วันนี้(26ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีร้านอาหารกลุ่มรักร่วมเพศหรือที่รู้จักกันดีว่าเป็นกลุ่มชาวสีม่วง ต่างแห่แหนมาใช้บริการตามคำชักชวนทางอินเตอร์เน็ต ที่มีการโพสต์ข้อความ แนะนำให้มาเที่ยวและใช้บริการกันอย่างโจ๋งครึ่ม อาทิ “ เดี๊ยนไปมาค่ะ แต่ไม่ได้ซื้อนะค่ะ เริ่ดสุดแล้วคร้า มีแต่เด็กขาสั้น อายุตั้งแต่ 14 ค่ะ ” หรือ “ อิอิ จะบอกว่า 200 ก็สบายตัวคร๊ะ” เป็นต้น
จากนั้น ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อมูล พบว่าสถานที่ดังกล่าวอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 1 ชั่วโมง ผ่าน จ.นครปฐม วิ่งต่อมาจนถึงสี่แยกบางแพ เลี้ยวขวาเข้าตัว อ.โพธาราม ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 แห่ง โดยร้านอาหารร้านแรก อยู่บริเวณคลองชลประทาน เขตเทศบาลโพธาราม ส่วนร้านที่สองอยู่ติดริมแม่น้ำแม่กลอง โดยทำเป็นรีสอร์ท ทางเข้าด้านหน้ามีรั้วรอบ ปิดบังอย่างมิดชิด ไม่สามารถมองเห็นเข้าไปภายในได้ มีป้ายระบุไว้ว่าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามเข้า ซึ่งร้านอาหารเหล่านี้มีบริการที่พักเป็นแบบกางเต็นท์ ริมแม่น้ำแม่กลอง รวมถึงห้องพักส่วนตัว แล้วแต่รสนิยมของผู้มาเที่ยว
แฉแหล่งค้ากามชาวสีม่วง
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ทำทีเป็นลูกค้า เข้าไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งแรก ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพักไม่ไกลมากนัก มีลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว 2 หลังเชื่อมติดกัน เนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา
ส่วนหนึ่งทำเป็นที่พักให้บริการ อีกส่วนหนึ่งเป็นร้านอาหาร โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 17.00 - 24.00 น. จากการตรวจสอบทราบว่าเจ้าของร้านชื่อ เจ๊ ป. เป็นชาวกรุงเทพฯ มีนิสัยเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน ได้มาซื้อบ้านหลังดังกล่าว ประมาณ 4 ปีที่แล้ว และสร้างเป็นร้านอาหาร จากการเฝ้าสังเกตการณ์ พบว่าบรรดาชาวสีม่วงได้มาเที่ยวกันอย่างคึกคัก โดยแต่ละคนมีฐานะดีและมีหน้ามีตาในสังคม ซึ่งสังเกตได้จากยานพาหนะที่ใช้จะมีแต่ยี่ห้อดังๆราคาแพง เลขทะเบียนสวยๆ โดยเฉพาะในคืนวันที่ 25 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันคริสต์มาส พบว่ามีกลุ่มชาวสีม่วงมาเที่ยวกันประมาณ 30 คน ในระหว่าง 21.00-24.00 น. โดยเวลาประมาณ 20.00 น. ได้มีรถยนต์สายตรวจ สภ.โพธาราม เข้ามาจอดและพูดคุยกับคนในร้านก่อนจะขับออกไป แต่คล้อยหลังไม่นาน ได้มีกลุ่มเด็กวัยรุ่น อายุประมาณ 14 -18 ปี ขี่ จยย.ไม่ต่ำกว่า 20 คัน ทยอยมาจอดรถที่หลังร้าน เพื่อเข้าไปให้กลุ่มนักท่องเที่ยวเลือกดูตัวจับคู่ จากนั้นได้พากันหายเข้าไปในห้องหรือไม่ก็เข้าไปนอนในเต็นท์เพื่อปฏิบัติกามกิจตามรสนิยม
ต่อมา ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับเด็กชายที่ขายบริการทางเพศ ทราบว่า กลุ่มที่มาใช้บริการนั้นนิยมเด็กตั้งแต่เด็กม.ต้น จนถึงระดับอาชีวะศึกษา โดยจะได้ค่าบริการตั้งแต่ 200 -1,000 บาท ต่อครั้ง
ซึ่งการให้บริการมีตั้งแต่การให้ลูบคลำจนถึงขั้นร่วมเพศ ซึ่งพวกตนเห็นว่าเป็นวิธีการที่สามารถหาเงินได้ง่าย บางครั้งแค่มาให้ลูกค้าลูบๆ คลำๆ ก็สามารถได้เงินใช้เที่ยวเตร่ เสพยา จึงได้มีการชักชวนเพื่อนๆในกลุ่มให้มาทำ ซึ่งขณะนี้น่าจะมีเด็กวัยรุ่นในเขต อ.โพธาราม ไม่ต่ำกว่า 30 คน ที่หมุนเวียนเข้ามาขายบริการให้กับทางร้าน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์เด็กชายวัยรุ่นนิยมไปขายตัวให้กลุ่มชาวสีม่วงนั้น สร้างความวิตกกังวลให้กับชาวบ้าน ตลอดจนผู้ปกครองเป็นอย่างยิ่ง ที่ผ่านมามีการเขียนหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบหลายต่อหลายครั้ง สถานบริการต่างๆเหล่านี้ก็ยังมิได้หยุดการกระทำแต่อย่างใด กลับยิ่งเป็นการเพิ่มกระแสให้กับกลุ่มต่างๆที่มีรสนิยมไม้ป่าเดียวกัน หลั่งไหลกันมาใช้บริการกันอย่างมากมาย
ซึ่งเรื่องดังกล่าว อาจเป็นบ่อเกิดอาชญากรรมได้ เนื่องจากเด็กและเยาวชนเหล่านี้ยังมีวุฒิภาวะไม่เพียงพอ อย่างเช่นคดีเมื่อต้นปี 2551 ที่ผ่านมา
เกิดเหตุการณ์นักเรียนชั้นมัธยมต้นจากโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งใน อ.โพธาราม ก่อคดีฆ่าแล้วทิ้งศพไว้ที่คลองชลประทาน สาเหตุนั้นมาจากเรื่องที่ผู้ตายซึ่งพฤติกรรมเป็นกะเทย ได้ไปขี่รถเที่ยวกับคนร้าย จากนั้นคนร้ายซึ่งมีอายุเพียง 14 ปี เกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมา จึงพยายามจะร่วมเพศกับผู้ตายแต่ถูกผู้ตายรังเกียจและต่อว่า จนเป็นสาเหตุทำให้บันดาลโทสะใช้มีดที่พกมากระหน่ำแทงจนเสียชีวิต ซึ่งพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของเด็กวัยรุ่นใน อ.โพธาราม ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการปล่อยปละละเลยให้มีสถานบริการลักษณะนี้