พิษกิสนาทัวร์พุ่งชน18ล้อดับ1สาหัส1

คมชัดลึก :พิษพายุกิสนากระทบต่อทัศนวิสัยการจราจร รถทัวร์โดยสารกรุงเทพ-คลองลึก-อรัญประเทศ วิ่งผ่านสี่แยกไฟแดงเฉี่ยวชนรถบรรทุก 6 ล้อและรถพ่วง 18 ที่เลี้ยวขวาเข้าเมืองปราจีนบุรี แรงกระแทกส่งเด็กท้ายรถและผู้โดยสารกระเด็นตกพื้น เสียชีวิต 1 สาหัส 1

ฝนกำลังตกต่อเนื่องจากหัวค่ำสภาพถนนลื่นกลางสี่แยกไฟแดง ตรงข้ามตลาดผลไม้หนองชะอม

พบจราจรติดขัดเนื่องจากกลางถนนมีเด็กท้ายรถทัวร์ปรับอากาศตกลงเสียชีวิตคาที่ ชื่อนายปัญญา ทองชิง อายุ 33 ปี อยู่เลขที่ 113 หมู่ 4 ต.หนองแวง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว สภาพศพนอนคว่ำหน้าที่ศรีษะถูกล้อรถทับจนแบน มันสมองกระจายเต็มพื้นพร้อมเลือดสด ๆ ทะลักเกลื่อนนองพื้นพร้อมสายฝนที่ตกลงมา นอกจากนี้ มีคนได้รับบาดอีก 1 คนเจ็บทราบชื่อ น.ส.จารีรัตน์  จันทร์ดวง อายุ 18 ปี ผู้โดยสารรถทัวร์กระเด็นตกลงหน่วยกู้ภัยน้ำส่ง รพ.เจ้าพระยาอภัยภุเบศรก่อนหน้านี้แล้ว ห่างศพประมรณ 15 เมตร พบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุเลขทะเบียน 70 - 2736 ปทุมธานี บริษัทอิทธิพลทรานสปอร์ต มีนายนิธิศ  โต๊ะดี อายุ 32 ปี อยู่บ้าเลขที่ 72/99 ต.คลอง 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นคนขับจอดอยู่

ห่างไปอีกประมาณ 10 เมตร นอกไหล่ทางพบรถทัวร์ปรับอากาศสายกรุงเทพ-ตลาดโรงเกลือ สระแก้ว เลขข้างรถ 60-19 สีฟ้าคาดขาวยี่ห้อเบนซ์เลขทะเบียน10-0535 นครนายก

บริษัทชาญชัยแอร์อรัญ สภาพหน้ารถทั้งแถบพังยุบ กระจกพังหลุดอยู่กลางถนน ใกล้ ๆ รถพบแผงกั้นถนนกระเด็นหลุดตกอยู่มีคนขับชื่อนายทักษิณ พลแสน อายุ 36ปี   อยู่บ้านเลขที่ 214/323 ต.บ้านด่าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และเลยไปเกือบ 30 เมตร แยกด้านตรงข้ามพบรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกปูนผง เลขทะเบียน81-5474สมุทรสาครจอดอยู่สภาพท้ายรถด้านซ้ายถูกชนมีนายเรืองศิลป์  เนื่องรี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 หมู่8 ต.ท่าสะอาด อ.เซกา จ.หนองคายเป็นคนขับจอดอยู่

ร.ต.อ.ประสพชัยกล่าวว่า  สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถทัวร์โดยสารปรับอากาศออกจากกรุงเทพมหานครมุ่งหน้าไป จ.สระแก้ว 

ผู้โดยสารประมาณ 29 คน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นสี่แยกไปแดง    รถบรรทุก  6 ล้อของบริษัทอิทธิพลทรานสปอร์ต ได้ออกจากข้างทางจะเลี้ยวขวาจึงหักหลบ  ช่วงนั้นด้านหน้ามีรถปูนพ่วง 18 ล้อกำลังเลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองปราจีนบุรี หน้ารถทัวร์ได้ชนท้ายรถพ่วงอย่างแรงส่งผลให้เด็กท้ายรถและผู้โดยสารกระเด็นตกลงออกนอกตัวรถ เด็กท้ายรถนายปัญญา  ถูกล้อรถทัวร์เหยียบเสียชีวิตคาที่ ส่วนผู้โดยสารทราบชื่อคือน.ส.จารีรัตน์

ขณะที่นายทักษิณกล่าวว่า  นำผู้โดยสารเที่ยวสุดท้ายจากกรุงเทพฯจะไปอรัญประเทศ จ.สระแก้ว รวม 29 คน 

เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเป็นสี่แยกไฟแดงขณะไปเขียว ข้างทางมี 6 ล้อจอดอยู่  ระหว่างนั้น  6 ล้อออกตัวขวางออกมา จึงได้หักหลบพร้อมเบรกกลางถนน  เนื่องจากด้านหน้าทีรถพ่วง 18 กำลังเลี้ยวขวาจึงหักหลบไปชนท้ายรถปูนพ่วง 18 ล้อ ก่อนหักลงจอดไหล่ทาง สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นเด็กท้ายรถ ช่วงเกิดเหตุได้กระเด็นตกลงมาพร้อมผู้โดยสาร ล้อรถทัวร์ของตนได้เหยียบจนเสียชีวิตดังกล่าว

ด้านนายนิธิศ กล่าวว่า ขับรถบรรทุก 6 ล้อนำอะไหล่รถยนต์ออกจากนวนครจะไปส่งนิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี  ก่อนเกิดเหตุแวะพักกินอาหาร

เสร็จแล้วไฟเขียวได้ออกรถเพื่อเลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองปราจีนบุรีโดยไม่เห็นรถทัวร์โดยสารที่มาด้านหลังจนเกิดเหตุดังกล่าว ขณะที่นายเรืองศิลป์กล่าวว่า “ขับรถพ่วง 18 ล้อ เป็นรถบรรทุกปูนผงแต่วิ่งรถเปล่ามาจากธัญญบุรีจะไปที่นิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ จงปราจีนบุรีขณะเกิดเหตุไฟเขียวกำลังเลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองปราจีนบุรีระหว่างนั้นรถทัวร์โดยสารได้พุ่งชนด้านท้ายฝั่งซ้ายมือของตัวรถ”นายเรืองศิลป์กล่าวในที่สุด หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้หน่วยกู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรพลิกศพที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภุเบศรอีกครั้งหนึ่งก่อนสอบสวนดำเนินคดีผู้กระทำผิดต่อไป