คมชัดลึก :ผัวพร้อมคนงาน 30 คน ออกรับจ้างรื้อถอนบ้าน แต่ถูกชายฉกรรย์ใช้อาวุธปืนยิง หนีกันวุ่นกระโดดลงคลองจมน้ำเสียชีวิต เมียโร่แจ้งความ สน.สายไหม แต่ถูกตำรวจแขวะ หาว่าสามีแอบไปหาเมียน้อย แถมยังให้ไปนอนรอที่บ้าน สุดท้ายเข้าแจ้งความอีกครั้ง คราวนี้พบผัวเป็นผีเฝ้าใต้น้ำ โดยขณะที่กลุ่มคนงานกำลังรื้อถอนบ้านอยู่นั้น ได้มีกลุ่มชายฉกรรย์ประมาณ 5-6 ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มคนงานที่กำลังรื้อบ้าน
เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 30 ก.ย.2553 พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ พนักงานสอบสวน สบ.3 สน.สายไหม
ได้รับแจ้งจาก น.ส.พรรณ์ พรหมเสมอ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 ม.5 อ.บุญทริก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันพักอยู่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ในซอยสายไหม7 แขวงเขตสายไหม โดยได้เข้าแจ้งความว่า สามีคือนายศักดิ์ดา พูลทรัพย์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201 ม.1 ต.คำรัง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างปูน ได้ไปรับจ้างรื้อบ้านกับกลุ่มคนงานประมาณ 30 คน เมื่อช่วงเวลา 08.00 น. ของวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีหัวหน้าคนงานมารับ และจะให้ค่าจ้าง 500 บาท ดังนั้น สามีจึงได้รับงานไปรื้อบ้านภายในซอย 56 แขวงเขตสายไหม
ทำให้คนงานวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง โดยสามีและเพื่อนอีก 2 คน ได้กระโดดลงไปในน้ำ และได้สูญหายไป ซึ่งคาดว่าน่าจะจมน้ำเสียชีวิต ด้าน พ.ต.ท.สุบรรณ์ กล่าวว่า หลังรับแจ้งจึงได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ใช้ช่วยลงงมหาผู้เคราะห์ร้าย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีน้ำสูงถึง 4 เมตร ซึ่งขณะที่กำลังงมหาผู้สูญหายอยู่นั้น เจ้าหน้าที่พบศพนายศักดิ์ดา จมน้ำเสียชีวิตอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยผู้ตายสวมเสื้อยืดสีเขียว สวมกางเกงยีนต์ขายาวสีดำ ดังนั้น จึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่ส่งไปชันสูจน์พลิกศพที่โรงพยาบาลตำรวจ
"เหตุการณ์นี้ น่าจะเชื่อมโยงกับผู้ที่เข้ามาแจ้งความก่อนหน้านี้ เนื่องจากเมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 29 ก.ย. ได้มีน.ส.แส สวาสด์เพชร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/8 ม.7 แขวงเขตสายไหม พร้อมกับนายประสาท สวาสด์เพชร อายุ 43 ปี เป็นพี่น้องกัน อยู่บ้านเลขที่ 26/1 ม.7 แขวงเขตสายไหม ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้มีชายฉกรรย์ ประมาณ 30 กว่าคน เข้ามารื้อบ้านของตนเอง ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยบ้านหลังดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ และเป็นบ้านไม้แบบยกสูง ทั้งนี้ คาดว่า เจ้าของบ้านอาจนำบ้านไปจำนองจนขาด และอาจทำให้ผู้ที่ให้จำนอง จ้างคนมารื้อถอน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนหารายละเอียดต่อไป และจะทำการเรียกตัวเจ้าของบ้าน และกลุ่มคนงานมาสอบสวนต่อไป"
ขณะที่น.ส.พรรณ์ ซึ่งเป็นภรรยาของนายศักดิ์ดา กล่าวว่า ขณะที่ตนเองกำลังทำงานบ้านอยู่นั้น เพื่อนคนงานได้โทรศัพท์มาบอกว่า สามีได้หลบหนี จากการที่ถกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง
โดยได้กระโดดลงไปในคลองข้างบ้านที่เกิดเหตุ และได้สูญหายไป ดังนั้น ตนเองจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงเช้าของวันที่เกิดเหตุ (29ก.ย.) แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับแจ้งความ แถมยังบอกว่า สามีอาจไปหาเมียน้อย และให้ตนเองกลับไปคอยที่บ้านแทน ดังนั้น ตนจึงได้เดินทางไปรอสามีที่บ้าน
น.ส.พรรณ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่รอสามีอยู่ที่บ้านด้วยความกระวนกระวายอยู่นั้น สามีของตนเองก็ไม่กลับบ้านซักที
ดังนั้น ตนจึงเดินทางมาแจ้งความอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้พนักงานสอบสวนเป็นคนละคนกัน จึงได้รับแจ้งความเอาไว้ พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ทำการค้นหาจนกระทั่งพบศพสามี ซึ่งได้จมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว
สาวโร่แจ้งความผัวหายสุดท้ายกลายเป็นศพ
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!