ฆ่าโหดทุบหัวสาวสวยดับคาชามข้าว

คนร้ายสังหารโหด ทุบหัวสาวสวยตายคาชามข้าว ตร.เร่งล่า แฟนใหม่ หลังมีปากเสียงกันประจำ พบมือถือใหม่ของผู้ตายหายไปพร้อมแฟนหนุ่ม ...

เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้ (28 ต.ค.) พ.ต.ท.สุทิน หวังกลับ สารวัตรเวร สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพผู้เสียชีวิตอยู่ในบ้านกลางสวนชมพู่ และ สวนฝรั่ง บริเวณใกล้คลองชลประทาน บ้านหัวถนน ต.หัวทะเล อ.เมืองฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชา พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองฯ และเจ้าหน้าหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตา และแพทย์จากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ จ.นครราชสีมาไปพิสูจน์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านร้างเป็นไม้ชั้นเดียว คล้ายกระท่อม ไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่กลางสวนชมพู่ และสวนฝรั่ง ประตูบ้านปิดเงียบสนิท ภายในบ้านมีแสงไฟเปิดสว่างไว้ตลอด เมื่อเปิดประตูบ้าน พบศพผู้เสียชีวิตนอนตะแคงคว่ำหน้าอยู่พื้นกลางห้องจมกองเลือดที่แห้งสนิท และขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นเน่าคาวคลุ้งไปทั่วบ้านและบริเวณใกล้เคียง ซึ่งคาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 - 3 วัน

จากการตรวจสอบทราบชื่อผู้ตาย คือ นางบุญสร้าง อำพน หรือ แอร์ อายุ 45 ปี ไม่ทราบที่อยู่ เป็นชาว จ.สมุทรปราการ สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงสีแดงเลือดหมู สภาพศพนอนตะแคงคว่ำหน้าจมกองเลือด บริเวณศีรษะของของแข็งทุบตี จนกะโหลกด้านขวายุบหายไปครึ่งหัว โดยเสียชีวิตคาจานข้าว มีอาหารจำพวกหอยขมลวกจิ้ม น้ำพริก แกงจืด และใกล้กันเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบม่อนไม้ยูคา ขนาดเท่าแขน ยาว 80 ซม. ปลายไม้มีคราบเลือด ซึ่งน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ตีจนตาย และตรวจสอบพบมีดอีโต้ซุกซ่อนอยู่ข้างประตูมีรอยคราบเลือด และเส้นผมติดอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และพบกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล ซึ่งเป็นของผู้ตาย ภายในไม่พบบัตรประชาชน หรือ เอกสารที่อยู่ที่ชัดเจน และกระเป๋าสตางค์มีเงินสดอยู่ 320 บาท และรูปถ่ายสมัยยังเป็นสาว ขณะยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งผู้ตายเคยทำงานเป็นนักร้องตามห้องอาหาร และคาเฟ่ และร้านเสริมสวย

ส่วนทรัพย์ที่หายไปเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ที่ผู้ตายเพิ่งซื้อมาได้เพียง 1 สัปดาห์ ราคาหลายพันบาทได้หายไป พร้อมกับแฟนใหม่ของผู้ตายคือ นายปานทอง ไม่ทราบนามสกุล และที่อยู่ อายุ 67 ปี มีอาชีพรับจ้างทำสวน และมีรถซาเล้งรับจ้างขนพืชผัก ผลไม้ส่งขายในตลาด ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้สอบสวนสืบสวน เพื่อติดตามตัวนายปานทอง ผู้ตายมาดำเนินการสอบสวน เนื่องจาก ตกเป็นผู้ต้องสงสัย และติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบตามร่างกายพบว่า ศีรษะถูกของแข็งกระหน่ำตีจนกะโหลกยุบเสียชีวิต และยังถูกคมมีดอีโต้ฟันที่หัว และ ตามแขนอีกหลายแห่ง

จากการสอบสวน นายศักดิ์ดา เตียนทอง อายุ 35 ปี ชาวบ้านที่ดูแลสวน ซึ่งเป็นผู้พบศพ เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 3 วันที่ผ่าน เจอผู้ตายปกติทุกวัน เพราะตอนเช้า จะต้องออกมานั่งหน้าบ้าน และเดินพูดคุยกับเพื่อนบ้านเป็นประจำ และไฟทุกดวงจะปิดในช่วงเช้าและกลางวัน ซึ่งหลังจากนั้น 1 วันตอนเย็นได้ยินเสียงผู้ตาย กำลังนั่งกินข้าว และดื่มเหล้ากับนายปานทอง ที่อยู่ด้วยกันมา 4 - 5 ปี และทุกครั้งที่นั่งดื่มเหล้า มักจะทะเลาะมีปากเสียงกันเป็นประจำ จนชาวบ้านแถวนี้ได้ยินชินชาแล้ว และไม่มีใครสนใจ

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ผิดสังเกต เนื่องจากไม่เห็นผู้ตายออกมานอกบ้าน และไม่เจอนายปานทอง มา 2 วันแล้ว จึงได้แอบไปดูทางรูช่องประตูมองอยู่นานเห็นผู้ตายนอนอยู่กลางห้องแต่ก็ต้องผงะ เพราะได้กลิ่นเหม็นเน่า จึงขยับประตูก็ไม่ได้ล็อกและได้เปิดดูก็พบว่านางบุญสร้าง เสียชีวิตอย่างอนาถจมกองเลือด จึงได้วิ่งออกไปโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว