สถิติยืนยันลอยกระทงคืนเสียตัวเปิดซิงอื้อ

ปลัดพม.เปิดผลสำรวจพฤติกรรมทางเพศวันลอยกระทง พบวัยโจ๋ 16-18 ปี กว่า 560 ราย จาก 5,900 ราย มีเซ็กซ์ในคืนวันลอยกระทง ในจำนวนนี้ เปิดบริสุทธิ์ 75 ราย ตามสถานที่ยอดฮิตคือ หอพัก บ้านเช่า ม่านรูด และมุมมืดในที่สาธารณะ วอนพ่อแม่สอดส่องดูแล พร้อมส่งหนังสือถึงผู้ว่าฯทุกจังหวัดให้ออกตรวจตราอย่างเข้มงวด ด้านศดส.และบช.น.เตรียมกำลังตำรวจ-อส.กว่า 2 พันนายออกตรวจม่านรูด จุดล่อแหลมเพื่อป้องกันเหตุไม่เหมาะสมด้วย

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า จากการสำรวจ"พฤติกรรมทางเพศและกิจกรรมในคืนวันลอยกระทงของกลุ่มวัยรุ่น" ของศูนย์การเฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม เพื่อตรวจสอบสถานการณ์การมีเพศสัมพันธ์ของกลุ่มวัยรุ่นในช่วงเทศกาลสำคัญ เพื่อนำผลข้อมูลไปใช้ในการกำหนดมาตรการเชิงป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร โดยจัดเก็บข้อมูลจากประชากรกลุ่มตัวอย่าง ช่วงอายุ 16-18 ปี จำนวน 8,317 ราย เป็นชาย 4,075 ราย หญิง 4,242 ราย ระหว่างวันที่ 22-23 พ.ย.2548 ช่วงหลังเทศกาลลอยกระทงพบว่า กลุ่มตัวอย่าง 8,317 ราย มีกลุ่มตัวอย่างไปเที่ยวในคืนวันลอยกระทง ทั้งหมด 5,928 คน ส่วนใหญ่ไปกับเพื่อน แฟน บุคคลอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว 4,019 คน คิดเป็นร้อยละ 68 โดยกลุ่มที่ไปกับบุคคลอื่นไม่ใช่กับครอบครัวจะมีเพศสัมพันธ์ 563 ราย คิดเป็นร้อยละ 14 ในกลุ่มนี้มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก จำนวน 75 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.86

"สถานที่ที่ใช้ในการมีเพศสัมพันธ์มากที่สุดคือ หอพัก บ้านเช่า โรงแรมหรือโรงแรมม่านรูด และที่สาธารณะมุมมิดชิด นอกจากนี้ยังพบว่ามีพฤติกรรมการดื่มสุราในคืนวันลอยกระทง ถึงร้อยละ 19.63 โดยผลการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังส่งผลให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในคืนวันลอยกระทง ถึงร้อยละ 15.3"

ปลัดพม.กล่าวต่อไปว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทงปีนี้ กระทรวงขอความร่วมมือจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง สถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันสอดส่องติดตามพฤติกรรมของลูกหลานอย่างใกล้ชิด การตรวจตราหอพัก การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับวัยรุ่นอย่างเข้มงวด การเพิ่มแสงสว่าง และการตรวจสอบสถานที่สาธารณะที่มีมุมมิดชิด เพื่อป้องกันการมั่วสุมและการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร

รายงานข่าวจากศูนย์การเฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคมเปิดเผยว่า จากการสำรวจสถานที่ที่เด็กนิยมใช้ในการมีเพศสัมพันธ์พบว่า จะเป็นหอพักและที่สาธารณะมิดชิด ไม่ใช่โรงแรม ซึ่งนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ลงนามในหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศแล้ว เพื่อขอความร่วมมือในเชิงบวก เช่น การเข้าตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวเป็นพิเศษช่วงเทศกาลลอยกระทง และหามาตรการนำเด็กและเยาวชนไปร่วมทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ตามวัฒนธรรมไทย ส่วนกระทรวงได้สั่งการให้นักเฝ้าระวังฯ ที่ประจำทุกจังหวัดออกสอดส่องดูแลและเตือนภัยไปยังคนในชุมชน คาดว่าจะช่วยลดจำนวนเด็กที่มีพฤติกรรมทางเพศไม่เหมาะสมลงจากปีที่ผ่านมาได้

วันเดียวกัน พ.ต.อ.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ ผกก.ศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี บช.น. (ศดส.) กล่าวถึงการทำงานในเทศกาลวันลอยกระทงปีนี้ที่ตรงกับวันที่ 5 พ.ย.ว่า ทางศดส.ได้จัดกำลังตำรวจ 150 นาย แบ่งเป็น 10 ชุด ปฏิบัติการโดยแต่ละชุดจะมีนายตำรวจระดับรองสารวัตรเป็นผู้ควบคุม ออกกวดขันดูแลให้ความช่วยเหลือคำแนะนำแก่เด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง โดยกระจายไปทั่วทุกจุดล่อแหลมทั่วกทม. ที่ดูแล้วว่าจะล่อแหลมต่อการประพฤติตนไม่สมควร รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองตลอดจนผู้ประกอบการสถานบันเทิงและสถานบริการต่างๆ ที่อาจมีโอกาสชักจูงให้เด็กเยาวชนไปในทางไม่ถูกไม่สมควร

สำหรับโรงแรมม่านรูดต่างๆ นั้นก็เป็นเป้าหมายหนึ่งนอกเหนือจากสถานบันเทิงที่ศดส.ถือว่าเป็นจุดล่อแหลมต่อเด็กเยาวชนเสี่ยงต่อการเข้าไปประพฤติตนไม่สมควร เราจะเจาะเฝ้าระวังโรงแรมที่เป็นเป้าหมายในวันดังกล่าวด้วย นอกเหนือจากการประชาสัมพันธ์ด้วยการแจกจ่ายแผ่นปลิวคำแนะนำและขอความร่วมมือ 10 ไม่ คือ ไม่เที่ยวดึก ไม่คึกคะนอง ไม่ลองยาเสพติด ไม่บิดแข่งรถซิ่ง ไม่ยิงดอกไม้ไฟ ไม่เดินไปในทางเปลี่ยว ไม่ข้องเกี่ยวอบายมุข ไม่ชิงสุกก่อนห่าม ไม่วาบหวามแต่งตัว ไม่มั่วเรื่องเพศ และ 4 ควร คือ ควรดูแลรักษาทรัพย์ ควรกำชับบุตรลูกหลาน ควรระวังขับขี่ยวดยาน และ ควรสนุกสนานแต่พอควร

ด้านพ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ โฆษกบช.น. กล่าวว่า ทางบช.น.ได้สั่งการไปทุกสน.ท้องที่ประชาสัมพันธ์โรงแรมต่างๆ ตลอดจนสถานบันเทิงให้ระมัดระวังไม่ให้เด็กเยาวชนที่อายุยังไม่ถึงกำหนดกฎหมายอนุญาตเข้าไปใช้บริการ ส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อยในจุดต่างๆ ในกทม.ซึ่งมีสะพานต่างๆ จำนวน 169 แห่ง เราได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุด 2,004 นาย อาสาสมัครร่วมปฏิบัติงานอีก 900 คน นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรทั่ว กทม.อีก 2,000 นาย รวมกำลังทั้งหมดที่จะดูแลในวันลอยกระทงทั้งสิ้นประมาณ 5,000 คน

วันเดียวกัน เวลา 15.00 น. บริเวณท่าเรือสาทรใต้สะพานตากสิน นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังเดินทางไปตรวจสอบความปลอดภัยท่าเทียบเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อความปลอดภัยกับประชาชนสำหรับวันลอยกระทงว่า ได้ตรวจสอบท่าเทียบเรือในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีทั้งสิ้น 111 แห่ง เป็นท่าเทียบเรือสาธารณะ 61 ท่า ท่าเทียบเรือเอกชน 30 ท่า และท่าเทียบเรือข้ามฝาก 20 ท่า ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่ามีท่าเทียบเรือที่ไม่ปลอดภัยเพราะสะพานไม้ชำรุดทั้งสิ้น 4 ท่า ได้แก่ ท่าเรือพระราม 7 เขตบางซื่อ ซึ่งเป็นของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย (มท.) ส่วนอีก 3 แห่ง ท่าเรือวัดดาวดึงส์ เขตบางพลัด ท่าเรือสาธุประดิษฐ์ เขตยานนาวา และท่าเรือโรงแรมรัตนโกสินทร์ วิลล์ ซึ่งเป็นท่าเรือเอกชน อย่างไรก็ตาม กทม.ให้แจ้งให้ท่าเทียบเรือดังกล่าวปรับปรุงให้แล้วเสร็จให้ทันก่อนวันลอยกระทงในวันที่ 5 พ.ย.นี้ แต่หากปรับปรุงเสร็จไม่ทันก็จะสั่งห้ามไม่ให้เปิดให้ประชาชนมาลอยกระทงอย่างเด็ดขาด ส่วนท่าเรือที่ปลอดภัย กทม.จะปิดป้ายบอกให้ชัดเจนว่าท่าเทียบแต่ละแห่งสามารถจุคนได้กี่คน และจะมีเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือเทศกิจ มาคอยดูแลให้ความปลอดภัยที่ท่าเทียบเรือต่างๆ อย่างน้อย 2 คน แต่ถ้าเป็นจุดที่สำคัญก็จะเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่อีก

นายอภิรักษ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าท่าเรือบางแห่งมีปัญหาน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมขังสูงอยู่ โดยเฉพาะในเวลาน้ำทะเลหนุนสูง 2 ม. ประกอบกับมีคลื่นขนาดค่อนข้างใหญ่ซัดเข้าฝั่งอีก และในวันที่ 5 พ.ย.นี้ น้ำทะเลจะหนุนสูงสุดเวลา 18.19 น. หนุนสูงประมาณ 2 เมตรกว่า ซึ่งอาจไม่ปลอดภัยกับประชาชนที่มาลอยกระทงได้ ดังนั้น จึงอยากฝากถึงประชาชนให้มาลอยกระทงที่สวนสาธารณะของกทม. ทั้ง 18 แห่ง แต่หากไม่สะดวกหรือต้องการมาลอยกระทงที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ขอให้เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ซึ่งในวันที่ 5 พ.ย.นี้ เวลา 19.00 น. ตนจะไปร่วมงานลอยกระทงที่สวนลุมพินี และอุทยานเบญจสิริ

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด