บุกร้อง "ปวีณา" รุ่นพี่ ม.6 โรงเรียนกีฬาดังเมืองกรุงสุดเถื่อน ยกพวกกว่า 30 คน รุมกระทืบ “รุ่นน้อง ม.2” เละคาหอพัก
พ่อเหยื่อสุดทนแจ้งผู้บริหารโรงเรียนจัดการเอาผิด แต่เรื่องเงียบฉี่ แฉลูกชายถูกประธานนักเรียนยัดข้อหาฉกมือถือรุ่นพี่ พอปฏิเสธไม่ยอมเชื่อ จับแยกห้องเอาผ้าห่มคลุมรุมยำจนอ่วม เพื่อนก็โดนเล่นงานด้วย “เจ๊ปิ๊ก” ประสานตำรวจจัดการ
โวยรุ่นพี่เถื่อน ยกพวก 30 คนสหบาทาลูกชายชั้นม.2 เละคาหอพักโรงเรียนครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น.
วันที่ 6 ก.ย. นายแสง (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ได้พา ด.ช.จั๋ง และด.ช.อัพ (ทั้งสองนามสมมุติ) อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายและเพื่อนของบุตรชาย เรียนอยู่ชั้นม.2 โรงเรียนกีฬาชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธาน “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” หลังจากบุตรชายพร้อมเพื่อน ถูกรุ่นพี่ชั้น ม.ปลาย กว่า 30 คน ทำร้ายร่างกายอย่างป่าเถื่อน โดยกล่าวหาว่าบุตรชายขโมยโทรศัพท์ของรุ่นพี่ไป
นายแสง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่บุตรชายเลิกเรียนและนำกระเป๋าสัมภาระเดินไปเก็บที่หอพักซึ่งเป็นห้องนอนรวม
จากนั้นเวลา 16.00 น. ได้ลงมาซ้อมกีฬาบาสฯ ตามปกติ ภายหลังซ้อมกีฬาเสร็จประมาณ 18.30 น. จึงได้เดินขึ้นห้องพักเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นประมาณ 20.30 น. รุ่นพี่ ม.6 ชื่อนายกอล์ฟซึ่งเป็นประธานนักเรียน, นายเต่า และนายเอ็ม ได้เดินขึ้นมาเรียกนักกีฬาบาสทุกคนมารวมเข้าแถวในห้องพัก โดยให้บุตรชายของตนและด.ช.อัพ มานั่งที่หน้าแถว จากนั้นนายกอล์ฟ ได้มาสอบถามบุตรชายว่า “รู้ไหมว่าเมื่อวันศุกร์โทรศัพท์ของไอ้แบงค์หาย” บุตรชายจึงตอบไปว่า “รู้ครับพี่แบงค์บอกผมแล้วเมื่อตอนเช้า” จากนั้นนายกอล์ฟได้ถามบุตรชายต่อว่าแล้วเมื่อวันศุกร์ไปไหนมาทำไมไม่มาเรียน บุตรชายจึงบอกไปว่าวันศุกร์ไม่สบาย จึงขอให้ด.ช.อัพซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันพากลับบ้าน
จากนั้นนายกอล์ฟ ได้โทรฯ ไปหาภรรยาตนที่บ้าน สอบถามว่าเมื่อวันศุกร์บุตรชายตนกลับบ้านไปทำอะไรบ้าง
ภรรยาจึงตอบว่าวันศุกร์บุตรชายไม่ค่อยสบายจึงให้ทานยาและพักผ่อน หลังจากวางสายนายกอล์ฟ ได้หันมาพูดกับบุตรชายตนว่า “มึงพูดไม่ตรงกับแม่มึง กูให้มึงพูดใหม่ว่าวันศุกร์มึงไปไหนมา” บุตรชายก็ยืนยันตามเดิมว่าไม่ได้ไปไหนจริง ๆ วันนั้นไม่สบายจะไปที่ไหนได้ ทำให้นายเต่า ซึ่งเป็นรุ่นพี่และเป็นเพื่อนของนายกอล์ฟ ไม่พอใจมาก เดินมาตบหัวของบุตรชาย 4-5 ครั้ง โดยไม่พูดอะไรทั้งสิ้น จากนั้นนายกอล์ฟ ได้ให้นายเต่าและนายเอ็มพาเพื่อนบุตรชาย คือ ด.ช.อัพ แยกไปอีกห้องหนึ่ง สักพักนายเอ็ม ก็เดินกลับมาพร้อมพูดกับบุตรชายตนว่า “เพื่อนมึงรับแล้วนะว่ามึงเป็นคนเอาโทรศัพท์ของไอ้แบงค์ไปขาย” บุตรชายจึงปฏิเสธไป
พอสิ้นเสียงลูกชายเท่านั้น นายเอ็มได้ปรี่เข้ามาตบศีรษะพร้อมกับใช้เท้าถีบที่หัวไหล่
จากนั้นเมื่อเห็นว่าบุตรชายตนไม่ยอมรับจึงได้นำผ้าห่มมาคลุมที่ศีรษะของบุตรชายตนและเรียกรุ่นพี่ประมาณ 30 คน เข้ามารุมทำร้ายเตะต่อย จนกระทั่งถึงเวลา 02.00 น. จึงได้ปล่อยให้บุตรชายไปนอนในสภาพเขียวช้ำไปทั้งตัว ภายหลังเกิดเรื่องบุตรชายได้แจ้งให้ตนเองทราบ ตนจึงเดิน ทางไปขอความเป็นธรรมกับผู้อำนวยการโรงเรียน แต่เรื่องกลับเงียบไม่มีการดำเนินการใด ๆ กับรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ อีกทั้งบุตรชายของตนยังถูกข่มขู่ตลอดเวลา กระทั่งเห็นว่าเวลาผ่านไปเป็นเดือน จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อนางปวีณา ดังกล่าว
ภายหลังรับแจ้ง นางปวีณา หงสกุล ประ ธาน “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” ได้ประสานไปยังตำรวจท้องที่ เพื่อขอให้เร่งดำเนิน คดีกับรุ่นพี่ที่ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว พร้อมกันนี้นางปวีณารับจะประสานไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อขอให้ส่งนักจิตวิทยา เข้ามาช่วยบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตเด็กต่อไป.