หมายจับ2ญาติมือปืนฆ่าสาว16

ตร.ยันปมจะยิงพ่อลูกขวาง-ตายแทน!


ตร.พะโต๊ะสอบพยานจนรู้ชัด 2 มือปืนที่ลากลูกซองยาวมายิงถล่มพ่อ แต่ลูกสาววัย 16 กระโดดขวางกระสุนจนตายแทน เป็นญาติกับคนตายแน่นอน เตรียมเสนอศาลออกหมายจับทั้งสองคนแล้ว เผยส่งคนตามไปถึงบ้านก็พบว่าได้หลบหนีไปจากบ้านแล้วทั้งสองคน ส่วนประเด็นสังหารก็คือสวนทุเรียนที่มีปัญหาฟ้องร้องกันคาศาล ยันเป้ากระสุนจริงๆ คือพ่อ แต่ลูกสาวรับเคราะห์แทน

จากกรณีเหตุการณ์น.ส.รัตนาพร แสงสง่า อายุ 16 ปี หรือน้องแจ๊ด กระโดดขวางทางปืนเพื่อป้องกันชีวิตนายบุญรอด แสงสง่า อายุ 52 ปี ผู้เป็นพ่อ จนตัวเองถูกมือปืน 2 คน ใช้ปืนลูกซองยาวยิงถล่มจนเสียชีวิตแทน ซึ่งเบื้องต้น นางจินตนา แสงสง่า อายุ 47 ปี แม่ของน้องแจ๊ด ให้การว่าเห็นหน้ามือปืนที่ลงมือ ที่แท้เป็นลูกชาย 2 คนของพี่สาวตนเอง โดยสาเหตุที่ต้องการมาฆ่า เป็นเรื่องพิพาทที่ดินสวนทุเรียนที่มีเนื้อที่ติดกัน มีคดีคาศาลอยู่ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

"มั่นใจญาติเป็นคนยิง"


ความคืบหน้าของข่าว เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 พ.ย. พ.ต.อ.ฐากูร เนตรพุกณะ ผกก.สภ.อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ได้ระดมตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เข้าร่วมประชุมอย่างเร่งด่วน จากนั้นเปิดเผยว่า ภายหลังสอบปากคำคนในครอบครัวของน.ส.รัตนาพรที่อยู่ในเหตุการณ์และพยานแวดล้อม รวมถึงสาเหตุการสังหารแล้ว ตำรวจมั่นใจว่าผู้ที่ลงมือยิงคือญาติของน.ส.รัตนาพร ที่มีศักดิ์เป็นพี่น้องใกล้ชิดกับครอบครัวนี้แน่นอน สาเหตุมาจากข้อพิพาทที่มีกันมานาน ระหว่างพ่อแม่ของน.ส.รัตนาพร และครอบครัวของพี่สาวน.ส.รัตนาพรในเรื่องที่ดินสวนผลไม้ที่อยู่ติดกัน จนกระทบกระทั่งกันรุนแรง มีการแจ้งความดำเนินคดี เป็นคดีในชั้นศาลจังหวัดหลังสวนในเวลานี้

ผกก.สภ.อ.พะโต๊ะ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกชายของครอบครัวดังกล่าวมาก่อเหตุ ต้องการยิงพ่อของน.ส.รัตนาพร เพื่อต้องการฮุบเอาที่ดิน ตำรวจได้ส่งทีมสายสืบไปตรวจสอบที่บ้านของผู้ต้องสงสัย ปรากฏว่าผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นลูกชาย 2 คนของครอบครัวฝั่งตรงข้ามหายออกจากบ้านไปแล้ว ซึ่งในวันที่ 13 พ.ย. ตำรวจจะเสนอศาลจังหวัดหลังสวนออกหมายจับทั้ง 2 คน และจะได้นำตัวผู้ที่คาดว่ามีส่วนรู้เห็นมาสอบปากคำเพิ่ม

"อยากให้ ตร.ระดับสูงสนใจ ชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลบ้าง"


ด้านนางจินตนา แสงสง่า มารดาผู้ตาย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่สื่อมวลชนสนใจเรื่องนี้ เพราะก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ไม่ให้ความสนใจเลย การบันทึกรายละเอียดก็ไม่ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด รวมถึงญาติพี่น้องอีก 3 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ให้การตรงกัน แต่ตำรวจกลับไม่สนใจ ต่อมาเมื่อหนังสือพิมพ์ลงข่าว จึงพากันวิ่งวุ่นมาสอบปากคำอีกรอบ เคยไปโทรศัพท์สอบถามนายตำรวจระดับสูงในจังหวัด ก็พากันโบ้ยไม่รู้เรื่อง

โยนมาให้สอบถามท้องที่อย่างเดียว คงนึกว่าอ.พะโต๊ะอยู่ไกลปืนเที่ยง ไม่มีใครมาสนใจ ในขณะที่ครอบครัวถูกขู่ทุกเวลาว่าจะเอาระเบิดมาขว้างในงานศพ ทำให้ชาวบ้านไม่กล้ามาร่วมงานและยังไปขู่วัดข้างบ้านไม่ให้ใช้เมรุเผาศพลูกสาวอีก นับว่าเป็นผู้ที่มีอิทธิพลมาก จึงอยากให้ตำรวจระดับสูงของภาค 8 ให้ความสนใจเรื่องของชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลความเจริญบ้าง


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์