เผยมุดเข้าไปเล่นในกระโจมฟาง ไร้เดียงสา เอาไม้ขีดจุดกองฟางสู้อากาศหนาว แต่เพลิงเกิดลุกไหม้
วันนี้( 25 ธ.ค.) ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย ทองม้วน ร้อยเวร สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุถูกไฟคลอกเด็กเสียชีวิต 2 ศพ ที่บ้านเลขที่ 82 หมู่ 4 ต.เมืองไผ่ อ.กระสัง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ถนอม พาจันทึก รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ชุนเทพ พันธ์ทอง สว.สส. และฝ่ายสืบสวน ที่เกิดเหตุพบนายสมาน จะรอนรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.เมืองไผ่ ซึ่งมีศักดิ์เป็นตาของหนูน้อยผู้เคราะห์ร้าย พร้อมญาติๆ ได้นำร่างไร้วิญญาณของ ด.ญ.กนกวไลย กองเลิศ วัย 3 ขวบ และ ด.ญ.สุลิสา ปาไพร วัย 3 ขวบเช่นกัน ซึ่งเป็นหลานสาว มานอนอยู่บนฟูกภายในบ้าน ชันสูตรเบื้องต้นพบร่างของเด็กทั้งสองถูกไฟคลอกสยดสยอง สอบสวน นายสมานให้การทั้งน้ำตาว่า หลานสาวทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน พ่อแม่ของเด็กไม่อยู่ไปทำงานที่อื่น นานๆ จะกลับมาเยี่ยมสักครั้ง โดยหลานทั้งคู่เรียนอยู่ที่โรงเรียนเด็กเล็กในหมู่บ้าน
ผู้เป็นตาให้การต่อว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้า ตนมัวแต่ไปทำธุระอยู่หลังบ้าน ปล่อยให้หลานๆ เล่นกันตามประสาเด็ก จู่ๆ เกิดได้กลิ่นควันไฟลอยฟุ้ง จึงรีบวิ่งมาดูที่กระโจมซึ่งคลุมด้วยกองฟางที่อยู่ข้างบ้าน เพราะปกติหลานชอบมามุดเล่นกัน และก็ต้องตกใจแทบช็อกเมื่อพบกระโจมฟางกำลังถูกไฟไหม้อย่างรวดเร็ว จึงตะโกนเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยกันใช้น้ำสาดดับจนเพลิงสงบ และพบหลานทั้งสองคนถูกไฟคลอก แต่ยังมีลมหายใจรวยระรินอยู่ จึงรีบพาส่งรพ.ศูนย์บุรีรัมย์ แต่มาสิ้นใจตายระหว่างทาง แพทย์ระบุว่าสาเหตุเกิดจากไฟคลอกและสำลักควัน ตนจึงนำศพกลับมาไว้ที่บ้าน และแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุเชื่อว่าหลานน่าจะมุดเข้าไปในเล่นในกระโจมไฟ และเอาไม้ขีดมาจุดฟางที่สุมเป็นกองไว้เพื่อคลายหนาว ตามประสาเด็กที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนเกิดเพลิงไหม้และเสียชีวิตดังกล่าว หลังจากนี้คงจะนำศพหลานๆ ไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป