข้างรถกระบะ 3 อัน บัตรประจำตัวนิตยสารข่าวตำรวจและท่องเที่ยว ระบุชื่อนายชำนาญ นามวิเศษ บัตรตำรวจกองปราบปรามติดรูปนายชำนาญ นามบัตรของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในบช.น. ปืนพลาสติกสีดำ สร้อยคอทองคำปลอม พระเครื่อง 10 องค์ กุญแจมือ สติ๊กเกอร์ ทางหลวง และเสื้อแจ๊กเกตสีดำที่หลังเสื้อปักคำว่า ชุดตรวจจับเมาไม่ขับ จร.

พ.ต.ท.พิทักษ์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.30 น.

ขณะออกตรวจท้องที่ เมื่อมาถึงถนนมิตรภาพ หน้าปั๊มน้ำมันไม่มีชื่อ บ้านโนนกล้วยหอม หมู่ 6 ต.บ้านแฮด อ.บ้านแฮด พบรถกระบะของกลาง และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมังกรทอง สีเงิน ทะเบียน บฉ 681 สกลนคร จอดอยู่ริมถนน จึงเข้าไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาทั้ง 4 คนกำลังคุยตกลงบางอย่างกับนางละเอียด เรืองภิญโญพันธุ์ อายุ 41 ปี ข้าราชการครู อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เจ้าของรถกระบะ ทะเบียน บฉ 681 สกลนคร แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 แสดงท่าทีมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดที่ สภ.บ้านแฮด

จากการสอบสวนนางละเอียดให้การว่า ขับรถจะกลับบ้าน จ.สกลนคร เมื่อวิ่งมาถึง อ.บ้านแฮด มีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยี่ห้อวีออส บีบแตรไล่หลายครั้ง

ต่อมามีรถของผู้ต้องหาเบียดปาดหน้าขวางบังคับให้หยุด นายชำนาญ และนายวิชัยลงจากรถ แต่งกายคล้ายตำรวจ ถือวิทยุสื่อสาร อ้างว่าขับรถเฉี่ยว พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหาย 2,800 บาท แต่ยืนยันไม่ได้เฉี่ยวชน และมีเงินเพียง 2,000 บาท กระทั่งมีตำรวจจริงมาประสบเหตุพอดี

พ.ต.ท.พิทักษ์กล่าวว่า น่าจะเป็นขบวนการใหญ่ โดยใช้พฤติกรรมขับรถเฉี่ยวชนพลเมืองดีบนถนนหลวง แล้วลงมาขู่กรรโชกทรัพย์ คู่กรณีบางคนเสียหลักหมื่นบาท บางคนเสียเป็นหลักแสนบาท แก๊งนี้จะทำในหลายจังหวัดภาคอีสาน สอบสวนผู้ต้องหาในเบื้องต้นให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา