เช็กกล้องวงจรปิดล่าทีมบึ้มโชว์รูม
"แอ้ด"ยอมรับแก้ปัญหาใต้ต้องใช้เวลา ไม่ใช่แค่ขอโทษแล้วจะจบ หลังโจรใต้ก่อเหตุระเบิดโชว์รูมทั่วยะลา "สนธิ"ยืนยันไม่หวนหลับไปใช้วิธีการรุนแรง ถึงแม้โพลชี้ปชช.ต้องการให้ใช้ ยอดผู้อพยพหนีภัยโจรใต้มาอาศัยวัด เพิ่มเป็น 120 คนแล้ว ที่น้ำใจจากส่วนต่างๆหลั่งไหลให้ความช่วยเหลือไม่ขาดสาย แม่ทัพภาค 4 เผยส่งกำลังทหารเข้าไปตรึงในหมู่บ้านที่ย้ายออกมาแล้ว ถ้าจะกลับเข้าไปก็กลับได้ ส่วนคดีบึ้ม 8 โชว์รูม ตร.ยังพุ่งเป้าฝีมือ "มะแอ ปะจู" พร้อมตรวจเช็กกล้องวงจรปิดที่โชว์รูมอีซูซุ พบจับภาพผู้ต้องสงสัยได้ ตร.หาดใหญ่จับวัยรุ่นต้องสงสัยพัวพันกลุ่มก่อความไม่สงบ
-"แอ้ด"รับอีกนานไฟใต้ดับ
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยล่าสุดเกิดเหตุระเบิดโชว์รูมรถยนต์ 8 แห่งในจ.ยะลา ทั้งที่นายกฯได้ลงพื้นที่แล้วถึง 2 ครั้งว่า เรื่องนี้ไม่ต้องวิเคราะห์อะไร บอกได้เลยว่าจะต้องใช้เวลาอีกยาวเพราะ 4-5 ปีที่ผ่านมาเกิดปัญหามากมาย จะให้ตนแก้ปัญหาครึ่งเดือนแล้วหายไป คงเป็นไปไม่ได้
"ผมไม่ใช่ผู้ที่จะเปิดหรือปิดสวิตช์ได้ แต่มันเป็นการก้าวไปสู่การแก้ไขปัญหาทางสันติวิธีอย่างที่เคยพูดไปแล้ว ถ้าเราไม่ยอมพูด ไม่ยอมขอโทษกัน ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ได้มาพูดจากัน ก็ไม่มีทางแก้ไขได้ แต่วันนี้เราเปิดโอกาสแล้ว และโอกาสในขณะนี้ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เป็นโอกาสที่ดีที่สุด ดีกว่าในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา" พล.อ.สุรยุทธ์กล่าว
-"สนธิ"สั่งเฝ้าระวังชุมชนไทยพุทธ
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคมช. กล่าวถึงกรณีชาวไทยพุทธ ในพื้นที่อ.บันนังสตา และอ.ธารโต จำนวนมาก ทิ้งถิ่นฐานหนีไปอาศัยอยู่ที่วัดนิโรธสังฆาราม เขตเทศบาลนครยะลา ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับศาสนา แต่หากพื้นที่เป้าหมายใดอ่อนแอ กลุ่มก่อความไม่สงบก็จะพยายามทำ ได้เตือนกองทัพภาคที่ 4 เมื่อการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก 3-4 วันที่ผ่านมาว่า ให้ไปเพ่งเล็งตามหมู่บ้านและชุมชนชาวไทยพุทธ วัด และโรงเรียน ซึ่งพล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 เข้าใจปัญหานี้อยู่ ซึ่งกองทัพได้นำกำลังทหารไปลาดตระเวนในพื้นที่มากขึ้น
เมื่อถามถึงมาตรการดูแลไม่ให้แต่ละฝ่ายรู้สึกมีความเหลื่อมล้ำซึ่งกันและกัน พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ความจริงแล้ว เจ้าหน้าที่จะดูแลชุมชนไทยพุทธเป็นหลักมากกว่า เพราะโดยธรรมชาติชุมชนไทยพุทธเป็นเป้าหมายที่น่าจะเกิดเหตุ และเป็นหลักการทางทหารที่จะต้องดูแลอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ป้องกันอย่างไรไม่ให้กลุ่มก่อความไม่สงบมีศักยภาพและทำให้ประชาชนหวาดกลัว พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ความจริงกองทัพต้องพิจารณา เรื่องของการปรับใช้กำลัง ซึ่งปกติหลักการทางยุทธวิธีมีการกำหนดอยู่ว่า ตรงไหนที่เป็นพื้นที่ที่มีความเข้มจะต้องมีการใช้กำลังทหารเข้าไปจำนวนมาก ส่วนตรงไหนที่พื้นที่เจือจางจะต้องมีการใช้กำลังทหารอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งทางกองทัพก็ต้องนำไปปรับใช้