รถร่วมขสมก.สาย 187 ซิ่งนรกคว่ำกลางถนนวิภาวดีฯ ไถลชนเสาไฟฟ้าหักเสียบเข้าไปในรถปิกอัพโชคร้ายที่ขับอยู่ใกล้ๆ
ก่อนสิ้นฤทธิ์ขวางเต็มถนน ใช้เวลากว่า 2 ช.ม.กว่าจะเคลียร์ได้ทำรถติดวินาศ ผู้โดยสารบาดเจ็บระนาวกว่า 10 คน แฉโชเฟอร์ขับซิ่งมาแถมด่ากับกระเป๋าตลอดทาง แถมวิ่งเลนขวาจนใกล้ทางขึ้นด่านเก็บเงินโทลล์เวย์ก็กระชากหักออกซ้าย แต่หลบไม่พ้นล้อปีนขอบปูนจนพลิกคว่ำ ผู้โดยสารโวยรถร่วมสายนี้ชอบขับเร็วเพื่อแย่งผู้โดยสารกัน
เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 27 พ.ย. พ.ต.ท. วิจิตร ด่านธำรงกูล สารวัตรเวรสน.วิภาวดี รับแจ้งอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางชนเสาไฟฟ้า
มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากบริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. จึงนำกำลังพร้อมหน่วยกู้ภัยทางด่วนและแพทย์กู้ชีพร.พ. วิภาวดี รุดไปที่เกิดเหตุอยู่ใกล้ทางขึ้นด่านเก็บเงินโทลล์เวย์หน้าวัดหลักสี่ พบรถโดยสารร่วมบริการ สาย 187 ยี่ห้อเบนซ์ น้ำเงิน-ขาว ทะ เบียน 13-7113 กทม. เลขข้างรถ 187-23 วิ่งระหว่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-รังสิต คลอง 3 ปทุมธานี อยู่ในสภาพพลิกคว่ำตะแคงขวาชนติดกับเสาไฟฟ้าในลักษณะตัวรถขวางถนนทั้ง 4 ช่องจราจร
นอกจากนี้ ยังมีรถกระบะนิสสัน รุ่นบิ๊กเอ็ม สีบรอนซ์เทา ทะเบียน รล 2678 กทม. จอดอยู่ด้านหน้ารถเมล์ในสภาพถูกเสาไฟฟ้าหักทิ่มเข้าไปในประตูฝั่งคนขับ
มีน้ำมันเครื่องสาดกระจายทั่วถนน เจ้าหน้าที่ใช้รถเครนมายกรถที่จอดขวางการจราจรอยู่ ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงเปิดเดินรถได้ตามปกติ ทำให้รถติดขัดยาวเหยียด เบื้องต้นทราบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 12 ราย หน่วยกู้ภัยช่วยนำส่งร.พ.วิภาวดี ประกอบด้วย นายทรงสิทธิ์ ขันธกรรม อายุ 36 ปี คนขับรถกระบะ, นางปราณี พุกกุลนา อายุ 45 ปี กระเป๋ารถเมล์ ฟันหน้าหักทั้งหมด, นายพิษณุ ภิระบรรณ์ อายุ 26 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย, นายเสริมศักดิ์ ศรีหาคุณ อายุ 38 ปี มีบาดแผลถลอกตามตัวบาดเจ็บเล็กน้อย, นางประมวล บัวเก่า อายุ 47 ปี มีบาดแผลบริเวณแขนเล็กน้อย, นางณิชากร พวงทอง อายุ 40 ปี, น.ส.สุภาณี พาจันทร์ อายุ 17 ปี, นางสุขทนุ คุณเรศ อายุ 63 ปี, นางพิมพ์โสภา พรชนะรุ่งเรือง อายุ 60 ปี และนางสมศรี ผูกทอง อายุ 61 ปี มีบาดแผลตามตัวและแขน นางอรัญญา พโลศรี อายุ 78 ปี มีอาการช็อกต้องนำตัวเข้าห้องไอซียู และนายธนโชติ พงษ์ธนวัฒน์ อายุ 46 ปี มีบาดแผลฉกรรจ์บนใบหน้าต้องผ่าตัด โดย 2 รายหลังต้องนอนในร.พ. ส่วนที่เหลือแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
