รัดคอฆ่าโหด สาวนศ.รามฯ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 พ.ย.


ร.ต.ท.จารุวัตร วัฒนะพูนสิน พงส. (สบ. 1) สน.อุดมสุข รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเลขที่ 5/367 ซอยวัดทุ่งเศรษฐี 44 ถนนรามคำแหง 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.วิวัฒน์ ศิริสุนทร ผกก.สน.อุดมสุข พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก. สส.บก.น.4 เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์สถาบันนิติเวชฯ โรงพยาบาลตำรวจ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว เนื้อที่ประมาณ 50 ตร.วา


แบ่งเนื้อที่ด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายของชำ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ น.ส.วัชรี หรือหนู รอดสิงห์ อายุ 23 ปี นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ สาขาสื่อสารมวลชน ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง นอนหงายอยู่บนพื้น บริเวณด้านหลังของชั้นวางของที่วางกั้นแบ่งส่วนระหว่างร้านขายของกับที่พักอาศัย

บริเวณลำคอของผู้ตายถูกรัดด้วยเชือกไนลอนสีเขียว

พันรอบคอ 3 รอบ ผูกเป็นเงื่อนตาย ศีรษะด้านหลังแตกเป็นแผลฉกรรจ์

เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 ชม. ผู้ตายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลือง กางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาลตะขอถูกปลด ซิปกางเกงรูดลงมาจนสุด ในที่เกิดเหตุพบร่องรอยการต่อสู้เพียงเล็กน้อย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงเก็บหลักฐานประเภทเส้นผม เส้นขน และตัดเล็บของผู้ตายไปตรวจสอบหาเนื้อเยื่อที่อาจจะติดอยู่จากการต่อสู้

จากนั้นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จึงนำศพส่งสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ผ่าพิสูจน์ต่อไป

พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 เปิดเผยว่า


บ้านที่เกิดเหตุเป็นของนางศิราณี โรจน์นิรันดร์ อายุ 48 ปี น้าสาวของผู้ตาย เป็นพนักงานบริษัทอยู่แถวคลองตัน สามีชื่อนายเกียรติพันธ์ โรจน์นิรันดร์ อายุ 57 ปี เป็นผู้จัดการบริษัทห้องเย็นย่านบางปะกง ทั้งสองมีบุตรสาว 1 คน อายุประมาณ 8 ขวบ ผู้ตายพักอาศัยอยู่กับครอบครัวนี้ตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นเรียนมหาวิทยาลัย น้าเขยกับน้าสาวก็เปิดร้านขายของชำให้ดูแล ทุกวันหลังจากน้าทั้ง 2 คน ออกไปทำงานพร้อมกับพาลูกสาวไปโรงเรียน

ผู้ตายจะอยู่ดูแลขายของเพียงลำพัง

คาดว่าคนร้ายคงฉวยโอกาสเข้ามาพยายามปลุกปล้ำขืนใจ เห็นได้จากตะขอกางเกงถูกปลดซิปถูกรูดลงมาจนสุด แต่ผู้ตายต่อสู้ขัดขืนเลยถูกทำร้าย

จับหัวกระแทกพื้นก่อนใช้เชือกไนลอนที่วางขายภายในร้านรัดคอจนเสียชีวิต คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในละแวกที่เกิดเหตุ

ผบก.น.4 กล่าวต่อว่า ระหว่างนี้ผู้ตายมีผู้ชายอายุประมาณ 30 ปี


ชื่อนายหนุ่ย เข้ามาติดพัน สำหรับนายหนุ่ยเพิ่งสึกจากพระมาได้ไม่นาน ยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง นายหนุ่ยเคยมีเมียมาแล้ว 2-3 คน แต่อยู่ด้วยกันไม่ยืด เพราะชอบใช้กำลังทำร้ายทุบตบตี หลังเกิดเหตุตำรวจตามไปพบตัวนายหนุ่ยอยู่ในบ้าน ละแวกที่เกิดเหตุ จึงส่งตัวไปตรวจหาร่องรอยบาดแผล

ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการตรวจพิสูจน์ภายในวันที่ 7 พ.ย.นี้

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนยังได้นำตัวคนงานก่อสร้างในย่านที่เกิดเหตุไปตรวจร่างกายหาร่องรอยบาดแผลจากการต่อสู้ เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเข้ามาพยายามขืนใจ ไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์

เพราะสอบถามญาติผู้ตายแล้ว พบว่า

โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พร้อมกับกระเป๋าสตางค์ของผู้ตายหายไป ส่วนเงินในลิ้นชักขายของหมื่นกว่าบาท คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่วางไว้ในร้านคนร้ายไม่แตะต้อง เป็นไปได้ว่าหลังก่อเหตุคนร้ายเอาโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าสตางค์ของผู้ตายไปเพื่ออำพรางคดีว่าเป็นเหตุฆ่าชิงทรัพย์เท่านั้น


แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์