ตร.มึนสาวท่องราตรีให้ข้อมูลถูกข่มขืน-ชิงทรัพย์ไม่ชัด

หลังจากตำรวจ สน.บางนาได้รับแจ้งเหตุจจากหญิงสาวว่าถูกคนขับรถแท็กซี่ข่มขืนและชิงทรัพย์เมื่อตอนเช้ามืด ล่าสุดวันที่ 8 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น.พ.ต.ท.สายชล หงส์สุวรรณ์ พงส.(สบ.2) สน.บางนา สารวัตรเวร เปิดเผยถึงคดีดังกล่าวว่า หลังจากเมื่อวานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนาได้รับแจ้งความ

จากหญิงสาวที่ถูกคนขับแท็กซี่ข่มขืนและชิงทรัพย์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังกรมการขนส่ง และศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ เพื่อตรวจสอบรถแท็กซี่สีฟ้า-แดง หมายเลขทะเบียน ทน 9181 กรุงเทพมหานคร ตามที่ผู้เสียหายได้ให้การไว้

พ.ต.ท.สายชล กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบข้อมูลรถแท็กซี่คันที่ก่อเหตุ จดทะเบียนกับสหกรณ์แห่งหนึ่งใน ซอยร่วมศิริมิตร ย่านลาดยาว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอข้อมูลคนขับแท็กซี่ รูปพรรณ จากสหกรณ์ดังกล่าวเพื่อติดตามจับกุมแล้ว ส่วนผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ และพาตัวไปชี้โรงแรมที่ถูกข่มขืน ซึ่งผู้เสียหายอ้างว่าจำชื่อโรงแรมไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาไปดูโรงแรมในย่านอุดมสุข ทั้งนี้จะประสานไปยังโรงแรมต่างๆ ในย่านอุดมสุข เพื่อตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

พ.ต.ท.สายชล กล่าวอีกว่า หลังทราบข้อมูลคนขับรถแท็กซี่ ได้เรียกคนขับมาให้ปากคำแล้ว ปรากฏว่าไม่ใช่เนื่องจากผู้เสียหายจำหมายเลขทะเบียนผิด โดยผู้เสียหายได้บอกหมายเลขทะเบียนรถกับทางเจ้าหน้าที่ใหม่เป็น ทน 9818 กรุงเทพมหานคร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบอีกครั้งและทราบตัว จากนั้นก็ได้เรียกตัวมาเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ใช่คนร้ายเช่นเดิมเพราะผู้เสียหายบอกหมายเลขทะเบียนผิดอีก

หลังจากผู้เสียหายบอกหมายเลขทะเบียนรถมาทั้งสองครั้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็เช็คแล้ว และทราบตัวคนขับ จากนั้นก็เชิญมาสอบปากคำเรียบร้อยก็ปรากฏว่าไม่ใช่ เพราะผู้เสียหายจำหมายเลขทะเบียนผิด และล่าสุดมีหมายเลขที่สาม คือ ทน 1819 กรุงเทพมหานคร โดยผู้เสียหายยืนยันกับว่าหมายเลขนี้จำได้และถูกต้องแน่ๆ พ.ต.ท.สายชลกล่าว

พ.ต.ท.สายชลกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังรอผลตรวจร่างกาย เพื่อหาร่องรอยการถูกข่มขืน รวมถึงคราบอสุจิที่จะเป็นหลักฐานมัดตัวคนร้าย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลตามหมายเลขทะเบียนรถครั้งล่าสุดที่ผู้เสียหายให้มา และยืนยันว่าถูกต้อง ขณะเดียวกันก็จะมีการสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมโดยละเอียดอีกครั้งในวันนี้ เพื่อหาข้อมูลที่แน่ชัดในคดีนี้ต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก