สาวคลั่งฆ่าหลานทิ้งอ่างน้ำ

ป้าโหดฆ่าปาดคอหลานชายวัย3 ขวบดับสยอง ทิ้งอ่างน้ำบ้านเช่าการเคหะสมุทรปราการ อ้างป่วยเป็นโรคร้าย พอได้ยินเด็กร้องเสียงดังแล้วเครียด แถมเด็กยังซนจึงก่อเหตุสยอง หลังลงมือเตรียมจะฆ่าตัวตายหนีความผิด แต่บังเอิญได้ยินเสียงลูกสาวตัวเองร้อง เลยเปลี่ยนใจยืนถือมีดรอมอบตัวตำรวจ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 พ.ย. ร.ต.บรรจง ชาญศรี ร้อยเวร สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดฆ่าเด็กตายภายในบ้านพักการเคหะสมุทรปราการ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นพร้อมด้วยพล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ ผบก.ภ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ภวัตร พรมมะกฤต พ.ต.อ.อนุรักษ์ แตงเกษม รองผบก.สมุทรปราการ และหน่วยกู้ชีพบัวหลวงรีบรุดไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณบ้านเลขที่ 1614/309 ม.6 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบน.ส.น้ำเย็น แทวกระโทก อายุ 23 ปี ผู้ก่อเหตุ อยู่บ้านเลขที่ 569 ม.2 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บริเวณหน้าบ้าน รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้มีดปลายแหลมเชือดคอเด็ก จากนั้นนำเด็กไปจับแช่ในอ่างน้ำภายในห้องน้ำหลังบ้าน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนางน้ำเย็นไว้ และเข้าไปตรวจภายในบ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว ที่บริเวณหลังบ้านพบสิ่งของพวกเสื้อผ้าวางไว้เต็มห้อง มีมีดยาวประมาณ 5 นิ้ว เปื้อนเลือดตกอยู่ที่พื้น และมีรอยเลือด เมื่อเข้าไปในห้องน้ำหลังบ้านพบศพด.ช.ธนโชติ พลศรี หรือ ว่าน อายุ 3 ขวบ นอนคว่ำหน้าอยู่ในอ่างน้ำขนาดใหญ่ เมื่อนำศพขึ้นตรวจสอบพบว่าที่บริเวณลำคอมีบาดแผลถูกปาดด้วยของมีคม เป็นแผลกว้าง 2 เซ็น ยาวประมาณ 7 ซ.ม. หลอดลมขาดทำให้เสียชีวิตคาที่

จากการสอบสวนทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของนายประสาน กิจจานนท์ อายุ 75 ปี โดยมีนางอุมาพร มัทวาธิ อาจารย์โรงเรียนประภามนตรี 2 มาขอเช่าเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตามตัวนางอุมาพร มาสอบสวนให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวตนเช่าอยู่กับลูกชายและลูกสาว คือ นายเภรินทร์ ขันเสนาะ อายุ 29 ปี และลูกสาวคือ นางศมิชา ขันเสนาะ 26 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 199/5 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม. ปัจจุบันทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง

นางอุมาพร ให้การต่อไปวา นายเภรินทร์ ไปแต่งงานกับน.ส.น้ำเย็น แทวกระโทก มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ชื่อ "น้องวิว" ส่วนนางศมิชา ไปแต่งงานกับนายสมโชค พลศรี อายุ 31 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 139 ม.1 ต.เขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม ปัจจุบันทำงานอยู่ร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งย่านปากน้ำ จนมีลูกชายด้วยกัน 1 คน คือ "น้องว่าน" แต่นายสมโชคและนางศมิชาแยกทางกัน จึงนำลูกชายมาฝากน.ส.น้ำเย็นเลี้ยงไว้ แต่ก็มาก่อเหตุเชือดคอหลานดับสยองดังกล่าว

จากการสอบสวนน.ส.น้ำเย็น ผู้ก่อเหตุให้การว่า สาเหตุที่ฆ่าด.ช.ว่านนั้น เนื่องจากว่าเด็กซน ทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด ประกอบกับตนมีโรคร้าย ทำให้เกิดอาการเครียด ช่วงนั้น ด.ช.ว่านซนมากจึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบใช้มีดปลายแหลมเชือดคอเด็กจนตาย จากนั้นจึงนำเด็กจับใส่บ่อน้ำหลังบ้าน ตอนแรกคิดว่าจะฆ่าตัวตายตามเพื่อหนีความผิด แต่ด.ญ.วิว ลูกสาวของตนนั้นร้องเสียงดัง ตนจึงเปลี่ยนใจ ไปบอกคนข้างบ้านช่วยแจ้งตำรวจ และยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่หน้าบ้าน

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวน.ส.น้ำเย็น ผู้ก่อเหตุไปสอบสวนและตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนศพเด็กเจ้าหน้าที่มูลนิธิบัวหลวงนำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อชันสูตรศพต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด