พ.ต.ต.กระทืบโหดอาม่า-เขยสาหัส

อุกอาจคาโรงพัก ตร.ล็อกทันควัน

       พ.ต.ต. ยันไม่ได้ทำร้ายคู่กรณีบนโรงพัก หลังถูกแจ้งจับคดียำคู่กรณีของลูกน้อง เป็นอาม่ากับลูกเขยอ่วมคาห้องสอบสวน สน.เพชรเกษม อาม่าคู่กรณีถึงหยอดน้ำข้าวต้ม ขณะที่ ตร. เลือดร้อนถูกจับทำควันแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่น เจ้าตัวปฏิเสธ ประกันตัวออกไป “ผบก.น.9” ยันให้ความเป็นธรรม 2 ฝ่าย

แจ้งจับสารวัตรทำร้ายร่างกายในโรงพักครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. พล.ต.ต.กรี รินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.น.9 กล่าวถึงคดี พ.ต.ต.อรรถวุฒิ กิจคาม สวป.สภ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร ช่วยราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกแจ้งความจับในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ภายในห้องสอบสวน สน.เพชรเกษม เมื่อกลางดึกวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ตนได้กำชับไปยัง พ.ต.อ.อนุชา อ่วมเจริญ ผกก. ให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเต็มที่ คดีนี้มีพยานหลักฐานชัดเจน ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย อย่างไรก็ตาม ได้พิจารณามอบเงินรางวัลให้ตำรวจชั้นประทวนที่ระงับเหตุ 2 นาย ตามโครงการจับทันควันจ่ายทันที 24 ชม.
   
สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 29 พ.ย. ในขณะที่ ร.ต.ท.   ภานุทัศน์ คิดนอก พงส.(สบ 1) สน.เพชรเกษม ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ได้มีเจ้าหน้าที่สายตรวจนำคู่กรณีเหตุบุกรุกขึ้นมาส่งตัวให้ร้อย    เวร ประกอบด้วยนางธนิดา ศรีสุวรรณ       อายุ 60 ปี และส.ต.ท.ภาณุพันธ์ กิตติชัยเดช เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 11/69 หมู่บ้านนาราศิริ ถนนกาญจนาภิเษก แขวง-เขตบางแค      ซึ่งเป็นบ้านให้เช่าของลูกสะใภ้นางธนิดา ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ในขณะนั้นพนักงานสอบสวนที่อยู่ในห้อง 3 คน กำลังสอบ    ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ร้านทองอยู่บนชั้น 2 ของโรงพัก จึงปล่อยให้คู่กรณีนั่งเจรจาโดยพยายามไกล่เกลี่ยให้ยอมความกัน เพราะ เรื่องที่เกิดเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันเรื่องเช่าบ้าน โดยนางธนิดา ผู้แจ้งความเข้าใจว่าฝ่ายตำรวจบุกรุกเข้าไปในบ้าน แต่ข้อเท็จจริงคือฝ่ายตำรวจได้เช่าบ้านต่อจากลูกสะใภ้นางธนิดาแล้ว มีสัญญาเช่าถูกต้องในราคาเดือนละ 20,000 บาท 
   
ต่อมา ส.ต.ท.ภาณุพันธ์ ได้โทรศัพท์ตามลูกพี่และลูกน้องมาประมาณ 10 คน เมื่อมาถึง 1 ในจำนวนทั้งหมดได้เรียกตัวนายยุทธนา กลิ่นขจร อายุ 33 ปี ลูกเขยนาง  ธนิดาที่ตามมาเพื่อตกลงกันข้างนอก แต่นายยุทธนาไม่ยอมออกไป ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจกรูเข้ามาในห้องประมาณ 5 คน จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้โต้เถียงกัน กระทั่งมีเหตุวิวาทเกิดขึ้นภายในห้องพนักงานสอบสวน ต่อมาด.ต. วีระ ภู่ฤทธิ์ และด.ต.สายัณห์ ศรีสุวรรณ ผบ.หมู่ ป. เห็นเหตุการณ์จึงเข้ามาระงับเหตุ และจับกุม พ.ต.ต.อรรถวุฒิไว้ได้ จึงคุมตัวดำเนินคดีข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธ พร้อมยื่นประกันตัวไปในราคา 30,000 บาท ส่วนผู้ก่อเหตุที่เหลือหลบหนีไปได้ ขณะที่นายยุทธนาและนางธนิดาถูกทำร้ายบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.เกษมราษฎร์บางแค  
   
พ.ต.ต.อรรถวุฒิ ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายคู่กรณี ช่วงเกิดเหตุ ตนเห็นว่าภายในห้องสอบสวน กำลังเกิดเรื่องทะเลาะวิวาท ซึ่งตนเองรู้จักกับคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย พอเกิดเรื่อง ตนได้เข้าไปช่วยระงับเหตุ แต่กลายเป็นว่าต้องมาถูกแจ้งความจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย คิดว่าสาเหตุคงเป็นเพราะตนเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้กับฝ่ายผู้ให้เช่าบ้านทำให้ถูกกลั่นแกล้ง จึงอยากขอความเป็นธรรมในจุดนี้ด้วย
   
      ส่วนนายยุทธนา กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในห้องสอบสวน และคนที่กระทำผิดก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บังคับใช้กฎหมาย ลำพังตนคนเดียวก็ไม่มีทางสู้อยู่แล้ว แต่นี่ยังทำกับแม่ยายตนที่อายุมากและเป็นผู้หญิง ถือว่าไม่มีจริยธรรมอย่างยิ่ง ตนกับแม่ยายจะดำเนินคดีกับตำรวจกลุ่มนี้ให้ถึงที่สุด.