อาก้าถล่มคาปิคอัพ เสี่ยค้าวัวเมียน้อยนั่งคู่-สาหัส

มือปืนลพบุรีดุ ควงอาก้าใส่รถปิคอัพถล่มดับเสี่ยค้าวัว เมียน้อยที่นั่งมาด้วยกันสาหัส สอบพบก่อเรื่องขัดแย้งไว้อื้อ ตร.ตั้ง 2 ประเด็นสังหารแก้แค้นและหักหลังไม่จ่ายค่าวัวราคากว่า 1 ล้านบาท เผยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเสี่ยฟาร์มหมูโดนยิงด้วยลูกซอง 5 นัดดับสยอง ตร.นำปืนเสี่ยค้าวัวไปตรวจสอบ พบว่าเป็นปืนจากกระบอกเดียวกัน อีกเรื่องปมหักซื้อวัวพันธุ์หูยาวจากเสี่ยที่อ่างทอง เอาวัวมาแล้วเบี้ยวไม่จ่ายเงิน เมื่อเจ้าของมาทวงวัวคืนก็ไม่ให้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 พ.ย. พ.ต.ท.ชรินทร์ เพิ่มพูน สารวัตรเวร สภ.อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี รับแจ้งเกิดเหตุยิงถล่มกันด้วยอาวุธปืนอาก้าบนถนนสายพุแค-หล่มสัก หมู่ 7 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต หลังรับแจ้งแล้วพ.ต.ท.ชรินทร์จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นออกเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.ธนปพน เคยนิยม ผกก. พ.ต.ท.ภพธร จิตต์หมั่น รองผกก.ป. พ.ต.ท.เฉลิมชัย มณีวรรณ รองผกก.สส. พ.ต.ต.สำราญ น้อยทุ่ง สวป. พ.ญ.พิณิตา งามเลิศศิริชัย แพทย์เวร ร.พ.พัฒนานิคม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง และหน่วยกู้ภัยนคร 88 ทันที

ที่เกิดเหตุบริเวณกึ่งกลางถนนซึ่งเทปูนทำเป็นรางระบายน้ำฝนที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุตอนครึ่ง สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน บธ-4823 ลพบุรี ตกลงไปอยู่ในสภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าเข้าที่กระจกด้านคนขับ 2 รู กระจกหน้ารถ 1 รู กระโปรงหน้ารถบริเวณแก้มด้านขวา 2 รู ภายในรถพบรอยเลือดกระจายเต็มพื้นรถ และที่ท้ายรถบริเวณใต้กระบะพบชายนอนตายจอมกองเลือดในสภาพคว่ำหน้า สวมกางเกงยีนส์ขายาว สวมเสื้อลายสกอตแขนสั้น ข้อมือซ้ายสวมนาฬิกา 1 เรือน สร้อยที่สวมใส่ไว้ที่คอพร้อมกับพระเลี่ยมทองหลายองค์ ถูกกระสุนปืนจนขาด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าเข้าที่ลำคอขวา 1 นัด ชายโครงขวา 2 นัด ทราบชื่อคนตายจากบัตรประชาชนว่า นายโหน ขำอุปถัมภ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 1 ต.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี นอกจากนี้ ยังทราบว่ามีคนได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน พลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลพัฒนานิคมแล้ว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจบริเวณที่เกิดเหตุโดยละเอียด พบว่าห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกเกลื่อนพื้นถนน จำนวน 5 ปลอก นอกจากนี้ ยังพบรอยรถลื่นไถลมาไกลประมาณ 500 เมตร พ.ต.ท.ชรินทร์ สารวัตรเวร จึงบันทึกที่เกิดเหตุเอาไว้เป็นหลักฐานโดยละเอียด พร้อมเก็บปลอกกระสุนปืนอาก้าและหลักฐานต่างๆ ที่พบในที่เกิดเหตุเอาไว้ประกอบคดี จากนั้นมอบศพนายโหนให้หน่วยกู้ภัยนคร 88 นำส่งโรงพยาบาลพัฒนานิคม ให้แพทย์ทำการตรวจชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง พร้อมกันนี้ก็ได้ออกเดินทางไปดูคนเจ็บที่โรงพยาบาลพัฒนานิคม

