ตร.ภาค 1 วางแผนลวงล่อจับคนร้ายในคดีค้างเก่าได้เพียบ ใช้อุบายส่งจดหมายไปตามที่อยู่
เขียนหลอกว่าเป็นผู้โชคดีจากการสุ่มเบอร์โทรศัพท์ และเลข 13 หลักของบัตรประชาชนทั่วประเทศ ให้มารับรางวัล แต่ต้องนำหลักฐานเดินทางมารับของด้วยตนเอง โจรโลภหลงเชื่อสนิทใจ โผล่มารับรางวัล เลยโดนรวบได้โดยง่าย ขณะที่ผบช.ภาค 1 สั่งระดมกวาดล้างรับมือปีใหม่ พร้อมทั้งตรวจเข้มความปลอดภัยของสถานบริการบันเทิง
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภาค 1
พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รอง ผบช.ภาค 1 และพล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.สส.ภาค 1 ร่วมกันแถลงผล กวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาคดีค้างเก่าในพื้นที่รับผิดชอบ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 14 ราย แยกเป็นผู้ชาย 12 คน และผู้หญิง 2 คน เป็นคดีความผิดทางเพศ ข่มขืน และกระทำอนาจาร 10 ราย คดีลักทรัพย์ 2 ราย และความผิดตามพ.ร.บ.แรงงาน อีก 2 ราย โดย พ.ต.ท. อุเทน นุ้ยพิน สว.กก.สส.3 บก.สส.ภาค 1 นำกำลังจับกุมตัวได้ที่บริเวณลานจอดรถหน้าห้างเจเจ มอลล์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเบื้องหลังการจับกุมคดีค้างเก่าในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่วางแผนการด้วยการใช้วิธีส่งจดหมายไปยังที่อยู่ของผู้ต้องหาต่างๆ ตามที่มีหมายจับในคดีของ บช.ภ.1 เป็นจำนวนกว่า 100 ฉบับ
ในจดหมายแจ้งว่าให้ผู้ที่มีชื่อตามที่ได้จ่าหน้าซองถึง ว่าเป็นผู้โชคดีจากการสุ่มจากหมายเลขโทรศัพท์ และเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก จากประชาชนทั่วประเทศ ขอให้มารับรางวัล เช่น เงินสด 8,000 บาท, โทรทัศน์สี, ตู้เย็น และชุดโฮมเธียเตอร์ เป็นต้น โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด แต่จะต้องเดินทางมารับของด้วย ตนเองภายในวันที่ 24 ธ.ค.2552 ที่ห้างเจเจ มอลล์ สวนจตุจักร และจะต้องรีบจดหมายตอบยืนยัน พร้อมทั้งแจ้งที่อยู่ปัจจุบันและหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้กลับมาก่อน มิเช่นนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์ เมื่อทางผู้ต้องหาหลงเชื่อ และส่งจดหมายตอบกลับมา เจ้าหน้าที่จึงติดต่อประสานกลับไป จนในที่สุดผู้ต้องหาหลงเชื่อสนิทว่าเป็นผู้โชคดีจริงๆ กระทั่งเดินทางมารับรางวัล และถูกจับกุมตัวได้อย่างง่ายดาย
นายธีรยุทธ เจริญสูงเนิน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 10 ต.บุแกรง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์
ผู้ต้องหาในคดีกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ในท้องที่ของ จ.นนทบุรี กล่าวขณะถูกนำตัวมาแถลงว่า ช่วงต้นปีที่ผ่านมาเดินทางมาทำงานรับจ้างทั่วไปใน จ.นนทบุรี หลังจากกระทำความผิดแล้วก็หนีคดีกลับไปที่ จ.สุรินทร์ เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับจดหมายว่าเป็นผู้โชคดีได้รับโทรทัศน์สี ขนาด 32 นิ้ว จากการสุ่มหมายเลขโทรศัพท์ จึงนำบัตรประจำตัวประชาชนเดินทางมารับรางวัลที่กรุงเทพฯ ขณะนั้นดีใจมาก ไม่คิดว่าจะโชคดีขนาดนี้ พอเข้ามาติดต่อก็ถูกเจ้าหน้าที่แสดงตัวจับกุม พร้อมทั้งแจ้งข้อหา คิดไม่ถึงว่าเจ้าหน้าที่จะมีอุบายหลอกได้ถึงขนาดนี้ ต้องยอมจริงๆ
ด้าน พล.ต.ท.กฤษฎากล่าวว่า การระดมจับกุมคดีค้างเก่าในช่วงก่อนปีใหม่จะทำให้เกิดผลดีมากขึ้น เนื่องจากผู้ที่กระทำผิดจะน้อยลง
อีกทั้งยังจะทำให้ผู้ที่คิดจะก่อเหตุรู้สึกว่าสามารถโดนจับกุมได้มากขึ้น เพราะตำรวจมีกลยุทธ์ในการติดตามจับกุมอยู่หลายวิธี โดยในพื้นที่ของบช.ภาค 1 มีคดีค้างเก่าอยู่มาก จึงให้นโยบายติดตามจับกุมให้ได้มากขึ้น เพื่อประชาชนจะได้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น และขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ อีกทั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจตามสถานบริการต่างๆ เข้มงวดเรื่องความปลอดภัย ว่ามีถังดับเพลิง ทางออกหนีไฟฉุกเฉินหรือไม่