เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 ม.ค. น.ส.กาญจนา อดุลยานุโกศล เจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จ.ภูเก็ต
ในฐานะนักวิชาการด้านพะยูนมือหนึ่งของประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางสถาบันได้รับซากพะยูน เพศเมีย อายุประมาณ 3-4 ปี หนักประมาณ 300 กิโลกรัม ยาว 2.60 เมตร โดยถูกมัดไว้กับก้อนหิน ในพื้นที่บริเวณอ่าวปอ หลังเขาเจ้าไหม หมู่ที่ 6 บ้านเจ้าไหม ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ซึ่งตายเมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา
จากการผ่าพิสูจน์เบื้องต้นพบว่า ตามร่างกายมีรอยขีดข่วนไปทั่วตัว และที่บริเวณใต้ท้องยังพบรอยแผลบาดลึกอีก 1 จุดด้วย
ที่น่าสลดคือพะยูนตัวดังกล่าวถูกตัดเขี้ยวทั้ง 2 ข้างออก ข้างละประมาณ 3 ซ.ม. เพื่อนำไปขาย แต่ไม่เชื่อว่าจะเป็นฝีมือของแก๊งล่าพะยูนโดยตรง เพราะจากบาดแผลที่พบคาดว่ามาจากเครื่องมือประมง
นายรุ่งโรจน์ เบ็ญหมูด หรือ บังหมาน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ที่ 6 ต.เกาะลิบง แกนนำชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า
เมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา พบพะยูนถูกล่าตายไปแล้วถึง 26 ตัว มาปี 2553 นี้ก็ตายลงไปอีก 2 ตัวต่อเนื่องกัน โดยเพิ่งพบซากเมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา เป็นเพศเมีย อายุ 4 ปี ในพื้นที่บ้านพระม่วง ต.นาเกลือ ที่ส่วนหางมีบาดแผลฉกรรจ์ คาดว่าน่าจะถูกเครื่องมือประมงบาดเจ็บจนไม่สามารถหาอาหารได้และสิ้นใจตายในที่สุด ตนเชื่อว่าน่าจะต้องถูกล่าตามใบสั่งอย่างแน่นอน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบจัดการกับผู้ที่ลอบล่าพะยูนอย่างจริงจัง