เมื่อเดินทางไปถึงโรงพยาบาลพบแพทย์และพยาบาลกำลังให้การรักษาคนเจ็บอยู่ ทราบชื่อภายหลังว่า นางสมนึก ปิ่นงาม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 213 หมู่ 3 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เป็นภรรยาน้อยของนายโหน มีบาดแผลถูกกระจกบาดที่เท้าซ้าย ไหล่ซ้าย แก้มขวา ลำคอขวา สามารถพูดให้การได้

นางสมนึก ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุสามีขับรถยนต์กระบะออกจากบ้านที่ ต.ดีลัง เพื่อพาตนไปซื้อของที่ตลาดซอย 12 ขณะขับรถกันมาก็พูดคุยกันโดยไม่ได้สนใจอะไร เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้ยินเสียงปืนดังลั่นขึ้นจำนวนหลายนัด จากนั้นรถก็เสียหลักตกถนนลงไปในรางระบายน้ำกลางถนน โดยตนและสามีหลุดออกจากตัวรถมาข้างนอก และตนได้สังเกตเห็นรถยนต์กระบะจำยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนไม่ได้ มีคนนั่งอยู่กระบะเร่งเครื่องขับหลบหนีไป

สำหรับสาเหตุที่นายโหนถูกยิงตายครั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งเอาไว้ 2 ประเด็นด้วยกันคือ เรื่องแค้นส่วนตัว และเรื่องหักหลังค้าวัวพันธุ์หูยาว โดยเรื่องความแค้นส่วนตัว เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.49 เวลากลางคืน นายฉัตรชัย อินทร์ปิ่นปัก เสี่ยเจ้าของฟาร์มหมู อยู่หมู่บ้านหนองนา หมู่ 1 ต.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และมีศักดิ์เป็นญาติกับนายโหน ถูกคนร้ายลอบยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง 5 นัดเสียชีวิต ขณะลงจากรถยนต์กระบะเพื่อไปเปิดประตูเข้าบ้าน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจขออาวุธปืนของนายโหนไปตรวจวิถีกระสุน และพบว่าเป็นลูกกระสุนปืนที่ออกจากปืนกระบอกเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับนายโหนในข้อหาฆ่าผู้อื่นตาย และนายโหนประกันตัวออกมาสู้คดี และมาถูกยิงตายดังกล่าว

สำหรับเรื่องหักหลังค้าวัวพันธุ์หูยาว เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าเมื่อต้นเดือนมี.ค.49 ที่ผ่านมา นายโหนตกลงซื้อวัวพันธุ์หูยาวจากผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งในจ.อ่างทอง ในราคากว่า 1 ล้านบาท โดยนายโหนเอาวัวมาก่อน ต่อมาทางเจ้าของวัวมาทวงเงิน แต่นายโหนบ่ายเบี่ยง

จนเจ้าของวัวติดตามมาเอาวัวคืน หลังนำวัวขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้านที่จ.อ่างทอง นายโหนได้แจ้งตำรวจสกัดจับรถและเอาวัวกลับคืนมาเลี้ยงตามเดิม ทำให้เจ้าของวัวเกิดความโกรธแค้นเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจจ้างมือปืนมายิงก็เป็นได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนหาสาเหตุการโดนฆ่าที่แท้จริงต่อไป

สำหรับผู้ตายนั้นอดีตเคยลงเล่นการเมืองมา 2 สมัย สมัยแรกเมื่อปี 2542 เป็นรองนายกอบต.พัฒนานิคม และเมื่อหมดวาระลงก็ลงสมัครใหม่ในปี 2546 ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอีก แต่คราวนี้ได้มีการร้องเรียนว่าผู้ตายนั้นทุจริตเลือกตั้ง จนกกต.ได้ให้ใบแดง ในขณะนี้ทางกกต.ได้มอบหน้าที่ให้อบต.พัฒนานิคมลพบุรี ทำการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อการเลือกตั้ง หรือคืนเงินให้กับกกต.เป็นจำนวนเงิน 16,000 บาท แต่เรื่องยังไม่ทันได้ฟ้องผู้ตายก็มาถูกดับดังกล่าว

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด