คมชัดลึก :เคนย่ายึดงาช้าง 500 กิโลกรัมจากคลังสินค้าของสายการบิน ขณะเตรียมส่งมากรุงเทพฯ
จากคลังเก็บสินค้าของสายการบินเคนย่า แอร์เวย์ เมื่อเย็นวันอังคาร ขณะอยู่ในระหว่างการขนส่งมายังกรุงเทพ ผ่านทางกรุงแอดดิส อาบาบ่าของเอธิโอเปีย และมีขึ้นเพียง 2 วัน หลังจากเจ้าหน้าที่เพิ่งสกัดจับงาช้างน้ำหนัก 637 กิโลกรัมจากไนโรบีได้ที่กรุงแอดดิส อาบาบ่า ซึ่งงาช้างส่วนใหญ่มาจากช้างเคนย่าและประเทศใกล้เคียง
รายงานข่าวระบุว่าได้มีการระบุให้การค้างาช้างเป็นสิ่งผิดกฏหมายมาตั้งแต่ปี 2532
แต่ยังมีการลักลอบค้ามาโดยตลอดเพราะยังมีความต้องการจากผู้ซื้อโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกไกล ช่วงปีที่ผ่านมาก็มีการยึดงาช้างน้ำหนักหลายร้อยกิโลที่มีจุดหมายปลายทางที่เอเชีย ขณะที่เคนย่าเสียช้างไป 125 ตัวแล้วในปีนี้เพราะถูกฆ่าเพื่อเอางา เพิ่มจาก 98 ตัวเมื่อปีที่แล้ว และ 47 ตัวของเมื่อปี 2550
เมื่อเดือนพฤศจิกายน ผู้ค้าจากญี่ปุ่นและจีนต่างเข้าร่วมในการขายงาช้างแบบถูกกฏหมายที่แอฟริกาใต้
ซึ่งทำเงิน 6.7 ล้านดอลลาร์ หรือ 234 ล้านบาท หลังจากอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์หรือ ไซเตส ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ อนุญาตให้รัฐบาลแอฟริกาใต้ นามิเบีย ซิมบับเว และบอตสวาน่า ขายงาช้างที่สะสมอยู่ตามอุทยานแห่งชาติต่างๆของตนได้ ในการประมูลขายที่จัดขึ้นเพียงวันเดียว
บรรดากลุ่มสิทธิสัตวคัดค้านการประมูลขายนี้ โดยระบุว่าการขายงาช้างไม่ว่าโดยถูกหรือผิดกฏหมายล้วนกระตุ้นการค้าในตลาดมืดของธุรกิจนี้ที่เรียกกันว่า"ทองคำสีขาว" (white gold)
และนำไปสู่การฆ่าช้าง ขณะที่ KWS แสดงความวิตกว่าไม่มีการกำกับดูแลการขายที่ดีพอ นับจากไซเตสห้ามการค้างาช้าง ช้างในเคนย่าเพิ่มปฏิมาณขึ้นเท่าตัวจนมีเกือบ 30,000 ตัวแล้ว แต่ยังไม่ฟื้นตัวดีจากการฆ่าช้างเอางาอย่างกว้างขวาง ที่เป็นภัยคุกคามช้างเคนย่าจนใกล้สูญพันธ์ เพราะเมื่อปี 2516 เคนย่าเคยมีช้างมากถึง 167,000 ตัว