โวยตำรวจจับลูกอ้างชิงรถจยย.ทั้งที่บอด2ข้าง!

"พิลึก รวบหนุ่มบอดข้อหาลักรถ"


พ่อหนุ่มบอดโวย ตำรวจทำคดีพิลึก รวบลูกชายที่ตาบอดทั้งสองข้างตั้งแต่เด็ก เป็นผู้ต้องหาชิงรถจักรยานยนต์ในงานพระสมุทรเจดีย์ ตำรวจแจง พยานยันเห็นคนตาบอดร่วมด้วย

จึงต้องรวบตามกฎหมาย ด้านเจ้าตัวเผย เพื่อนชวนไปเที่ยวงานแต่ไม่รู้ว่าไปก่อเหตุอะไรหรือไม่ เพราะมองไม่เห็น

คดีตำรวจจับตัวหนุ่มตาบอดกล่าวหาว่า ร่วมกับพวกชิงรถจักรยานยนต์รายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน นายเรวัติ บุญริ้ว อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/827 หมู่ 2 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทร ปราการ เข้าร้องเรียนต่อ พ.ต.ท.ศานิตย์ โพธิพรม รองผกก.สส.สภ.อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อขอความเป็นธรรมว่า เมื่อคืนวันที่ 8 พฤศจิกายน ตำรวจ สภ.อ.เมือง ได้เข้าจับกุม นายณัฐพล บุญริ้ว อายุ 19 ปี บุตรชายที่ตาบอดทั้ง สองข้าง

"ไปด้วยจริงแต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย"


ขณะพักอยู่ในบ้าน โดยไม่มีหมายจับหรือหมายค้นในข้อหาร่วมกับพวกปล้นทรัพย์รถจักรยานยนต์ เหตุเกิดในงานวันพระสมุทรเจดีย์ คืนวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าบุตรชายไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่คนตาบอดทั้งสองข้างตั้งแต่อายุ 5 ขวบจะไปก่อเหตุ หากจะมีการก่ออาชญากรรมจริง คงไม่มีใครเอาคนพิการไปเป็นภาระโดยเฉพาะคนตาบอด

นายณัฐพลที่ตกเป็นผู้ต้องหา และยังคงอยู่ในการควบคุมของตำรวจ กล่าวว่า ก่อนถูกจับกุมมีเพื่อนมาชักชวนและจูงให้ไปเที่ยวงานนมัสการพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งเป็นงานประจำปีของ จ.สมุทรปราการ จึงไปตามคำชวน ทั้งที่มองไม่เห็นอะไร ต่อมาได้ยินเสียงผิดปกติขึ้นก็ได้สอบถามเพื่อน โดยเพื่อนบอกว่าไม่มีอะไรแล้วพาขึ้นรถจักรยานยนต์กลับบ้านจนกระทั่งมีตำรวจมาจับกุมตัวดังกล่าว ตำรวจถามก็ยอมรับว่าไปเที่ยวงานกับเพื่อนจริง แต่ไม่ทราบว่าเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันนั้นไปก่อเหตุอะไรหรือไม่

"ทำตามขั้นตอน ขึ้นอยู่กับ พยานหลักฐาน"


พ.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ได้ตรวจสอบจากตำรวจที่เข้าจับกุมแล้ว พบว่าทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ในครั้งแรกได้เชิญตัวมาสอบปากคำ และเมื่อสอบแล้วผู้ต้องหารับสารภาพจึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ โดยชี้แจงให้นายเรวัติเข้าใจว่าตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ตามคำให้การของผู้เสียหายที่ระบุว่า มีคนร้ายลักษณะคล้ายคนตาบอดร่วมด้วย และจากการสืบสวนพบว่า นายณัฐพล น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง และเป็น 1 ใน 3 คนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์รถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2549 ตำรวจจึงต้องเข้าจับกุมพร้อมกับเพื่อนที่ก่อเหตุอีก 1 คน ในส่วนที่ไม่มีหมายจับมาแสดงขณะจับกุม เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีจึงเข้าจับกุมโดยทันที ขณะตรวจค้นพบของกลางคือป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่ซ่อนอยู่ในบ้านด้วย

"ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย หากผลการสอบสวนพบว่านายณัฐพล มีส่วนรู้เห็นหรือแบ่งหน้าที่กันในการก่อเหตุก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ถ้าหากพบว่าไม่มีส่วนรู้เห็น พนักงานสอบสวนก็จะสั่งไม่ฟ้องต่อไป ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน" พ.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์