เอพีรายงานว่า เมื่อ 19 ต.ค. เจ้าหน้าที่ศาลกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
เปิดเผยคดีสะเทือนใจชาวกัมพูชา กรณีสามีภรรยาคู่หนึ่งทำร้ายเด็กหญิงวัย 11 ขวบ ที่ซื้อมาราคาแค่หมื่นกว่าบาทเพื่อใช้งาน เด็กถูกเฆี่ยนตีนานเกิน 1 ปี จนมีบาดแผลฟกช้ำทั่วตัวกว่า 200 แผล เฮือง บุนเจีย อัยการ กล่าวว่า ผู้ต้องหาในคดีชื่อนางเมียส นารี เป็นครูชั้นมัธยมศึกษา และนายวา ซาเรือน สามี ข้าราชการเกษียณจากกระทรวงศึกษาธิการ ถูกสั่งฟ้องในข้อหาทารุณกรรมและค้ามนุษย์ หากศาลตัดสินว่ามีความผิด จะต้องโทษสูงสุดคือ จำคุก 25 ปี ส่วนนางเธือง เรธ ผู้ดูแลเด็ก อายุ 62 ปี ถูกฟ้องในข้อหาค้ามนุษย์ หลังจากขายเด็กให้สองสามีภรรยาคู่นี้ในราคา 400 ดอลลาร์ หรือราว 13,500 บาท
ด้านมัก ฮอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านของคนทั้งสอง จึงนำกำลังไปจับกุมสามีภรรยาคู่นี้ได้ทัน
ขณะกำลังจะหลบหนีขึ้นรถโดยพาเด็กหญิงโซม ซเร เนียง ไปด้วย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากการตรวจร่างกายเด็ก พบว่า มีรอยแผลกว่า 20 แผล นึกไม่ถึงว่าจะกล้าทำกับเด็กถึงขนาดนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่า เฆี่ยนตีเด็กด้วยไม้แขวนเสื้อ ไม้กวาด ลวดไฟฟ้า และบางครั้งใช้คีมดึงเนื้อเด็กให้เจ็บ เพียงเพราะทำผิดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเด็กหญิงที่พ้นเคราะห์แล้ว อยู่ในความดูแลขององค์กรฮาการ์ ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ให้ความช่วยเหลือเหยื่อจากขบวนการค้ามนุษย์และแสวงหาประโยชน์อื่นๆ
ก่อนหน้านี้ องค์กรเอกชน แพลน อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดผลสำรวจว่า เด็กผู้หญิงชาวกัมพูชาที่มีฐานะยากจนและขาดโอกาสเรียนหนังสือ มักตกเป็นเหยื่อของการใช้ประโยชน์และค้ามนุษย์
แม้จำนวนเด็กที่เรียนหนังสือชั้นประถมจะมีเยอะ ในปี 2550-2551 มีจำนวน 1.3 ล้านคน แต่เมื่อถึงระดับมัธยมกลับลดลงฮวบฮาบ ที่จบ ม.3 เหลือ 55,000 คน และจบมัธยมปลายเหลือ 22,000 คน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
