พายุ"กิสนา"แผลงฤทธิ์พัดถล่มเวียดนามยอดตายเพิ่มอย่างน้อย 55 ศพ ขณะที่ฟิลิปปินส์ ยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 246 ศพ และสูญหายอีก 42 คน ไร้ที่อยู่อาศัยเกือบ 4 แสนราย
ส่งผลให้ภาคอีสานของไทยฝนตกไม่หยุด ชัยภูมิฝายกั้นน้ำแตกตัวเมืองจมบาดาล ปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลสูงเอ่อท่วมอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่เร่งอพยพประชาชนกว่า 400 คนหนีตาย พร้อมประกาศ 23 อำเภอเป็นเขตภัยพิบัติ เรือขนนักท่องเที่ยวจากพัทยาไปเกาะล้านอับปางกลางอ่าว 9 ลำแต่ไร้คนเจ็บ “กรมอุตุนิยมวิทยา” ออกประกาศเตือนชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัย “พายุ กิสนา” ฉบับที่ 11
โดยระบุพายุดีเปรสชัน “กิสนา” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้า ๆ และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงในระยะต่อไป พายุนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างกับมีลมแรง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก
ส่วนภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร จะได้รับผลกระทบ ในตั้งแต่ช่วงค่ำของวันนี้
แต่ปริมาณฝนที่ตกจะน้อยกว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ พิจิตร เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระมัดระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงทำให้คลื่นลมในทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะ 1-3 วันนี้
กิสนาท่วม23อำเภอพัดเรือพัทยาล่ม 9 ลำ
ที่ จ.อุบลราชธานี เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่กลางดึกวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลสูงขึ้นกว่า 10 ซม.
ทำให้น้ำเอ่อไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในเขตอำเภอต่าง ๆ เจ้าหน้าที่จึงรีบอพยพประชาชนออกจากพื้นที่อันตราย 135 ครัวเรือน 460 คน นอกจากนี้ทางจังหวัด ได้ประกาศให้ 23 อำเภอเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว ขณะเดียวกันที่ จ.ชัยภูมิ น้ำป่าจากเทือกเขาภูแลนคา ได้ไหลหลากพัดฝายกั้นน้ำแตก 3 แห่ง ในเขต ต.ห้วยต้อน และ ต.โคกสูง อ.เมือง ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิสูงกว่า 50 ซม. อย่างรวดเร็ว
ส่วนที่ จ.กระบี่ พายุฝนที่ตกอย่างหนักรวมทั้งเกิดลมกระโชกอย่างแรง
ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ริมถนนสายอ่าวนาง-อ่าวน้ำเมา หมู่ 5 ต.ไสไทย อ.เมืองหักโค่นล้มขวางถนน นอกจากนี้พบว่าป้ายร้านอาหาร ล้มพังเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายด้วย ด้าน จ.พัทลุง นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผวจ.ได้แจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวและประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยและที่ลาดเชิงเขา ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนเรือเล็กงดออกจากฝั่งเนื่องจาก คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง
นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมือง พัทยา จ.ชลบุรี นำทีมหน่วยกู้ภัยทางทะเล ออกตรวจสอบเรือนำเที่ยว 2 ชั้นที่รับส่งนักท่องเที่ยวจากพัทยา-เกาะล้าน
ที่ถูกคลื่นพัดจมอับปางจำนวน 9 ลำ แต่เบื้องต้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการกู้ซากเรือต่อไป พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพ ภาคที่ 2 กล่าวว่า เรื่องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยที่มีหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ เช่น จ.ศรีสะเกษ อุบลราชธานี เลย ซึ่งทางกองทัพได้มอบหมายให้จังหวัดทหารบก และมณฑลทหารบก ได้เข้าไปร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเข้าไปช่วยเหลือตลอดเวลา ซึ่งตอนนี้ได้มีการวางกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อเตรียมความพร้อมไว้แล้ว
ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองดานัง ประเทศเวียดนามว่า เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการควบคุมอุทกภัยและวาตภัยของเวียดนาม
เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “กิสนา” ถล่มเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 55 ศพแล้ว สูญหายอีก 11 คน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางของประเทศซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก เช่น มีผู้เสียชีวิต 13 ศพในจังหวัดคอนทุม และอีก 14 ศพในจังหวัดกวาง งาย เป็นต้น ส่วนที่ประเทศกัมพูชา นายลี ธึค รองหัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการบริหารจัดการวินาศภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 11 ศพ และบาดเจ็บ 29 คนจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “กิสนา” ซึ่งพัดเข้าสู่กัมพูชาเมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ผ่านมา
ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ คณะกรรมการประสานงานวินาศภัยแห่งชาติ ของฟิลิปปินส์ แถลงว่า ประชาชน 2.25 ล้านคน
ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น “กิสนา” ถล่มฟิลิปปินส์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 246 ศพ และสูญหายอีก 42 คน ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย 389,616 คน ซึ่งเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว 561 แห่งแล้ว นายกิลแบร์โต ทีโอโดโร รมว.กลาโหมฟิลิปปินส์ กล่าวว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังออกประกาศเตือนประชาชนว่า อย่าปล้นชิงสิ่งของบรรเทาทุกข์จากรถบรรทุก สิ่งของ หาไม่แล้วจะถูกจับกุมดำเนินคดี.