สุดโหดรถชนไม่ตายแทงซํ้า

ร.ต.ท.ธนิศร เอกรัตนณัฐ ร้อยเวร สภ.อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งมีผู้พบคนเสียชีวิตอยู่ในหนองน้ำ ริมถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี หมู่ 1 ต.วังยาง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้น รุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปราโมทย์ ไทรหอมหวล ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ชัชรินทร์ สว่างวงศ์ ผกก. พ.ต.ท.กิตติวรชัย จิตตะวิริยะ รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท.พนม เรืองภู่ รอง ผกก.(ป.) แพทย์เวร รพ.ศรีประจันต์ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิเสมอกันสุพรรณบุรี

ทะเบียน กรน 657 สุพรรณบุรี ล้มคว่ำอยู่ริมถนนในสภาพท้ายรถถูกชนพังยับเยิน ไฟท้ายแตกกระจายเกลื่อน ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบศพนายสมคิด มะกรูดอินทร์ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 315 หมู่ 2 ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี และมีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ศรีประจันต์

นอนตายอยู่ในหนองน้ำข้างถนน
สวมเสื้อยืดแขนสั้น
สวมทับด้วยเสื้อแจ็กเกตสีดำ
นุ่งกางเกงขายาวสีดำ
สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงด้วยเหล็กแหลมเข้าชายโครงขวาและลำตัวกว่า 20 แผล
หน้าผากถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์
ค้นในตัวพบเงินสด 24,913 บาท

นายสมคิดออกจากบ้านไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของหลานชายที่ร้านอาหารศรีชล ในตลาดศรีประจันต์ จนกระทั่งเวลาประมาณ 2 ทุ่ม มีคนโทรศัพท์เข้ามาที่มือถือของนายสมคิด หลังพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง นายสมคิดรีบจ่ายเงินค่าอาหารให้กับหลานชาย

ก่อนจะผลุนผลันขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกจากร้านแล้วหายตัวไปไม่ กลับบ้าน กระทั่งถึงเช้ามีผู้พบกลายเป็นศพในหนองน้ำ

ขณะนายสมคิดขี่รถไปตามถนนถึงที่เกิดเหตุ ถูกคนร้ายคาดว่าเป็นคนรู้จักและอาจเป็นคนเดียวกับที่โทรศัพท์ เข้าไปหาผู้ตาย ขับรถยนต์พุ่งชนหวังให้เป็นอุบัติเหตุ แต่ปรากฏว่า นายสมคิดไม่ตาย คนร้ายจึงใช้เหล็กแหลมกระหน่ำแทงไม่ยั้ง ก่อนจะใช้ท่อนไม้ตีซ้ำเสียชีวิต จากนั้นช่วยกันจับศพโยนลงหนองน้ำอำพรางคดี

ประเด็นแรกเกี่ยวกับเรื่องความแค้นส่วนตัว โดยทราบว่านายสมคิดเป็นหนุ่มโสด มีนิสัยตุ้งติ้งคล้ายผู้หญิง คบหากับเด็กหนุ่มหน้าตาดีหลายคน อาจเป็นไปได้ว่า คนร้ายเป็นเด็กหนุ่มที่นายสมคิดเคยคบหา

เมื่อเห็นว่านายสมคิดหันไปทำตัวใกล้ชิดกับเด็กหนุ่มคนใหม่ ทำให้เกิดความแค้นลวงไปฆ่าทิ้ง

ทราบว่านายสมคิดนอกจากจะเป็นผู้ใหญ่บ้านแล้ว ยังเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้ให้กับบรรดานักพนัน อาจเป็นไปได้ว่าถูกลูกหนี้รายใดรายหนึ่งลวงไปฆ่าเพื่อล้างหนี้ ส่วนประเด็นอื่นๆตำรวจไม่ได้ตัดทิ้งไป

อยู่ระหว่างการสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