แก๊สบึมอู่รถ ฉีกร่างช่าง ดับสุดสยอง

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 28 ต.ค.


ร.ต.ท.ศิริศักดิ์ สมบัติ พงส.(สบ.1) สน.บางกอกใหญ่ รับแจ้งเหตุแก๊สระเบิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ภายในอู่รถพรเพ็ญ เลขที่ 1421/2 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 แยกซอยพาณิชยการธนบุรี 21 แขวงและเขตท่าพระ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.ชิศณุพงษ์ ยุกตะทัต ผบก.น.7 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอู่ซ่อมตัวถังรถ


พื้นที่กว้างประมาณ 50 ตารางวา เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพนายกิตติ สุวรรณประภา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 ต.โชคชัย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร หัวหน้าช่างเคาะ เสียชีวิตอยู่ภายในอู่ สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีกรมท่า บริเวณลำคอถูกแรงอัดและสะเก็ดระเบิดเป็นแผลเหวอะหวะ

ใกล้ศพพบรถเก๋งโตโยต้า คัมรี สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน วบ 5445 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่


ในสภาพตัวถังด้านซ้ายถูกสะเก็ดระเบิดพรุนทั้งคัน นอกจากนั้น ยังพบไฟแช็ก หัวเชื่อมเหล็กพร้อมสายยางและถังแก๊สซึ่งระเบิดแตกออกเป็นเสี่ยง 2 ชิ้นใหญ่ ตกอยู่ใกล้ศพนายกิตติจึงนำไปตรวจพิสูจน์ ความแรงระเบิดที่เกิดขึ้นยังทำให้กระจกของสำนักงานของอู่ซ่อมรถซึ่งอยู่ห่างจากจุดถังแก๊สระเบิดประมาณ 10 เมตร แตกกระจาย กระเบื้องหลังคาหล่นลงมาแตกเกลื่อนพื้น

รถเก๋งและรถกระบะของลูกค้าที่จอดรอซ่อมอยู่ในอู่

ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายทุกคัน ขณะที่ผู้บาดเจ็บอีกคนคือ นายกิตติศักดิ์ โชคเจริญ อายุ 26 ปี ช่างโป๊สี ถูกแรงอัดและสะเก็ดระเบิด แขนขาเป็นแผลเหวอะหวะเกือบขาดอาการสาหัส ถูกนำตัวเข้าห้องไอซียู โรงพยาบาลศิริราช

นายพงษ์พันธ์ ชัยโชค อายุ 23 ปี ช่างโป๊สี ที่อยู่ ในเหตุการณ์ให้การว่า


อู่เริ่มเปิดทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า ตนมาถึงก็เห็นนายกิตติผู้ตาย กำลังใช้หัวเชื่อมซ่อมประตูหลังด้านซ้ายของรถเก๋งคัมรี โดยวางถังแก๊สไว้ใกล้ตัวห่างแค่ 2-3 เมตร ส่วนนายกิตติศักดิ์ยืนโป๊สีอยู่ห่างจากผู้ตายประมาณ 7-8 เมตร

สักพักราวครึ่งชั่วโมง ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว

พร้อมเสียงกระจกและกระเบื้องแตกร่วงลงมาเต็มพื้น หลังจากผงฝุ่นจางลงพวกตนเข้าไปในที่เกิดเหตุก็พบนายกิตติสิ้นใจนอนจมกองเลือด ส่วนนายกิตติศักดิ์เลือดท่วมตัวนอนร้องโอดโอยจึงรีบพาส่งโรงพยาบาล แล้วโทรศัพท์แจ้งตำรวจดังกล่าว สำหรับสาเหตุที่เกิดขึ้นอาจจะเกี่ยวกับระบบการไหลเวียนของแก๊ส เนื่องจากเคยได้ยินว่าบางครั้งเวลาอ๊อกเหล็กความร้อนวิ่งย้อนเข้าถังแก๊สทำให้ระเบิดขึ้นมาได้

ต่อมาในตอนสายวันเดียวกัน พ.ต.ท.เอนก เมืองสมบัติ พงส.(สบ.3) สน.บางกอกใหญ่ เปิดเผยว่า


จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมพบว่า ผู้ตายเป็นคนจุดไฟที่หัวเชื่อม เป็นต้นเหตุทำให้เกิดระเบิดขึ้นมา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ตามกฎหมาย ป.วิ อาญา จะต้องถูกดำเนินคดี แต่เนื่องจากผู้ก่อเหตุเสียชีวิตไปแล้วคดีก็สิ้นสุดลง อย่างไร ก็ตาม ในทางคดีแพ่ง

เนื่องจากเจ้าของอู่เป็นผู้จ้างให้ผู้ตายทำงาน จึงต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งทราบว่าเจ้าของรถหลายคันที่ได้รับความเสียหาย แจ้งให้บริษัทประกันภัยไปติดต่อเรื่องค่าเสียหายแล้ว




แหล่งที่มา:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์