2โจรทุบตู้เอทีเอ็มกรุงไทยสาขาน่านพัง2ตู้

(30ต.ค.) เวลา 06.30 น. พ.ต.ท.สมศักดิ์ ผิวสลิด สว.สส.สภ.เมืองน่าน รับแจ้งจากรปภ.ธนาคารกรุงไทย สาขาน่าน ถนนสุมนเทวราช ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน ว่าตู้เอทีเอ็มถูกคนร้ายทุบได้รับความเสียหาย 2 ตู้ ขอให้ไปทำการตรวจสอบหาคนร้าย หลังรับแจ้งจึงรีบรายงานให้ พ.ต.อ.วิโรจน์ วชิรัคกุล ผกก.สภ.เมืองน่าน และเดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมแจ้งหน่วยพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.น่าน นำโดย พ.ต.ต.หญิง กนกกร นนทะมาตย์ นวท.พฐ.ภ.จว.น่าน และเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจหาลายมือแฝงร่องรอยของคนร้าย

จากการตรวจสอบพบว่าตู้เอทีเอ็ม จำนวน 2 ตู้ ถูกมือมืดทุบจอแตกเสียหาย 2 ตู้ หมายเลข 564 และ 221 เศษกระจกตกเกลื่อนหน้าตู้ จากจำนวนทั้งหมด 4 ตู้ โดยเป็นตู้ที่กดถอน,ฝากเงิน 3 ตู้ และตู้ปรับสมุด 1 ตู้ จึงเหลือใช้งานได้เพียง 1 ตู้ สำหรับตู้บรรจุเงินอยู่ด้านหลังไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนสาเหตุที่ไม่มีสัญญาณดังเนื่องจากด้านหน้าตู้ไม่ได้ติดสัญญาณป้องกันเหตุร้าย จะติดไว้ด้านหลังที่บริเวณตู้บรรจุเงิน จึงมีแต่กล้องวงจรปิด เนื่องจากคนร้ายไม่มีความรู้นึกว่าเมื่อทุบจอตู้แล้วก็จะล้วงเอาเงินไปได้เหมือนตู้บริจาคเงิน

นางสุธีรา จิตมา รองผู้จัดการบริการลูกค้า กล่าวว่า สำหรับตู้เอทีเอ็มทั้ง 2 ตู้ที่เสียหายได้รายงานให้สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯทราบและนำมาเปลี่ยนให้ใหม่ เหลือใช้บริการได้เพียงตู้เดียว แต่ของเรามีตู้สาขาตามห้างสรรพสินค้าและสถานศึกษาในเขตอ.เมืองน่านอีกหลายแห่ง ประชาชนจะไม่กระทบต่อการใช้บริการ

ด.ต.สมเกียรติ อนุทะ ชุดสายตรวจ กล่าวว่า ตนได้มาตรวจและฝากเงินเมื่อเวลา 01.00 น.ตู้เอทีเอ็มทั้งหมดยังปกติดี เชื่อวาจะต้องเกิดเหตุภายหลัง

ต่อมาพ.ต.อ.วิโรจน์ วชิรัคกุล ผกก.สภ.เมืองน่าน พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมศักดิ์ ผิวสลิต สว.สส.สภ.เมืองน่าน และชุดสืบสวน ได้ขอดูกล้องวงจรปิดจากนางสุธีรา โดยภาพที่ปรากฏ เมื่อเวลา 01.45.28 น.มีคนร้าย 2 คน  คนแรกเป็นคนดูต้นทางสวมกางเกงขาสั้นลายพรางสามส่วน เสื้อยืดสีฟ้าเป็นคนดูต้นทาง อีกคนอยู่ในชุดดำสวมเสื้อยืดชั้นในขาวไม่สวมรองเท้า สวมหมวกกันน๊อคสีชมพูคาดขาว ถือขวดมาทุบตู้ด้านซ้ายช่องที่ฝากเงินด้านล่างก่อนแล้วทุบตู้ด้านขวาแล้วเดินออกไป

พอดีมีผู้หญิงมากดเงิน เมื่อผู้หญิงกดเงินไปเรียบร้อย คนร้ายก็กลับเข้ามา เวลา 01.53 น.ล้วงควานหาเงินภายในตู้แต่ไม่พบ เพราะเงินจะอยู่ภายในตู้ด้านหลังถ้าไม่กดรหัสเงินก็จะไม่ผ่านออกมาจากตู้บรรจุเงินมาทางช่องจ่ายเงิน จากนั้นก็เดินกลับออกไป

อย่างก็ตาม ในเวลาต่อมาได้กลับเข้ามาพร้อมกับถือขวดมาทุบที่ตู้ด้านขวาที่มีกระจกยังหลุดไม่หมดอีกครั้ง คราวนี้สวมเสื้อยืดสีแดงหน้าอกเป็นรูปหัวกะโหลก ก็พยายามล้วงมือที่สวมถุงมือสีเขียวแบบนิ้วโผล่ควานหาเงินในตู้แล้วก็เดินกลับออกไปเมื่อเวลา 02.02.39 น.และกลับมาอีกครั้งเมื่อเวลา 02.30.50 น.เปลี่ยนกางเกงเป็นสีกากี หรือสีเนื้อสวมเสื้อยืดข้างในขาว สวมทับด้วยแจ็คเก็ตดำ พร้อมถือลวดและไขควงมาด้วย โดยเอาไขควงแหย่เข้าไปในตู้ เอาลวดสอดเข้าไปทางช่องจ่ายเงิน แต่ก็ไม่มีอะไรออกมา ลักษณะท่าทางเหมือนคนเมา

พ.ต.ท.สมศักดิ์ กล่าวว่า คนร้ายใช้เวลานานมากกว่า 2 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 01.35- 03.37 น. คนร้ายมีลักษณะเหมือนคนเมารูปร่างผอมผิวดำสูงประมาณ 163 ซ.ม ใช้หมวกกันน๊อคปิดหน้าเปลี่ยนชุดเสื้อผ้า 3 ครั้ง ครั้งแรกชุดดำเสื้อชั้นในสีขาว ครั้งที่ 2 เสื้อยืดแดง ครั้งที่ 3 กางเกงสีกากีเสื้อยืดแขนกุดขาว ตอนหลังไปเรียกเพื่อนให้เข้ามาช่วยด้วยการถอดเสื้อแจ็คเก็ตดำให้เพื่อนคลุมหัวป้องกันกล้องวงจรปิด ทำให้เจ้าหน้าที่พบว่าคนร้ายคนหนึ่งที่ต้นแขนซ้ายมีรอยสัก

ทั้งนี้ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะพักอยู่ในบริเวณใกล้เคียง หลังจากทุบตู้แล้วก็หายไปหาอุปกรณ์จำพวกไขควงลวดมาช่วย แต่ก็ไม่ได้ผล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนและติดตามคนร้ายมาดำนินคดี โดยเฉพาะสุภาพสตรีในกล้องวงจรปิดที่ไปกดเงินในระหว่างคนร้ายดำเนินการ กำลังให้ทางธนาคารค้นหาข้อมูลว่าเป็นใครน่าจะได้เบาะแสเพราะเห็นว่าหันมองไปทางคนร้ายเหมือนกัน คงจะได้ตัวในเร็วๆ นี้