เห็นจะจะจุดถํ้ามอง สุวรรณภูมิ แค่ข่าวลือ

"เข้าตรวจสอบพื้นที่"


หลังจากที่แกนนำสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือร้องเรียนไปยังบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ ทอท. ระบุว่ามีพนักงานหญิงที่ปฏิบัติหน้าที่ในสนามบินสุวรรณภูมิถูกคุกคามทางเพศและถูกคนงานก่อสร้างถ้ำมอง พร้อมเรียกร้องให้ ทอท.วางมาตรการรักษาความปลอดภัยในสนามบินอย่างเข้มงวดนั้น

เมื่อตอนสายวันที่ 17 พ.ย. เรืออากาศโทภาสกร สุระพิพิธ รอง ผอ.สายปฏิบัติการท่าอากาศยาน สนามบินสุวรรณภูมิ ได้นำคณะสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบพื้นที่ ภายในอาคารที่พักผู้โดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิตามจุดต่างๆ หลังจากที่แกนนำสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ชี้จุดที่ระบุว่าเคยเกิดปัญหาคุกคามทางเพศ เช่น มีคนงานก่อสร้างเดินตามพนักงานสตรีที่ปฏิบัติงานกลางคืนบริเวณคองคอร์ด D ที่ถูกระบุว่ามีไฟส่องแสงสว่างน้อย และขาดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินตรวจตรา รวมถึงการปีนขึ้นฝ้าหลังคาห้องน้ำบริเวณชั้น 5 อาคารที่พักผู้โดยสาร ซึ่งในส่วนนี้เป็นอาคารสำนักงานของการบินไทย เพื่อแอบดูพนักงานหญิงเข้าห้องน้ำ

"ยังไม่มีการแจ้งคนหายหรือเสียชีวิต"


หลังการตรวจสอบพื้นที่เสร็จสิ้น เรืออากาศโทภาสกรกล่าวว่า จากการตรวจสภาพห้องน้ำสตรีบริเวณชั้น 5 ที่ระบุว่ามีการเจาะฝ้าหลังคา สื่อมวลชนจะสามารถใช้วิจารณญาณแยกแยะจากสภาพที่เห็นถึงความเป็นจริงได้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง เพราะบริเวณห้องน้ำพื้นที่นี้จะถูกก่อปูนทึบและช่องว่างระหว่างฝ้ากับท่อต่างๆบนฝ้า จะเป็นช่องขนาดเล็กที่คนไม่สามารถแอบอยู่ได้เพราะแคบมาก ประกอบกับฝ้าเพดานห้องน้ำเป็นฝ้าลอยที่ไม่สามารถแบกรับน้ำหนักคนได้

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่ามีการคุกคามทางเพศ โดยการลวนลาม ส่งเสียงแซว เดินล้อมหน้าล้อมหลังพนักงานที่เดินอยู่บริเวณคองคอร์ด D จนล่าสุดได้มีกระแสข่าวออกมาเพิ่มเติมว่า มีการทำร้ายร่างกายจนถึงขั้นเสียชีวิตนั้น เรื่องนี้เท่าที่มีการตรวจสอบและสอบถามจากพนักงานในพื้นที่ มีทั้งการสุ่มสอบถามและไล่ สอบถามพนักงานที่ฟังต่อๆกันมา แต่ละคนต่างระบุว่าไม่ได้ประสบปัญหากับตัวเอง เพียงแต่ได้ยินข่าวดังกล่าวมาปากต่อปาก แต่ยังหาต้นตอของข่าวดังกล่าวไม่ได้ ซึ่ง ทอท.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้มีการสอบถามกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็ได้รับคำตอบว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการรับแจ้งความว่ามีบุคคลสูญหายหรือเสียชีวิตในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิแต่อย่างใด หากเจ้าหน้าที่ภายในสนามบินมีปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัย หรือพบเห็น สามารถแจ้งมายังศูนย์รับแจ้งการรักษาความปลอดภัยที่ 0-2132-4000 และ 0-2132-6000

"ได้เตรียมจัดตั้งงบประมาณแก้ปัญหาต่างๆ"


เรืออากาศโทภาสกรกล่าวว่า ทอท.ยอมรับว่ายังมีพื้นที่อีกหลายจุดที่จะต้องมีการปรับปรุง เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น แก่พนักงานและประชาชนที่มาใช้บริการ เช่น จุดทางออกผู้โดยสารอาคารเทียบเครื่องบินโซน D นั้น ขณะนี้มีไฟแสงสว่างน้อยเกินไป ทอท.ได้เตรียมจัดสรรงบประมาณในการติดตั้งระบบไฟแสงสว่างเพิ่มขึ้น รวมถึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินตรวจตราในทุก 400 ตารางเมตร ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยภายในบริเวณอาคารที่พักผู้โดยสาร และอาคารสะพานเทียบเครื่องบินสนามบินสุวรรณภูมินั้น ปัจจุบันจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งที่เป็นคนของ ทอท. และพนักงานจากบริษัทรับสัมปทานงานทางด้านความปลอดภัยรวมกัน เข้ากะหมุนเวียนทุก 8 ชั่วโมง กะละ 43 คน ถือว่าเป็นอัตราที่เพียงพอในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อาคารผู้โดยสารทั้งหมดได้

เรืออากาศโทภาสกรกล่าวอีกว่า ผู้บริหาร ทอท. ต่างยอมรับว่าปัจจุบันมีกระแสข่าวลือที่เกี่ยวกับปัญหาอาชาญกรรมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง บางครั้งไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น การฆาตกรรมแล้วนำศพไปซ่อนโบกปูนทับ ดังนั้น อยากขอให้ประชาชนที่ได้รับฟังข่าวสาร ใช้วิจารณญาณในการรับฟังข่าว และไม่ควรหวาดผวาหรือหลงเชื่อข่าวที่ไม่ได้มาจากข้อมูลจริงๆ

"อยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขปัญหาทางด้านเทคนิคต่างๆ"


วันเดียวกัน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการเปิดใช้ท่าอากาศยาน กล่าวภายหลังการเรียกประชุมคณะกรรม-การว่า คณะกรรมการได้พิจารณาปัญหาสำคัญในท่า อากาศยานสุวรรณภูมิ 2 เรื่อง คือปัญหาความปลอดภัยในพื้นที่ ตามที่มีการร้องเรียน ทั้งในส่วนการคุกคามทาง เพศ และข่าวลือเกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรม รวมถึงปัญหาการจัดการผลกระทบทางด้านมลภาวะทางเสียง ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการแก้ไขปรับปรุงทางด้านเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับทิศทางการขึ้นลงของอากาศยาน รวมถึงปัญหาสภาพเครื่องบินเก่าที่ถูกนำมาใช้ และสร้างมลภาวะ ทางเสียงแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบ ปัญหาระบบจัดการคลังสินค้าที่ยังมีอยู่

โดยปัญหาที่ยังมีอยู่อีกมาก และจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขต่อไป จึงทำให้ขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังไม่พร้อมที่จะทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปอีก 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากพิธีเปิดอย่างเป็นทางการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น จะต้องมีการกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ ประธาน ซึ่งงานทุกด้านต้องพร้อมมากที่สุดในขณะนั้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้สั่งการให้บริษัทท่าอากาศยาน-ไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริหารพื้นที่เร่งแก้ไขความพร้อมด้านความปลอดภัยให้สมบูรณ์ภายในเดือนมิถุนายน 2550 เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าประเมินผลความปลอดภัยของสนามบินด้วย ในช่วงเวลาดังกล่าว

"เป็นการประชุมครั้งสุดท้าย"


ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 9 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย โดย พล.อ.อ.ชลิตระบุว่า ขณะนี้ได้รายงานให้ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และ พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่า-การกระทรวงคมนาคม รับทราบถึงภารกิจที่เสร็จสิ้นของคณะกรรมการชุดนี้ และจะสรุปปัญหาในภาพรวมการเปิดใช้สนามบินตลอด 51 วันที่ผ่านมาให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ด้านพลตำรวจเอกอิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยารองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำหรับกระแสข่าวการคุกคามทางเพศในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ขณะนี้ได้รับทราบจากที่ประชุม โดยนายโชคชัย ปัญญายงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาโครงการลงทุน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า มีพนักงานงานสตรี ที่ถูกคุกคามจริง แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ จึงได้ขอให้พนักงานการบินไทยที่เป็นผู้เสียหาย เข้าแจ้งความกับตำรวจ ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่ามีปัญหาอาชญากรรมรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตและหายสาบสูญนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลของสถานีตำรวจภูธรตำบลราชาเทวะ ยังไม่พบว่ามีการแจ้งความเป็นผู้เสียหายในคดีเหล่านี้


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์