ลมหนาวมาแล้วไฟไหม้ลามทั่ว

รง.รองเท้าวอดเผาโรงแรมพัทยา


ลมหนาว-อากาศแห้งต้นเหตุเพลิงไหม้หลายแห่ง ในกรุงวอดทั้งโรงงานทำรองเท้า-สำนักงานประกันสังคม ส่วนเมืองเพชรผับดังของพี่ชายส.ส.ก็ไม่เหลือ ที่พัทยาสุดระทึกโรงแรมดังกลางเมืองมีเปลวเพลิง นักท่องเที่ยวหนีตายวุ่น

ได้รับบาดเจ็บรวม 6 ราย จากการโรยตัวออกนอกอาคารและสำลักควัน ที่อุดรฯไหม้บ้านคลอกเจ้าของบ้านดับคากองเพลิง ส่วนที่โคราช ด.ช.จุดไฟแช็กหาเศษเหรียญไปโดนน้ำมันเบนซินพึ่บเดียววอด 12 คูหา เสียหายนับ 10 ล้าน

-ไฟไหม้โรงงานทำรองเท้ากรุง


จากสถานการณ์ลมหนาวมาเยือนและความแห้งแล้งของอากาศทำให้เกิดเพลิงไหม้ในหลายพื้นที่โดย เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 15 พ.ย. พ.ต.ต.สหัส ศรีทวี สวส.สน.เพชรเกษม รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานทำรองเท้า ภายในซอยหนองใหญ่ แขวง-เขตบางแค กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยรถดับเพลิงจำนวน 20 คัน พบเพลิงกำลังโหมไหม้อยู่ภายในโรงงานทำรองเท้าชื่อ รามา จำกัด เลขที่ 10/2 หมู่ 9

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงและระหว่างนั้นโครงเหล็กหลังคายุบตัวพังครืนลงมาอยู่นาน 1 ช.ม. จนเพลิงสงบ สอบสวนนายเรวัต จงเจริญจิตใจ เจ้าของโรงงงานดังกล่าว ให้การว่าเมื่อช่วงกลางดึกพนักงานที่พักอยู่ในโรงงานได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นพร้อมกับมีเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วพนักงาน แต่ช่วยกันดับไฟแต่ไม่สามารถสกัดเพลิงได้ เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากสาเหตุใดอยู่ในระหว่างการสอบสวนของตำรวจ

-เผาผับพี่ชายส.ส.ปชป.เพชรบุรี


วันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.เชิญ พรายมี พงส.สภ.อ.เมืองเพชรบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้ร็อคซี่ ผับ เลขที่ 123/2 ม.8 ริมถนนคีรีรัฐยา ต.ธงชัย อ.เมือง จ.เพชรบุรี ที่เกิดเหตุเพลิงได้ลุกไหม้ขึ้นบริเวณชั้น 2 ของตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลเมืองเพชรบุรี พร้อมรถ 4 คัน ระดมกำลังฉีดน้ำเข้าไปด้านในตัวอาคารประมาณครึ่งชั่วโมง เพลิงได้สงบ

ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ก็ต้องรอเจ้าหน้าที่วิทยาการมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าเกิดจากสาเหตุใด

สำหรับผับดังกล่าวเป็นของนายกัมพล สุภาแพ่ง อายุ 54 ปี พี่ชายนายอภิชาต สุภาแพ่ง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ถือเป็นสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองเพชร เดิมชื่อ เดอะเบส 88 มีนายอภิชาติ สุภาแพ่ง เป็นเจ้าของก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น ร็อคซี่ผับ และได้ให้พี่ชายคือนายกัมพล ดำเนินการ ซึ่งนายกัมพลเคยลงเลือกตั้งทั้งในสนามอบจ. และส.ส.สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เขต 2 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

-โรงแรมหรูกลางเมืองพัทยาวอด


เมื่อเวลา 00.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ต.วรวุฒิ มีไล้ สารวัตรเวร สภ.ต.พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ร้านมารีน พลาซ่า เลขที่ 200 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก. นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกเมืองพัทยา และรถดับเพลิงจำนวน 8 คัน รีบรุดไปที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุซึ่งอยู่กลางใจเมืองพัทยาใต้ เป็นอาคารสูง 6 ชั้น จำนวน 160 ห้อง พบว่าต้นเพลิงกำลังลุกไหม้ ห้องพักหมายเลข 431 ชั้น 4 มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก สร้างความแตกตื่นให้กับนักท่องเที่ยว ต่างวิ่งหลบหนีออกจากห้องพักมาอยู่รวมกันหน้าโรงแรมกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบว่านักท่องเที่ยวบางรายได้ใช้ผ้าห่มของโรงแรมโรยตัวออกมาจากทางหน้าต่างจนพลัดตกลงมาได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และมีผู้บาดเจ็บจากการสำลักควันอีก 3 ราย จึงช่วยกันนำส่ง ร.พ.พัทยาเมโมเรียล เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาควบคุมเพลิงนานกว่า 30 นาทีเพลิงจึงสงบ

สอบสวนนายคราลิส มะหะหมัด แครม อายุ 18 ปี ชาวโอมาน เจ้าของห้องต้นเพลิงให้การว่า ในขณะที่กำลังนอนดูทีวี ได้กลิ่นเหม็นไหม้ จากคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ จากนั้นไม่นานนักได้เกิดเพลิงลุกไหม้ลามไปยังผ้าม่านและพรมพื้นห้องอย่างรวดเร็ว จึงวิ่งหนีเอาตัวรอดก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะมาดับเพลิงเอาไว้ได้

ด้านพ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สภ.ต.พัทยา เปิดเผยว่า ยังไม่เชื่อคำให้การของนายคราลิส เพราะก่อนเกิดเหตุได้เข้ามาห้องพักกับหญิงไทยคนหนึ่ง และได้โทรศัพท์มายังที่เคาน์เตอร์ว่า กำลังทะเลาะมีปากเสียง อาจจะเป็นเหตุให้นายคราลิส ซึ่งกำลังมีอาการเมาสุราได้จุดไฟจนลุกลามไปทั้งห้อง ขณะนี้ได้หาหลักฐานและหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ต่อไป เบื้องต้น ประเมินเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท

-อุดรฯวอด2หลัง-คลอกเจ้าบ้านดับ


เมื่อเวลา 03.20 น. พ.ต.ต.ศิริมงคล บุญหนุน สว.เวร สภ.อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุไฟไหม้บ้านในซอยวรราช ซึ่งเป็นซอยย่อยจากซอยกำนัน ถนนนิตโย ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิตด้วย หลังจากได้รับแจ้งแล้วรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวร ร.พ.ศูนย์อุดรธานี มูลนิธิส่งเสริมธรรม หน่วยกู้ชีพ ร.พ.ศูนย์อุดรฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครอุดรธานี ที่ได้นำรถดับเพลิงจำนวน 4 คันพร้อมรถน้ำจำนวนหนึ่ง รีบไปช่วยกันสกัดเพลิง

ถึงที่เกิดเหตุพบว่า ไฟได้เผาบ้านเลขที่ 173/8 ซึ่งเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น จนวอดไปทั้งหลัง และขณะนั้นไฟได้ลุกลามไปยังบ้านเลขที่ 178/21 ซึ่งเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้นเช่นกัน และอยู่ติดกันอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ช่วยกันสกัดเพลิงอยู่ประมาณ 30 นาที จึงสกัดเพลิงไว้ได้ พบว่าบ้านวอดไป 2 หลัง หลังจากนั้น พ.ต.ต.ศิริมงคล บุญหนุน สว.เวรฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ จึงได้เข้าไปตรวจสอบในบ้านพบว่าที่บ้านหลังต้นเพลิงพบศพของนายจรูญ สว่างเพชร อายุ 56 ปี เจ้าของบ้านโดนเผาจนไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงเหล็กที่โดนเผาหมดแล้วตกลงมาอยู่ชั้นล่างของบ้านเช่นกัน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายจรูญเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เป็นคนที่สติไม่ค่อยดี และชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ เป็นโสดไม่มีครอบครัวอาศัยอยู่บ้านหลังนี้เพียงคนเดียว มีอาชีพเก็บเศษเหล็กขาย และทุกวันหลังจากเก็บเศษเหล็กได้แล้วจะมาวางรวมกันไว้ที่ชั้นล่างของบ้าน เมื่อได้จำนวนมาก ก็จะนำไปขาย แล้วซื้อเหล้ามากินเป็นประจำ ส่วนชั้นบนใช้เป็นห้องนอน ก่อนหน้าเกิดเหตุ ก็พบว่าในวันนี้นายจรูญได้นั่งกินเหล้าอยู่กับเพื่อนๆ ที่หน้าบ้านจนเมาได้ที่แล้วจึงขึ้นไปนอนชั้นบนบ้าน และพบว่า ขณะเกิดเหตุไฟไหม้บ้านก็ไม่รู้สึกตัว จึงถูกไฟเผาอยู่ในกองเพลิงดังกล่าว ส่วนบ้านที่โดนไฟไหม้อีกหลังที่อยู่ติดกันนั้น เจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน จึงเสียหายแต่ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเท่านั้น

หลังจากนั้น พ.ต.ต.ศิริมงคล บุญหนุน สว.เวรฯ จึงได้ทำการชันสูตรพลิกศพ แล้วนำศพพบแพทย์ที่ ร.พ.ศูนย์อุดรฯ อีกครั้งเพื่อรอญาติมานำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป และในขณะเดียวกันก็จะได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้บ้านในครั้งนี้ต่อไป

-ดช.ทำโคราชวอด12คูหาสูญ10ล.


เมื่อเวลา 00.50 น. ร.ต.ท.มงคล แก้วโพธิ์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองนครราชสีมา รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณ ถ.ชัยณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง ต้นเพลิงเกิดจากอาคารไม้ 2 ชั้นเลขที่ 15/1 ถ.ไชยณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง ของนายวิรัตน์ โชตินันทกุล ที่เปิดเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ นายวิรัตน์ให้การว่า ขณะกำลังนั่งกินเหล้าอยู่กับเพื่อนจำนวน 4 คน รวมทั้ง ด.ช.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ที่อยู่ใกล้เคียงก็มานั่งเล่นอยู่ด้วย ต่อมา ด.ช.เอ๋ ทำเหรียญ 5 บาท หล่นลงพื้นและกลิ้งไปอยู่ในซอกมืด ด.ช.เอ๋ จึงได้เอาไฟแช็ก จุดส่องสว่างหาเงิน แต่ไปหาใกล้กับกระบะน้ำมันเบนซินที่ใช้สำหรับล้างอะไหล่รถจักรยานยนต์ ทำให้ไฟลุกไหม้กระบะน้ำเบนซินอย่างรวดเร็ว ประกอบกับตัวบ้านมีสภาพเก่าและมีลมหนาวพัดแรงไฟยิ่งลุกลามมากขึ้น จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่

ต่อมาเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลนครนครราชสีมาได้ระดมรถดับเพลิงจำนวน 15 คัน เข้าฉีดน้ำสกัดเพลิง แต่เนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุเป็นซอยแคบ จึงทำให้การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ไฟจึงลุกลามไปติดอาคารข้างเคียงอย่างรวดเร็ว ทำให้อาคารบ้านเรือนประชาชนที่ปลูกอยู่ติดกันได้รับความเสียหายรวม 12 คูหา เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้รวมค่าเสียหายร่วม 10 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ด.ช.เอ๋ อายุ 14 ปี ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้

-เผาสำนักงานประกันสังคม


เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.สุริยา จำนงค์โชค พงส.(สบ.3) สน.บางรัก ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ อาคารสำนักงานประกันสังคม เขตพื้นที่ 4 กระทรวงแรงงาน ตั้งอยู่เลขที่ 144/18-22 ปากซอยสีลม 10 ถนนสีลม แขวงสุรวงศ์ เขตบางรัก จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานขอรถน้ำดับเพลิงจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร จำนวน 10 คัน รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 6 ชั้น เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากบริเวณด้านหลังอาคาร ระหว่างชั้น 5 กับชั้น 6 ซึ่งเป็นห้องเก็บเอกสารและมีบางส่วนเป็นห้องทำงาน โดยมีพนักงานของสำนักงานประกันสังคม และประชาชนที่มาติดต่อได้วิ่งหลบหนีออกจากตัวอาคารอย่างอลหม่าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรบริเวณถนนสีลมขาออก ตั้งแต่แยกสีลมตัดกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อให้รถดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำสกัดเพลิงได้สะดวก จากนั้นได้ลากสายน้ำขึ้นไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับใช้เครื่องดูดควันเพื่อระบายควันออกจากตัวอาคาร ท่ามกลางความแตกตื่นประชาชนที่อยู่บริเวณถนนสีลม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 2 ช.ม. จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

-สงสัยทิ้งก้นบุหรี่-ไฟฟ้าลัดวงจร


นางสุภาพร ตระกูลเที่ยงตรง ผอ.สำนักงานประกันสังคม เขตพื้นที่ 4 ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังเกิดเพลิงไหม้ กล่าวว่า ที่สำนักงานดังกล่าวมีพนักงานประมาณ 150 คน จุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณบันไดหนีไฟด้านหลังอาคารสำนักงาน ซึ่งใช้เป็นที่เก็บเอกสาร โดยช่วงก่อนเกิดเหตุมีประชาชนมาใช้บริการจ่ายเงินสบทบค่าเบี้ยประกันเป็นจำนวนมาก ขณะเกิดเหตุมีประชาชนอยู่ในตัวอาคารกว่า 300 คน ยอดเงินที่นำฝากธนาคารในช่วงเช้าประมาณ 70 ล้านบาท ขณะเกิดเหตุ พนักงานกำลังทำงานให้บริการอยู่ ก็เกิดมีกลุ่มควันเกิดขึ้นที่บริเวณด้านหลัง ทำให้พนักงานและประชาชนที่มาติดต่อพากันต่างทยอยวิ่งหลบหนี โดยสามารถหลบหนีออกมาจากตัวอาคารได้หมดไม่มีผู้ติดอยู่ภายใน ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่า อาจจะมีประชาชนที่มาใช้บริการแอบสูบบุหรี่แล้วโยนก้นบุหรี่ทิ้งไว้ ทำให้ไฟลุก อย่างไรก็ตามต้องรอให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุอาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือเกิดจากความประมาทที่มีคนโยนก้นบุหรี่ทิ้งจนไฟลุกไปติดกองเอกสาร อย่างไรก็ตามต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาเหตุที่เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นอกจากอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือเกิดจากความประมาทแล้วอาจเป็นการลอบวางเพลิงก็เป็นได้ เนื่องจากทราบว่ากำลังมีปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายพนักงานในสำนักงานประกันสังคม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ตัดประเด็นทิ้ง แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้พฐ.ได้เข้าไปตรวจสอบก่อนจึงสามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์