ร้องผอ.เตะม.3โต้แค่ใช้เท้ายันหลัง

"ผอ.ยันเด็กต่อยกันเอง"


ผู้ปกครองเด็ก ม.3 โร่แจ้ง ตร.เอาผิดรอง ผอ.โรงเรียนดังเมืองอุทัยพร้อมร้องศูนย์ดำรงธรรมซ้ำ กล่าวหาตบหัว-กระทืบจนบาดเจ็บ หลังชกต่อยกับเพื่อน ผอ.โรงเรียนยันเด็กต่อยกันเอง รอง ผอ.เห็นเรียกพบกลับให้ของลับ ยันไม่ได้กระทืบ แค่ใช้เท้ายันหลังกันหนี ขณะที่ ตร.เตรียมเรียกทุกฝ่ายสอบ 19 พ.ย.นี้

ปัญหาระหว่างครูกับศิษย์จนนำไปสู่การแจ้งความและร้องเรียนครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน นายสมบัติ โพธิ์ขวาง อายุ 42 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 บ้านชายเขา ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี พร้อมนางสมใจ โพธิ์ขวาง ภรรยา อาชีพทำไร่ และญาติ จำนวน 7 คน เดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุทัยธานีเพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม โดยกล่าวหาว่า นายบรรเจิด โพธิ์ขวาง อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนหนองฉางวิทยา ลูกชาย ถูกอาจารย์ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ

"คำให้การญาติ"


ญาติเล่ารายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมฟังแล้วบันทึกข้อมูลการร้องเรียนว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน นายบรรเจิดชกต่อยกับเพื่อนนักเรียน จากนั้นถูก นายไพบูลย์ สงฆ์โนนเหล็ก รองผู้อำนวยการโรงเรียนหนองฉางวิทยา เรียกให้ไปพบในห้องฝ่ายปกครอง ขณะนั้นมีอาจารย์นั่งอยู่ด้วย 3 คน และมีเพื่อนของนายบรรเจิดอีก 3 คนร่วมอยู่ด้วย

ญาติให้การอ้างว่า เมื่อรอง ผอ.สอบถามเรื่องราวแล้ว ก็ใช้มือตบหัว ทั้งยังเตะก้านคอและลำตัวจนนายบรรเจิดล้มลง แล้วใช้เท้ากระทืบกลางหลังอย่างแรงจนถึงกับจุกเสียดแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ก่อนปล่อยตัวกลับบ้านในสภาพสะบักสะบอม หลังจากนั้นได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ผู้ปกครองฟัง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ทำเกินกว่าเหตุ

"อาจารย์ข่มขู่ไม่ให้เอาเรื่อง"


จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.อ.หนองฉาง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีนายไพบูลย์ในข้อหาทำร้ายร่างกาย เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 3 พฤศจิากยน โดยมี ร.ต.อ.ประเสริฐ อิวชาวนา เป็นร้อยเวรเจ้าของคดี กระทั่งส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลหนองฉาง แพทย์ลงความเห็นว่า มีรอยถลอกแดงที่หัวไหล่ บริเวณแผ่นหลังถลอกแดงเป็นรอยเท้า รวมทั้งมีอาการจุกเสียดท้องและปวดศีรษะ

ผู้ปกครองของนายบรรเจิด ยังบอกว่า หลังจากถูกนายไพบูลย์ทำร้ายร่างกายแล้ว ปรากฏว่ามีอาจารย์คนหนึ่งเข้ามาพูดจาในทำนองข่มขู่ไม่ให้เอาเรื่อง ต่อมามี ผอ.โรงเรียนหนองฉางวิทยา และอดีต ส.ส.คนหนึ่ง มาที่บ้าน ขอร้องไม่ให้เอาเรื่อง เกรงว่าความดีต่างๆ ที่โรงเรียนสร้างมาจะเสียชื่อเสียง แต่พวกตนอธิบายว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ จึงไม่ยอม และมีข้อแม้ว่า ขอให้นายไพบูลย์จัดทอดผ้าป่าให้วัด 1 กอง เป็นเงิน 6 หมื่นบาท เพื่อสมทบทุนสร้างโรงครัวให้วัด โดยที่พวกตนจะไม่เอาเงินเลย เพราะฐานะทางบ้านพอมีกินมีใช้อยู่แล้ว

"เข้าร้องทุกข์ขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและให้ย้ายออกนอกพื้นที่"


"ตกลงกันหลายครั้งก็ไม่เป็นไปตามนัด สุดท้ายตกลงจะทอดในวันที่ 17 พฤศจิกายน พวกตนก็นัดเจ้าอาวาสเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับเตรียมกระป๋องผ้าป่าไว้เพื่อรับผ้าป่า ในที่สุดก็เบี้ยวอีก จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และให้ย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว" ผู้ปกครอง ระบุ

นางสมใจ กล่าวเสริมว่า สิ่งที่รอง ผอ.ทำกับลูกชายถือเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ขนาดตนเป็นผู้ปกครองแท้ๆ ยังไม่เคยทำกับลูกถึงขนาดนี้ หากจะใช้ไม้ตีไม่ว่าอยู่แล้วเพราะเป็นการอบรมสั่งสอน แต่ถึงกับเตะ กระทืบ ดูแล้วทำรุนแรงเกินไป ดังนั้น จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสมใจยังชี้ที่บริเวณด้านหลังของนายบรรเจิดให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมดู พบว่ามีรอยถลอกแดงช้ำ


"ยันจะติดตามเรื่องให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด"


นายธรรมรักษ์ ศรีธรรม หัวหน้ากลุ่มสวัสดิการสังคมและพิทักษ์คุ้มครองสิทธิ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุทัยธานี ยืนยันว่า จะติดตามเรื่องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.หนองฉาง เพื่อให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอีกทางด้วย

เมื่อสอบถามข้อเท็จจริงจาก นายชาญศักดิ์ คันศร ผอ.โรงเรียนหนองฉางวิทยา ชี้แจงว่า นายบรรเจิดเป็นนักเรียนชั้น ม.3 ปกติเป็นเด็กเกเร และเป็นหัวโจกของโรงเรียน ช่วงเกิดเหตุมีเรื่องทะเลาะกับเด็กนักเรียนชั้น ม.2 ซึ่งนายบรรเจิดใช้เท้าเตะจนล้มลงกับพื้น ระหว่างนั้นรอง ผอ.ฝ่ายวิทยาการ ซึ่งยืนอยู่หน้าต่างห้องพักและเห็นเหตุการณ์ตลอด จึงเปิดกระจกตะโกนเรียกให้นายบรรเจิดเข้าไปหาที่ห้องพักครู แต่กลับถูกนายบรรเจิดให้ของลับแล้ววิ่งหนีไป นายไพบูลย์จึงเรียกครูที่พักอยู่ในห้องเดียวกันช่วยวิ่งไล่จับ จนสามารถนำตัวมาพูดคุยกันได้

"ยอมรับไม่เหมาะสมแต่ไม่ได้กระทืบแค่เท้ายันหลังไม่ให้หนี"


ผอ.โรงเรียน ยอมรับว่า นายไพบูลย์ใช้มือตีหลัง แต่เด็กสะบัดตัววิ่งหนีจนล้มลง นายไพบูลย์จึงใช้เท้ายันไว้ที่แผ่นหลังเพื่อไม่ให้หนี ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นการใช้เท้ากระทืบ จนมาทราบว่านายบรรเจิดให้การกับตำรวจและเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมว่าใช้เท้ากระทืบ ส่วนรอยฟกช้ำนั้นเนื่องจากการชกต่อยกันระหว่างนายบรรเจิดกับคู่กรณี

"ผมยอมรับว่า อาจารย์ไพบูลย์กระทำการไม่เหมาะสมในเรื่องใช้เท้ายันหลัง เรื่องนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยนายไพบูลย์ และได้รายงานวินัยไปให้ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุทัยธานีทราบแล้ว" นายชาญศักดิ์ กล่าว

"ขอ 1 แสน ให้ 6หมื่น"


พร้อมให้ข้อมูลว่า ต่อมาญาติของนายบรรเจิดติดต่อขอเจรจาเพื่อขอเงิน 1 แสนบาท แต่ตนต่อรองจนเหลือ 6 หมื่นบาท ญาติบอกว่าจะนำเงินไปทอดผ้าป่าที่วัดห้วยโศก ในวันที่ 17 พฤศจิกายน จึงตอบไปว่าไม่มีปัญหา แต่ขอไปหารือกับนายไพบูลย์ก่อน และมีการนัดกับผู้เสียหายว่าจะไปตกลงกันที่ สภ.อ.หนองฉาง ในวันที่ 19 พฤศจิกายน แต่กลับนำเรื่องมาร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมเสียก่อน

ร.ต.อ.ประเสริฐ อิวชาวนา ร้อยเวร สภ.อ.หนองฉาง กล่าวว่า ได้สอบปากคำผู้ปกครองของนายบรรเจิดแล้ว ซึ่งต้องประสานไปยังอัยการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เข้าร่วมสอบปากคำพร้อมกันในวันที่ 19 พฤศจิกายน ส่วนข้อกล่าวหานั้นยังไม่ได้แจ้ง เนื่องจากต้องรอใบพิสูจน์จากแพทย์ก่อน แต่คิดว่าไม่น่าจะได้รับบาดเจ็บมากนัก


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์