รถร่วมซิ่งนรก ชนป่วนวิภาวดี
ในที่เกิดเหตุตำรวจควบคุมตัวนายนฤชา สิทธิเอี่ยมศักดิ์ อายุ 49 ปี โชเฟอร์รถเมล์ ให้การว่า ขับรถออกจากอู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิรับผู้โดยสารประมาณ 40 คน
มุ่งหน้าไปทางรังสิตเป็นเที่ยวแรก จนกระทั่งถึงจุดเกิดเหตุตนชิดขวาทางคู่ขนานมาตลอด และกำลังจะถึงหน้าด่านเก็บเงินค่าทางด่วนอยู่แล้ว จึงตัดสินใจหักพวงมาลัยกลับเข้าเลนซ้ายและเหยียบเบรกกะทันหันส่งผลให้ล้อหน้ารถเกยขึ้นไปบนขอบปูนกั้นเลน ระหว่างช่องขึ้นทางด่วนกับช่องทางเดินรถปกติ จนรถพลิกคว่ำขวางถนนก่อนไถลไปชนกับเสาไฟฟ้าจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว
นางณิชากร พวงทอง อายุ 40 ปี หนึ่งในผู้โดยสารให้การว่า ระหว่างที่อยู่บนรถนั้นได้ยินเสียงโชเฟอร์และกระเป๋ารถ ถกเถียงทะเลาะกันอยู่ตลอดเวลา
เหมือนกับว่าทั้งคู่ไม่ได้ตั้งใจมาทำงาน จนกระทั่งถึงจุดเกิดเหตุรถเมล์ก็ยังวิ่งอยู่เลนด้านขวาจนจะถึงทางขึ้นด่วนโทลล์เวย์ ถึงหักรถเข้าช่องซ้ายอย่างแรง และมองเห็นแล้วว่ารถต้องเสยขอบปูนแน่ๆ จึงรีบหาราวยึดเกาะให้แน่นที่สุด แล้วรถก็พลิกคว่ำจริงๆ ที่ผ่านมาใช้บริการรถร่วมสายนี้อยู่เสมอ มักเห็นภาพโชเฟอร์ขับแข่งกันแย่งผู้โดยสารเป็นประจำ ไม่คิดว่าจะมาเกิดอุบัติเหตุกับตัวเองในวันนี้
นายทรงสิทธิ์ คนขับรถกระบะคู่กรณี ซึ่งได้รับบาดเจ็บริมฝีปากแตก กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังขับรถมุ่งหน้าไปทำงาน
พอรถหลุดไฟแดงช่วงแยกหลักสี่ ขับเข้าทางคู่ขนานมองกระจกหลังเห็นรถเมล์คันดังกล่าววิ่งชิดขวาขับในลักษณะส่ายไปมาด้วยความเร็วสูง จนกระทั่งจะถึงด่านเก็บเงิน โชเฟอร์ก็หักหลบออกมาทางเลนซ้ายอย่างเร็วทำให้รถเกยขอบปูนพลิกคว่ำ โชคดีที่รถไม่ถูกรถเมล์ทับทั้งคัน เนื่องจากหักพวงมาลัยรถหลบได้ทัน แต่ก็ถูกเสาไฟฟ้าที่รถเมล์ชนหักทะลุใส่ประตูฝั่งคนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
ด้านพ.ต.ท.วิจิตร ด่านธำรงกูล พงส.(สบ 3) สน.วิภาวดี กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวพนักงานขับรถส่งตัวไปตรวจร่างกายหาสารเสพติด
จากนั้นสอบปากคำผู้เสียหายที่ ร.พ. ตลอดจนพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับโชเฟอร์ ในเบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย