คมชัดลึก :ไม่ฟันธงฝีมือสถาบันคู่อริ หน่วยอรินทราช 50 นาย ปิดล้อมค้นอาวุธช่างกลปทุมวัน เจอปืน-มีด-ระเบิดเพียบ ตั้งข้อหาหนัก 3 นศ. เพื่อนรุมด่าเจ้าหน้าที่ แห่ประกันตัวถึงโรงพัก อีกเหตุจับ 11 นร.เทคโนดังย่านฝั่งธน ขนอาวุธเพียบเตรียมถล่มอริ
หลังเหตุการณ์คนร้ายยิงนายรณฤทธิ์ วิเวโก อายุ 19 ปี และนายนภัค ลือชาติเมทีกุล อายุ 22 ปี
นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพเสียชีวิต และมีนักศึกษาบาดเจ็บอีก 2 คน เหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้าน "ไนน์สกรีน" ถนนบรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 26 พฤศจิกายน ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน นางจีระพันธ์ โพธิ์ภักดิ์ อายุ 49 ปี แม่ของนายนภัคเข้าให้ปากคำต่อ พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สน.ปทุมวัน และออกเอกสารเพื่อติดต่อรับศพลูกชายที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
นางจีระพันธ์กล่าวว่า มีลูกชาย 2 คน ผู้ตายเป็นคนโต เรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์ สาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ ปกติอาศัยอยู่หอพัก
กระทั่งเรียนถึงชั้นปีที่ 4 จึงกลับมาอยู่บ้าน แต่ถ้าไปไหนก็จะโทรศัพท์มาบอกเสมอ เมื่อวานนี้คุยกันครั้งสุดท้ายเวลาประมาณ 16.00 น. ลูกบอกว่าจะพารุ่นน้องไปเอาเสื้อ และถามว่าอยากกินอาหารญี่ปุ่นไหมขากลับจะซื้อไปฝาก กระทั่งเวลา 21.00 น. ลูกยังกลับไม่ถึงบ้าน จึงโทรไปหาแต่ไม่สามารถติดต่อได้
"ฉันเริ่มเป็นกังวล กระทั่งเวลา 22.00 น. ตำรวจโทรมาบอกว่าลูกถูกยิงตาย ฉันถึงกับช็อกกับข่าวร้ายนี้ ลูกชายเป็นเด็กดี ไม่เคยมีเรื่องหรือบาดหมางกับใคร ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ฉันรู้สึกเสียใจมาก เพราะลูกเพิ่งจะไปถ่ายรูปเตรียมรับปริญญา เขาตั้งความหวังว่าหลังเรียนจบจะไปทำงานต่างประเทศ ฉันอยากฝากถึงคนที่ยิงลูกว่า ทำอย่างไรไว้ก็จะได้อย่างนั้น" นางจีระพันธ์กล่าว
ด้าน นางพิชาภรณ์ วิเวโก อายุ 45 ปี ป้าของนายรณฤทธิ์ พร้อมญาติเดินทางไปรับศพนายรณฤทธิ์ ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
บรรยากาศเป็นไปด้วยโศกเศร้า นางพิชาภรณ์กล่าวว่า หลานตั้งใจจะบวชให้แม่ประมาณเดือนมีนาคมนี้ เขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือทะเลาะกับใคร เลยไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าถูกยิงเพราะอะไร นายอัคคณัฐ วิเวโก พี่ชายของนายรณฤทธิ์ กล่าวว่า เท่าที่ได้คุยกับเพื่อนน้องชาย พอทราบแล้วว่าคนร้ายเป็นใคร เนื่องจากมีพยานเล่าให้ฟังว่า หลังจากกลุ่มของน้องชายมาที่ร้านแล้วก็มีรถจักรยานยนต์ขี่มาวนดูหน้าร้านประมาณ 2-3 รอบ เมื่อกลุ่มน้องชายเห็นจึงเข้าไปหลบในร้าน หลังจากนั้นคนร้ายซึ่งสวมเสื้อวินสีส้ม หมายเลข 8 ไม่สวมหมวกกันน็อกมาจอดที่หน้าร้าน แล้วคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายซึ่งสวมหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบสีแดง เดินลงมาจากรถแล้วเปิดประตูกราดยิงใส่กลุ่มของน้องชาย ก่อนหลบหนีไป
สเก็ตช์ภาพ2มือฆ่า2นศ.เทคนิคกรุงเทพ
ต่อมา เมื่อเวลา 12.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.)
พล.ต.ต.ฉันทวิชย์ รามสูต ผู้บังคับการศูนย์สืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.ศสส.บช.น.) พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ไพศาล พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน และเจ้าหน้าที่หน่วยอรินทราช 5 นาย ร่วมประชุมสรุปความคืบหน้าคดีดังกล่าว ที่ห้องประชุมชั้น 2 สน.ปทุมวัน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.ภาณุพงศ์กล่าวว่า เบื้องต้นหลังรับรายงานเหตุ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.
ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ วันนี้ตนเข้าร่วมประชุมเพื่อคลี่คลายคดี หลังจากนี้จะต้องดูสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ส่วนคนร้ายจะเป็นนักศึกษาคู่อริต่างสถาบันหรือไม่ ต้องรอผลการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจึงจะสามารถสรุปได้ "เจ้าหน้าที่จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งอาจารย์ของแต่ละสถาบันที่นักศึกษามีปัญหากัน ส่วนเรื่องที่ว่าจะมีการสั่งปิดสถาบันหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งในเรื่องนี้ ต้องรอพิจารณาเหตุผลหลายๆ ด้าน เชื่อว่าจะคลี่คลายคดีและจับกุมตัวคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้" พล.ต.ท.ภาณุพงศ์กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ไพศาลกล่าวถึงอาการผู้บาดเจ็บของนักศึกษาอีก 2 คน ว่า กระสุนไม่ถูกที่สำคัญ นายอุกฤษ ชาและกุล ถูกยิงที่ด้านหลังสมอง รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตากสิน
ส่วนนายอรรถพล ชิณวงศ์ กระสุนเข้าที่ท้ายทอย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ขณะนี้สามารถพูดโต้ตอบได้บ้าง แต่ยังให้การอะไรไม่ได้ เนื่องจากยังอยู่ในอาการซึมเศร้าเสียใจกับการเสียชีวิตของเพื่อน "ผมคิดว่าไม่น่าใช่เรื่องระหว่างสถาบัน มันเป็นเรื่องไร้สาระ น่าจะเป็นเรื่องของวัยรุ่นคึกคะนองมากกว่า" พ.ต.อ.ไพศาลกล่าว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้ออกภาพสเก็ตช์มือปืนที่ยิงนักศึกษา 2 คนเสียแล้ว 2 คน
วันเดียวกัน พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) นำกำลังหน่วยอรินทราชจำนวน 50 นาย สนธิกำลังตำรวจ สน.ปทุมวัน และกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 (บก.น.6) เข้าปิดล้อมตรวจค้นสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เจออาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก ขนาด .38 จำนวน 3 กระบอก อาวุธมีด 30 เล่ม เหล็กแป๊บ เหล็กแหลม และท่อนไม้จำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบระเบิดปิงปองหลาย 10 ลูก
จากนั้นตำรวจควบคุมตัวนักศึกษาชาย 3 คน ไปถ่ายรูปทำประวัติที่ สน.ปทุมวัน จึงสร้างความไม่พอใจให้กลุ่มนักศึกษา
ซึ่งได้รวมตัวโห่ร้องด่าทอตำรวจว่าใส่ร้ายและรังแกสถาบัน แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จึงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ก่อนคุมตัวนักศึกษาทั้ง 3 คน ไป สน. โดยแจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนและมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พล.ต.ท.สัณฐานกล่าวว่า ที่ผ่านมามีกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ก่อเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย ถึงขั้นเสียชีวิตบาดเจ็บจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องออกป้องปรามตรวจค้นตามสถาบัน และจะเป็นนโยบายอย่างต่อเนื่องพร้อมขยายการตรวจค้นไปทุกสถาบันที่เป็นเป้าหมายที่มีเรื่องกันบ่อยครั้ง ซึ่งไม่ได้เจาะจงจะตรวจค้นสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันเท่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่มนักศึกษาพกพาอาวุธก่อเหตุทำร้ายกันอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตำรวจตรวจค้นเสร็จยังมีกลุ่มนักศึกษาชายนับสิบคน รวมตัวกันอยู่ในสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจ ก่อนรวมกลุ่มกันเดินทางไปประกันตัวเพื่อนที่ สน.ปทุมวัน
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 06.00 น. พ.ต.ท.ศุกพีระ สังข์ด้วงยา สารวัตรจราจร (สว.จร.) สน.ราษฎร์บูรณะ และ ร.ต.อ.คชา ศรชัย รอง สว.จร.พร้อมชุดปฏิบัติการจราจรปล่อยแถวออกตรวจตราการจราจรในพื้นที่รับผิดชอบ ผ่านบริเวณป้ายรถประจำทางปากซอยวัดสารอด ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ พบนักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีหมู่บ้านครู ชั้นปีที่ 1-2 จำนวน 11 คน มีท่าทางพิรุธจึงเข้าควบคุมตัวตรวจค้น พบอาวุธมีดหัวตัดขนาดต่างๆ จำนวน 4 เล่ม มีดสปาร์ต้า 2 เล่ม และอาวุธปืนปากกาไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 4 นัด และปลอกกระสุนขนาดเดียวกัน 1 นัด รวมทั้งระเบิดปิงปอง 1 ลูก และระเบิดขวดอีก 1 ลูก จึงควบคุมทั้งหมดไปสอบสวนที่ สน.ราษฎร์บูรณะ อ้างว่าเตรียมยกพวกจะไปตีกับโรงเรียนคู่อริ