บุกปล้ำเชือดคอ ฆ่าดญ.12 ศพเปลือยสยอง

พ.ต.ท.ปรีชา เอี่ยมพ่อค้า พงส.(สบ.2) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายในบ้าน เลขที่ 181/25 หมู่บ้านสินทรัพย์นคร ซอยพหลโยธิน 50 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.น.2 พ.ต.ท.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ สว.สส.สน.บางเขน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์สถาบันนิติเวชฯ

ภายในห้องน้ำชั้นล่าง พบศพน้องฟลุก อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1/5 โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ดอนเมือง

นอนหงายเปลือยกายขวางห้องน้ำ
มีบาดแผลถูกเชือดด้วยของมีคมที่ลำคอ 2 แผล
จนหลอดลมขาด
ศีรษะด้านหลังมีรอยถูกเฉือนเป็นริ้วๆหลายแห่ง
ฝ่ามือซ้ายมีร่องรอยมีดบาดคล้ายคว้ามีดของคนร้าย
ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง
เสียชีวิตมาประมาณ 3 ชั่วโมง

ในเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการข่มขืน

ตรวจสอบฝาผนังห้องน้ำมีคราบเลือดสาดกระเซ็น ฝักบัวอาบน้ำยังเปิดค้างน้ำไหลไม่หยุด ส่วนหน้าห้องน้ำมีเสื้อผ้าของผู้ตายกองอยู่ พื้นห้องพบรอยเท้าของคนร้ายเปื้อนเลือดย่ำออกไป เจ้าหน้าที่จึงเก็บร่องรอยหลักฐานต่างๆไว้ตรวจสอบ โดยภายในบ้านไม่มีร่องรอยการรื้อค้น เบื้องต้นพบว่าโทรศัพท์มือถือของผู้ตายหายไป 1 เครื่อง

เพิ่งมาเช่าบ้านเกิดเหตุอยู่กับลูกสาวได้เพียง 2 เดือน ช่วงตอนหัวค่ำออกไปทำธุระนอกบ้าน ปล่อยให้ลูกสาวอยู่เพียงลำพัง แต่โทรศัพท์เข้ามาสอบถาม เมื่อเวลา 22.51 น. น้องฟลุกบอกว่านั่งทำรายงานอยู่ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ชั้นล่าง เสร็จแล้วจะไปอาบน้ำ เตรียมตัวเข้านอนเพื่อไปโรงเรียนในตอนเช้า

กระทั่งกลับเข้าบ้านตอนตี 3 พบประตูรั้วหน้าบ้านเปิดอ้าผิดปกติ

ลูกบิดประตูเข้าบ้านไม่ได้ล็อก ไฟฟ้าปิดสนิท เมื่อเข้าไปภายใน บ้านได้ยินเสียงน้ำไหลจึงเอะใจรีบเปิดไฟดู ถึงกับเข่าอ่อน ลูกสาวนอนยาวเหยียดเสียชีวิตคาห้องน้ำไปแล้ว ทั้งนี้ น้องฟลุกเป็นเด็กเรียบร้อย ชอบเรียนหนังสือ ไม่เที่ยวเตร่ ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตจนไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

เนื่องจากสามีซึ่งเป็นโชเฟอร์แท็กซี่ก็ถูกคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์ เสียชีวิตในท้องที่ สภ.ต.คูคต จ.ปทุมธานีเมื่อ 8 ปีที่แล้ว

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการขืนใจ แต่จะส่งศพไปตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดที่ รพ.ตำรวจ สำหรับทรัพย์สินที่หายไป มีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย

คาดว่าคนร้ายประสงค์เข้าไปทำมิดีมิร้ายกับเด็ก เพราะรู้ว่าอยู่บ้านคนเดียว แต่เหยื่อต่อสู้ขัดขืนจึงถูกสังหารปิดปาก ซึ่งน่าจะเป็นคนในละแวกนั้น กลัวเด็กจำหน้าได้ เพราะหมู่บ้านมีเส้นทางเข้า-ออกเพียงทางเดียว ขณะที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เก็บร่องรอยลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายได้หลายแห่ง

ได้มีนายประพิน เล็กใบ อายุ 56 ปี ตาของน้องฟลุก ไปติดต่อขอรับศพหลานสาวเพื่อนำไปตั้งสวดที่วัดหลักสี่ พร้อมกับเปิดเผยว่ารู้สึกเสียใจต่อเหตุร้ายที่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ 7-8 ปี พ่อของน้องฟลุกซึ่งขับรถแท็กซี่ก็ถูกคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์ไปแล้วคนหนึ่ง

มาวันนี้ต้องสูญเสียหลานสาวเพราะถูกฆาตกรรมไปอีกคน เคยเตือนลูกสาวแล้วว่าให้สนใจดูแลน้องฟลุกให้ดีๆ เพราะเริ่มโตเป็นสาว แต่ก็มาเกิดเรื่องจนได้

พล.ต.ต.นพ.เลี้ยง หุยประเสริฐ ผบก.นต.ผู้ผ่าพิสูจน์ ระบุว่าถูกเชือดและฟันที่ศีรษะและลำคอ เบื้องต้นพบเพียงรอยช้ำที่อวัยวะเพศ

แต่ไม่พบคราบอสุจิในช่องคลอด อย่างไรก็ตาม ได้ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจสอบในห้องแล็บอย่างละเอียดอีกครั้งแล้ว

ได้นำตัว รปภ.บริษัทเกรียงไกร พีวีการ์ด ซึ่ง เข้าเวรประจำป้อมยามด้านหน้าและหลังหมู่บ้านสินทรัพย์นคร จำนวน 4 คนมาสอบสวน พร้อมทั้งตรวจร่องรอยบาดแผลตามร่างกายอย่างละเอียด

จากนั้นเปิดเผยว่า

ในเบื้องต้นไม่พบพิรุธอย่างใด อย่างไรก็ตาม ได้ข้อมูลจาก รปภ.คนหนึ่งว่า ตอนประมาณเที่ยงคืน เห็นผู้ตายนุ่งกางเกงขาสั้นรัดรูปแบบวัยรุ่น เดินออกไปโทรศัพท์ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะใกล้ป้อมยามด้านหน้าของหมู่บ้าน หลังจากนั้นก็กลับเข้าบ้านไป ระหว่างทางจะมีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมจับกลุ่มกันจำนวนมาก

ส่วนสาเหตุที่ผู้ตายออกไปโทรศัพท์สาธารณะ

เนื่องจากถูกแม่ดุด่าในเรื่องใช้โทรศัพท์ บ้านคุยกับเพื่อน เสียค่าโทรศัพท์เดือนละหลายพันบาท นอกจากนี้ทราบว่าช่วงที่ รปภ.เคาะบอกเวลาตอนตีหนึ่ง ได้ยินเสียงเหมือนของหล่นโครมครามภายในบ้านเกิดเหตุด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปดู ในขณะที่ช่วงเกิดเหตุ ไม่มีรถเข้า-ออกหมู่บ้าน ดังนั้นคนร้ายน่าจะเป็นคนรู้จัก หรือวัยรุ่นในย่านนั้นที่รู้ว่าผู้ตายอยู่บ้านคนเดียวเป็นประจำ

บอกว่าออกไปเที่ยวร้าน ป.กุ้งเผา ย่านบางเขน และไม่ได้ล็อกประตูบ้าน แค่ปิดไว้เฉยๆ จากการสอบสวนทราบว่านางนาฏยาหลังจากสามีถูกฆ่าตาย ก็เป็นแม่ม่ายเนื้อหอม มีชายหนุ่มมาติดพันหลายคน ซึ่งตำรวจได้นำเพื่อนชายคนสนิทคนหนึ่งทำงานอยู่การบินไทยมาสอบปากคำแล้ว

แต่ไม่พบพิรุธ ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยในหมู่บ้าน

เพราะดูจากลักษณะการฆ่าแล้ว คนร้ายมุ่งประสงค์พยายามจะขืนใจมากกว่าชิงทรัพย์ เพราะไม่ได้รื้อค้น คว้าโทรศัพท์มือถือไปเครื่องเดียว

โดยมีนายเกษม สดงาม ผอ.โรงเรียน ฤทธิยะวรรณาลัย และนางปวีณา หงสกุล ไปร่วมงานบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก โดยนางนาฏยาร่ำไห้ เปิดเผยว่า เสียใจมาก เพราะน้องฟลุกเป็นลูกสาวคนเดียว อยากเร่งให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากก่อคดีกับเด็กผู้หญิงไม่มีทางสู้อย่างเหี้ยมโหดมาก

และพบเลือดหยดเป็นทางออกจากบ้านเกิดเหตุไปตามป่าหญ้าไปสิ้นสุดที่บ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นใกล้เคียง

จากการสอบ ถามเจ้าของบ้านทราบว่า

อยู่กันทั้งหมด 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน นอกจากนี้ ยังพบมีดทำครัวยาว 6 นิ้ว 2 เล่ม เปื้อนคราบเลือดและเศษชิ้นเนื้อติด จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบคราบเลือดบนมีดและหยดเลือดที่พื้นไว้เป็นหลักฐาน

พร้อมทั้งนำตัวชายในบ้านทั้ง 2 คน ไปสอบปากคำและทำประวัติไว้ ก่อนปล่อยตัวไป โดยเชื่อว่าคนร้ายน่าจะอยู่ละแวกใกล้เคียงกับบ้านเกิดเหตุอย่างแน่นอน

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