ศาลจำคุก3อุสตาซคดีวางบึ้มหน้าพิธาน

"สั่งจำคุก คนละ 10 ปี"


ศาลปัตตานีพิพากษาจำคุก 3 อุสตาซคนละ 10 ปี หลังโดนจับได้ว่าเป็นตัวการใช้จยย.บึ้มหน้าบริษัทพิธานพานิช เป็นเหตุให้ตำรวจตาย 2 เหตุเกิดปลายปี"47 โจรใต้บึ้มหมายสังหารทหาร ฉก.34 อ.ระแงะ ชุดรปภ.ครู ทหารเจ็บ 1 ราย อีกรายยิงอุสตาซดับ

หลานเจ็บสาหัส ผบ.สส.เหินฟ้าเยือนมาเลย์ หวังยืมมือมาช่วยดับไฟใต้ คณะกรรมการอิสลามนราธิวาสเข้าเยี่ยมพระสงฆ์วัดบางนรา พร้อมถวายข้าวสาร 2 กระสอบ ส่วนผบ.ตร.ล่องใต้ติดตามความคืบหน้าคดีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดโชว์รูม 8 จุด ปัตตานีตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุทุกอำเภอ จัดจนท.ดูแลชุมชนไทยพุทธ 27 กลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ

-บึ้มดักถล่มมุ่งฆ่าทหาร


เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 15 พ.ย. ร.ต.ท.ธนัด อุปฮาบ ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นที่ขนำขายของ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายรือเสาะ-ยี่งอ บริเวณ 3 แยก ปากทางเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป บริเวณบ้านบาโงระนะ หมู่ 5 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จึงรายงาน พ.ต.อ.มาโนช อนันท์ฤทธิกุล ผกก.สภ.อ.ระแงะ พร้อมประสานไปยังพ.ต.ท.สุกิจ ขำมาก ส.ว.นปพ.จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด จัดระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร เดินทางไปตรวจสอบยังจุดเกิด

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นการจราจรบนถนนสายดังกล่าว เพื่อกันชาวบ้านออกห่างจุดเกิดเหตุ ตรวจสอบพบเพิงขายของสภาพเก่าซึ่งสร้างด้วยไม้หลังคามุงจากอยู่ในสภาพหลังคาเปิด พื้นไม้ ซึ่งสร้างทับคูน้ำริมถนนกระจัดกระจายทั่วพื้น โดยมีเศษสะเก็ดระเบิดกระจายทั่วบริเวณรัศมี 15 มตร มีชิ้นส่วนเศษกล่องเหล็ก เศษเหล็กหุนตัดสั้น เศษซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ เชื้อปะทุดินระเบิดและปุ๋ยแอมโมเนียไนเตรด จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

-แฉระเบิดแสวงเครื่องหนัก5ก.ก.


จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายนำระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม บรรจุไว้ในกล่องเหล็ก จุดชนวนระเบิดด้วยสัญญาณโทรศัพท์มือถือ จากนั้นจึงแอบนำมาวางซุกไว้ใต้พื้นเพิงขายของ ซึ่งสร้างทับคูน้ำริมถนนสายดังกล่าว จากการสอบสวนนายสุธา สะอิ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/2 ม.5 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ทราบว่า เพิงหลังดังกล่าวมีนายมะ อาแว อายุ 33 ปี เป็นคนในพื้นที่บ้านบาโงระนะ จะนำของมาวางขายไว้ที่เพิงหลังดังกล่าวทุกๆ เช้า โดยขนของและอาหารด้วยรถจักรยานยนต์พ่วง 3 ล้อ เป็นประจำทุกวัน เพื่อนำมาขาย โดยจุดดังกล่าวเป็นจุดนัดหมายและรับคณะครูโรงเรียนบ้านบาโงระนะ และโรงเรียนบ้านมะรือโบตก อ.ระแงะ เพื่อไปส่งยังจุดหมาย โดยจะมีเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ร้อย ร.1313 ฉก.34 นำรถยนต์ฮัมวี และกำลัง 4 นาย โดยมีจ่าสิบเอกวีรวัฒน์ วิลานนท์ เป็นหัวหน้าชุดได้จอดรถมายืนรออยู่คณะครูห่างจากจุดระเบิดเพียง 10 เมตร และคาดว่าคนร้ายซึ่งยืนรอจังหวะอยู่ในละแวกดังกล่าว ได้กดจุดชนวนระเบิดขึ้นจนดังสนั่นหวั่นไหว ส่งผลให้ จ.ส.อ.วีรวัฒน์ ถูกเศษสะเก็ดระเบิดที่บริเวณใบหน้าและหูอื้อได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งชุดแพทย์ของเจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวไปรักษาอย่างเร่งด่วน แต่โชคดีที่นายมะ อาแว นำของมาวางขายไว้ในเพิงหลังดังกล่าวช้ากว่าปกติ ซึ่งมักจะมีครู และชาวบ้านมายืนรอซื้อของกันเป็นจำนวนมาก จึงบาดเจ็บเพียงคนเดียว ส่วนสาเหตุสันนิษฐานเป็นการสร้างสถานการณ์ใต้รายวัน

-อาก้าถล่มดับอุสตาซที่ระแงะ


เวลา 20.00 น. วันที่ 14 พ.ย. พ.ต.ท.วิเชียร์ ยันตรัตน์ รอง ผกก.ป.สภ.อ.ระแงะ จ.นริวาส รับแจ้งเหตุว่า มีคนถูกยิงเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 1 ราย บนถนนในหมู่บ้านมะนังกาแยง หมู่ 3 ต.จะแนะ อ.จะแนะ จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิต สภาพนอนหงายทราบชื่อคือนายสาแลแม สามะ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 7 ต.จะแนะ อ.จะแนะ ซึ่งเป็นครูสอนศาสนาอิสลามเรียนดารุลนาอิม บ้านมะนังซีโปร์ ต.จะแนะ อ.จะแนะ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามชนิดอาก้า เข้าบริเวณศีรษะ ลำตัว แขนขวา พรุนทั้งร่างเสียชีวิตคาที่ ส่วนอีกคนที่ได้รับบาดเจ็บถูกพลเมืองดีนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส ทราบชื่อต่อมา คือด.ช.ฟิกรี อูเซ็ง อายุ 9 ขวบ ซึ่งเป็นหลานของผู้ตาย อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 7 ต.จะแนะ อ.จะแนะ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกัน ที่บริเวณขาซ้าย 1 นัด อาการสาหัส โดยที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนอาก้าจำนวน 2 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ส่วนตัว ออกจากบ้านพัก เพื่อไปรับหลานที่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 7 ต.จะแนะ อ.จะแนะ ระหว่างทางขณะเดินทางมุ่งหน้าเพื่อกลับบ้านพักพร้อมกับหลาน มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบจากด้านหลัง และแซงหน้า พร้อมใช้อาวุธปืนอาก้ากราดยิงใส่จำนวน 1 ชุดใหญ่ กระสุนถูกนายสาแลแม เสียชีวิต ส่วนหลานได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐาน เป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ป่วนใต้รายวัน

-มือปืนนุ่งโสร่งยิงดับผญบ.


เวลา 07.29 น.วันเดียวกัน พ.ต.ต.จีรศักดิ์ วิไกรเจริญยิ่ง สารวัตรเวร สภ.อ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเหตุยิงกันที่บริเวณหน้าโรงเรียนกอตอตือระ ม.1 ต.กอตอตือระ อ.รามัน จ.ยะลา จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่รีบรุดเดินทางไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพนายดาโอ๊ะ กะดะแซ อายุ 36 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.กอตอตือระ ถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด บริเวณลำตัว 3 นัด เสียชีวิตคาที่

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายดาโอ๊ะเดินทางมาส่งบุตรที่โรงเรียนดังกล่าว ขณะเดินทางกลับ มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนตร์ฮอนด้า เวฟ นุ่งโสร่ง ตามประกบและจ่อยิงจนนายดาโอ๊ะเสียชีวิต เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ที่ต้องการสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

-พิพากษาจำคุก3อุสตาซ


เวลา 09.30 น. นายสมเดช เอี่ยมวิเชียรเจริญ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จ.ปัตตานี นัดฟังคำพิพากษา คดีดำเลขที่ อ.352/47 ที่พนักงานอัยการปัตตานีเป็นโจทย์ยื่นฟ้องนายอาดือนัน เส็น อายุ 26 ปี กับพวกรวม 3 คน คือนายอภิสิทธิ์ มาหะมะ อายุ 23 ปี และนายอับดุลเลาะ ดือราแม อายุ 31 ปี ทั้ง 3 คนเป็นครูสอนศาสนา หรืออุสตาซในพื้นที่ ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ฐานความผิดข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ ตระเตรียมสมคบกันเพื่อเป็นกบฏ เป็นอั้งยี่และซ่องโจร ฆ่าและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานและผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง คดีสำคัญคือการวางระเบิดหน้าบริษัทพิธานเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ม.ค.47

ศาลได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่าให้พิพากษาจำเลยทั้ง 3 มีความผิดฐานสะสมกำลังพล หรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใด สมคบ หรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเพื่อเป็นกบฏ อันเป็นบทหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 พฤติการณ์การกระทำผิดของจำเลยทั้ง 3 เป็นภัยต่อความมั่นคง เหตุสมควรให้ลงโทษขั้นสูง ลงโทษจำคุกคนละ 15 ปี แต่คำให้การในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้จำเลยทั้ง 3 คนละหนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยทั้ง 3 คนละ 10 ปี และริบซากรถจักรยานยนต์ที่ใช้ซุกซ่อนวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง

นางมาซีเตาะ เส็น พี่สาวของนายอาดือนัน กล่าวแสดงความรู้สึกหลังจากรับฟังคำพิพากษาของศาล ว่ายอมรับในคำพิพากษาของศาล แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากไม่ค่อยมีการพิจารณาพยานของจำเลยเท่าที่ควร และตนก็ไม่เชื่อว่าจำเลยจะให้การสารภาพว่าเป็นแกนนำกลุ่มพูโลจริง อย่างไรก็ตามตนยังมีความมั่นใจในความเป็นธรรมของกระบวนการยุติธรรม จึงมอบหมายให้ทนายดำเนินการอุทรสู้คดีต่อไป

-ผบ.ตร.ล่องใต้ตามคดีบึ้มโชว์รูม


เวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้ายะลา (ศปก.ตร.สน.ยะลา) ซึ่งตั้งอยู่ภายในศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 9 อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.และคณะได้เดินทางมาเพื่อตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่

จากนั้น คณะผบ.ตร.ได้เดินทางไปยังวัดนิโรธสังฆาราม อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านจากหมู่บ้านในอ.บันนังสตา และ อ.ธารโต จำนวน 55 ครอบครัว จำนวน 206 คน ที่อพยพหนีภัยคุกคามจากผู้ก่อความไม่สงบมาอาศัยอยู่ภายในวัดพร้อมมอบเงินจำนวน 5 หมื่นบาท และเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับบุตรหลานของชาวบ้านด้วย

พล.ต.อ.โกวิท กล่าวกับประชาชนว่าตนจะให้ความช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัยบ้านที่ถูกเผาไปซึ่งจะสั่งการให้ทางตชด. เข้าไปจัดการสร้างให้และจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ สำหรับชาวบ้านที่มีสวนยางหรือสวนผลไม้ที่กำลังเก็บเกี่ยว ทางราชการก็จะส่งทหารเข้าไปดูแลส่วนปัญหาความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็จะร่วมมือแก้ไขปัญหาต่างๆ ทุกๆ ด้าน เราจะปรับเปลี่ยนการดูแลให้ความดูแลมากยิ่งขึ้นและในส่วนขั้นต้นตนได้นำของอุปโภคบริโภคมาแจกจ่ายให้ประชาชนพร้อมเงินจำนวน 5 หมื่นบาท มาเป็นการช่วยเหลือปัญหาเบื้องต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่พล.ต.อ.โกวิท กำลังพูดคุยพบปะกับชาวบ้านอยู่นั้น นายธงชัย เอี่ยมหิรัญ ชาวบ้านที่ถูกคนร้ายยิงภรรยาและพ่อตาเสียชีวิตและเผาบ้านจนเสียหาย ได้คุกเข่าลงที่ตรงหน้าพล.ต.อ.โกวิท แล้วกล่าวทั้งน้ำตาว่าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ชาวบ้านต้องย้ายออกมาอยู่ภายในวัดก็ยังไม่เห็นความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยอย่างที่ทุกฝ่ายบอก แต่ก็ยังคงให้อยู่ภายในวัดข้อเรียกร้องของชาวบ้านที่ต้องการออกไปอยู่ที่อื่นก็ไม่ได้มีความคืบหน้า อยากจะให้ช่วยเหลืออย่างจริงจัง

จากนั้น คณะพล.ต.อ.โกวิทได้เดินทางไปประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะคดีคนร้ายลอบวางระเบิดโชว์รูมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 8 จุด ในเขตเทศบาลนครยะลา และคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีพล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้ายะลา และพล.ต.ต.ไพทูรย์ ชูชัยยะ ผบก.ภ.ยะลา รวมถึง พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา เข้าร่วมประชุม

-ยิงครูสาวดับที่รือเสาะ


เวลา 16.30 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.พิบูรณ์ ธนิกกุล ร้อยเวร สภ.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุว่า มีข้าราชการครูผู้หญิง ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บนถนนสายเลี่ยงเมือง สายพิธาน-รือเสาะ บริเวณบ้านตะโล๊ะตอแล หมู่ 9 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จึงรายงาน พ.ต.อ.บันลือ ชูเวช ผกก.สภ.อ.รือเสาะ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร จึงรุดไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบเพียงรถจักรยานยนต์ซูซูกิ รุ่นอาร์ซี 100 สีเปลือกมังคุด ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มอยู่ข้างทาง 1 คัน และกองเลือดจำนวนหนึ่งบนพื้นถนน ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรือเสาะ ทราบชื่อภายหลังว่า ว่าที่ร.ต.หญิงกุลธิดา อินจำปา อายุ 33 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ยะลา เป็นครูสอนอยู่โรงเรียนบ้านลาเม๊าะ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายรือเสาะ-นราธิวาส บริเวณบ้านลาเม๊าะ หมู่ 2 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 เข้าที่บริเวณกลางแผ่นหลัง 2 นัด ก้นกบขวาอีก 2 นัด รวม 4 นัด ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด ต่อหน้าคณะครูที่เข้ามาเยี่ยมอาการจำนวนมาก


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์