เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 6 ก.ย.52 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้มีนายแสง (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ได้พา ด.ช.จั๋ง(นามสมมติ) อายุ 13 ปี และด.ช.อัพ(นามสมมติ)อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายและเพื่อนของบุตรชาย เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนกีฬาชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธาน “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี”(องค์กรสาธารณประโยชน์) กรณี บุตรชายพร้อมเพื่อนอีก 1 คน ถูกรุ่นพี่ ม.ปลาย โรงเรียนกีฬาชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร กว่า 30 คน รุมทำร้าย
นายแสง กล่าวว่าบุตรชายของตนเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนกีฬาชื่อดังแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร (เป็นโรงเรียนประจำ)เหตุเกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา โดยในวันเกิดเหตุขณะที่บุตรชายเลิกเรียนในตอนเย็นเวลาประมาณ 15.00 น. จึงได้นำกระเป๋าสัมภาระเดินไปเก็บที่หอพัก(ห้องนอนรวม) จากนั้นเวลา 16.00 น.ได้ลงมาซ้อมกีฬาบาสฯตามปกติ ภายหลังซ้อมกีฬาเสร็จประมาณ 18.30 น.จึงได้เดินขึ้นห้องพักเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นประมาณ 20.30 น.รุ่นพี่ ม.6 ชื่อนายกอล์ฟ(ประธานนักเรียน),นายเต่า และนายเอ็ม ได้เดินขึ้นมาเรียกนักกีฬาบาสทุกคนมารวมเข้าแถวในห้องพัก โดยให้บุตรชายของตน(ด.ช.จั๋ง)และเพื่อนอีกหนึ่งคน(ด.ช.อัพ) มานั่งที่หน้าแถว จากนั้นนายกอล์ฟ ได้มาสอบถามบุตรชายว่า “รู้ไหมว่าเมื่อวันศุกร์โทรศัพท์ของไอ่แบงค์หาย” บุตรชายจึงตอบไปว่า “รู้ครับพี่แบงค์บอกผมแล้วเมื่อตอนเช้า” จากนั้นนายกอล์ฟได้ถามบุตรชายต่อว่าแล้วเมื่อวันศุกร์ไปไหนมาทำไมไม่มาเรียน บุตรชายจึงบอกไปว่าวันศุกร์ไม่สบายจึงขอให้ด.ช.อัพซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันพากลับบ้าน
นร.รร.กีฬาโร่แจ้งถูกรุ่นพี่30คนรุมยำ
จากนั้นนายกอล์ฟ ได้โทรศัพท์ไปหาภรรยาตนที่บ้านสอบถามว่าเมื่อวันศุกร์บุตรชายตนกลับบ้านไปทำอะไรบ้าง ภรรยาจึงตอบว่าวันศุกร์บุตรชายไม่ค่อยสบายจึงให้ทานยาและพักผ่อน หลังจากวางสายนายกอล์ฟ ได้หันมาพูดกับบุตรชายตนว่า “มึงพูดไม่ตรงกับแม่มึง กูให้มึงพูดใหม่ว่าวันศุกร์มึงไปไหนมา” บุตรชายก็ยืนยันตามเดิมว่าไม่ได้ไปไหนจริงๆวันนั้นไม่สบายจะไปที่ไหนได้ ทำให้นายเต่า ซึ่งเป็นรุ่นพี่และเป็นเพื่อนของนายกอล์ฟ ไม่พอใจมาก เดินมาตบหัวของบุตรชาย 4 – 5 ครั้ง โดยไม่พูดอะไรทั้งสิ้น จากนั้นนายกอล์ฟ ได้ให้นายเต่าและนายเอ็ม พาเพื่อนของบุตรชาย (ด.ช.อัพ) แยกไปอีกห้องหนึ่ง สักพักนายเอ็ม ก็เดินกลับมาพร้อมพูดกับบุตรชายตนว่า “เพื่อนมึงรับแล้วนะว่ามึงเป็นคนเอาโทรศัพท์ของไอ้แบงค์ไปขาย” บุตรชายจึงปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไปจริงๆ เมื่อบุตรชายพูดจบได้ถูกนายเอ็ม ตบที่ศีรษะพร้อมกับใช้เท้าถีบที่หัวไหล่ จากนั้นเมื่อเห็นว่าบุตรชายตนไม่ยอมรับจึงได้นำผ้าห่มมาคลุมที่ศีรษะของบุตรชายตนและเรียกรุ่นพี่ประมาณ 30 คน เข้ามารุมทำร้ายเตะต่อย จนกระทั้งถึงตี 2 จึงได้ปล่อยให้บุตรชายไปนอนในสภาพเขียวช้ำไปทั่วทั่งตัว ภายหลังเกิดเรื่องบุตรชายได้แจ้งให้ตนเองทราบ ตนจึงเดินทางไปขอความเป็นธรรมกับผู้อำนวยการโรงเรียน แต่เรื่องกับเงียบหายไม่มีการดำเนินการใดๆกับรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ อีกทั้งบุตรชายของตนยังถูกข่มขู่ตลอดเวลา จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อนางปวีณา ดังกล่าว
ภายหลังรับแจ้ง นางปวีณา หงสกุล ประธาน “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.ดินแดง เพื่อขอให้เร่งดำเนินคดีกับรุ่นพี่ที่ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว พร้อมกับนี้นางปวีณา รับจะประสานไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อขอให้ส่งนักจิตวิทยา เข้ามาช่วยบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตเด็กต่อไป.