ดูแลเข้ม 5 นักโทษ พยานเอก-คดีอุ้ม

"ความคืบหน้า"


ความคืบหน้าการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาร่วมกันอุ้มฆ่านายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความและประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม หลังพยานหลักฐานส่อแววว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยลักพาตัวนายสมชายไปฆ่าและเผาทำลายศพน่าจะเป็นตำรวจ

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กระทรวงยุติธรรมกล่าวถึงกรณีที่นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย ยื่นหนังสือเปิดผนึกต่อดีเอสไอ ให้ชะลอการออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องสงสัย เนื่องจากเกรงว่าหลักฐานจะไม่แน่นหนาเพียงพอที่จะเอาผิดในชั้นศาลได้ ว่าได้อธิบายให้นางอังคณาเข้าใจแล้ว หากมีการออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องสงสัยในวันใด พยานหลักฐานในสำนวนคดีจะสมบูรณ์เพียงพอในการลงโทษผู้กระทำผิดได้ ไม่มีการจับผู้ต้องสงสัยแล้วมาเร่งหาพยานหลักฐานในภายหลังอย่างแน่นอน เพราะเมื่อจับกุมผู้ต้องหาแล้ว กฎหมายให้เวลา 84 วัน ในการส่งสำนวนฟ้องผู้ต้องหาต่ออัยการ

"เร่งค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม"


โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวต่ออีกว่าสำหรับแนวทางการคลี่คลายคดีในอาทิตย์นี้ จะรายงานผลการสอบสวนทั้งหมดให้นายไกรสร บารมีอวยชัย รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษทราบ พร้อมกับออกหมายเรียกพยานที่เหลือเข้าให้ปากคำ และออกหมายเรียกพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องในคดีมาตรวจสอบต่อไป ส่วนการค้นหาพยานหลักฐานในจุดกำจัดขยะในพื้นที่อำเภอเมืองราชบุรี ตามข้อมูลของชุดสืบสวนได้ยุติลงแล้วในวันเดียวกันนี้ แต่ผลการตรวจค้นต้องรอรายงานจาก พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ก่อน

ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า ได้ยุติการค้นหาพยานหลักฐานในพื้นที่จุดกำจัดขยะในอำเภอเมืองราชบุรีแล้ว เพราะพื้นที่ดังกล่าวกว้าง มีขยะเน่าเหม็นมาก และไม่ได้รับการประสานข้อมูลมากกว่านี้ ต้องถอนกำลังกลับ ส่วนผลการค้นหาที่ได้แบ่งโซนบ่อกำจัดขยะออกเป็น 19 หลุม แต่ละหลุมมีขนาด 4 คูณ 8 เมตร ผลปรากฏว่าใน 6 หลุม พบรอยเผา และเจอชิ้นส่วนกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อยประมาณ 500 ชั้น เบื้องต้นน่าเชื่อว่าเป็นกระดูกของมนุษย์ จึงส่งเข้าตรวจพิสูจน์ต่อไป ส่วนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่พบในรถของนายสมชายเมื่อครั้งเข้าร่วมตรวจสอบเมื่อตอนได้รับโอนคดีมาเมื่อปีก่อน ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานส่งข้อมูลดังกล่าวมา

"ต้องรอรับมอบงานก่อน"


นายไกรสร บารมีอวยชัย รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า หลังจากรับมอบตำแหน่งจาก พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ ในวันที่ 6 พ.ย.แล้ว จะเรียกประชุมผู้บริหารดีเอสไอ เพื่อรับทราบกรอบงาน รวมทั้งประชุมคณะพนักงานสอบสวนและติดตามความคืบหน้าของคดี ตามนโยบายที่นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม และนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งให้ตนดูแลคดีเร่งรัด

คดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในภาพรวมให้มีความเป็นธรรมและรวดเร็ว เกิดผลเป็นรูปธรรมชัดเจน สำหรับคดีนายสมชายยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้าใดๆ คงต้องรอรับมอบงานก่อน ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติม ต้องนำหลักสากลมาใช้ ต้องมีพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าผู้นั้นเกี่ยวข้องถึงจะออกหมายจับ ไม่ใช่ใช้วิธีการออกหมายจับก่อน แล้วหาพยานหลักฐานในภายหลัง มันเสียหายมาก หากหาหลักฐานมายืนยันไม่ได้

"เชื่อหนึ่งในชนวนเหตุ"


มีรายงานเพิ่มเติมว่า ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการพิเศษไปยัง ผบ.เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ให้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยกับนายมะกะตา ฮารง นายมามะเซ มามะ นายซูดีรือมัน มาเละ นายสุกรี มะมิง และนายอับดุลเลาะห์ อาบูดารี 5 ผู้ต้องหาในคดีปล้นปืนกองพันพัฒนาที่ 4 หลังจากแนวทางการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ เชื่อว่าหนึ่งในชนวนเหตุที่กลุ่มผู้ต้องสงสัย

อุ้มนายสมชาย นีละไพจิตร นั้น เนื่องจากไม่พอใจที่นายสมชายเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว หลังถูกตำรวจจับกุมตัวเมื่อเดือน ก.พ. 47 ในคดีปล้นปืน โดยกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวได้ขอความช่วยเหลือจากนายสมชายและชมรมนักกฎหมายมุสลิม ระบุว่าถูกชุดจับกุมซ้อมและทำร้ายร่างกายบังคับให้รับสารภาพ

"คัดค้านการฝากขัง"


ทั้งนี้ เมื่อผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ถูกควบคุมตัวไปคุมขังที่โรงเรียนพลตำรวจบางเขน และกองบังคับการกองปราบปราม เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 47 นายสมชายได้ เดินทางไปเยี่ยมพร้อมทั้งดูร่องรอยบาดแผลตามร่างกาย จากนั้นได้ทำหนังสือขอคัดค้านการฝากขัง ที่พนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวยื่นต่อศาล เพื่อขอนำกลุ่มผู้ต้องหาไปคุมขังที่เดิม และศาลได้ยกคำร้องของพนักงานสอบสวน ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาถูกนำตัวไปคุมขังในเรือนจำตามเดิม

ต่อมานายสมชายได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมต่อประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน วุฒิสภา และประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนของสภาผู้แทนราษฎร ก่อนจะถูกอุ้มหายเวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 12 มี.ค. 47 ที่หน้าร้านแม่ลาปลาเผา ย่านรามคำแหง ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดถือเป็น พยานปากสำคัญที่ต้องนำสืบในการพิจารณาคดีในศาล


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์