คมชัดลึก :ตำรวจสืบ4 ตะครุบ"หนึ่ง ตรอกจันทน์" คาห้างย่านหัวหมาก ค้นเก๋งเจอยาไอซ์ห่อด้วยกระดาษฟอยล์ซุกท้ายรถ 2 กิโลฯ เจ้าตัวอ้างตกงาน รับจ้างขับส่งยาหาเงินเลี้ยงลูก-เมีย
เมื่อเวลา 00.05 น. วันที่ 7 กันยายน พ.ต.อ.มันทาร อภัยวงศ์ พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สส.บก.น.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.4
ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายสุธี แซ่ปิง หรือหนึ่ง ตรอกจันทน์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 1 ต.ม่วงหมู่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี พร้อมของกลางยาไอซ์ห่อด้วยกระดาษฟอยล์พันเทปกาวสีน้ำตาล 2 ห่อ ห่อละ 1 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท รถเก๋งโตโยต้าวีออส สีเทา ทะเบียน ศค 2712 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
พ.ต.อ.มันทาร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.และพล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น.
ได้สั่งการให้ บก.น.4 ทำการสืบสวนจับกุมแก๊งคนร้ายค้ายาเสพติดให้โทษที่ลักลอบค้ายาไอซ์ในพื้นที่อย่างเร่งด่วน กระทั่งวันที่ 6 กันยายน พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สืบสวน บก.น.4 ได้สั่งให้ พ.ต.ต.บุรินทร์ ลลิตาธาดา สว.กก.สส.บก.น.4 ร.ต.อ.มาโนช สุทธรักษ์ รอง สว.สส.บก.น.4 นำกำลังไปดักซุ่มบริเวณลานจอดรถชั้น 1 เอ ห้างบิ๊กซี สาขาหัวหมาก ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. หลังจากมีสายรายงานว่ามีการนัดส่งยาไอซ์
กระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. นายสุธีได้เดินมายังรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีเทา ทะเบียน ศค 2712 กรุงเทพมหานคร จึงแสดงตัวเข้าจับกุม และตรวจค้นพบยาไอซ์ห่อด้วยกระดาษฟอยล์พันเทปกาวสีน้ำตาล 2 ห่อ ห่อละ 1 กิโลกรัมซุกอยู่ท้ายรถเก๋ง
จากการสอบสวนนายสุธีให้การรับสารภาพว่า หลังเรียนจบชั้นมัธยมก็ไปทำงานโรงงาน แต่ต่อมาโรงงานได้เลิกจ้างจึงตกงาน กระทั่งได้รู้จักนายเอก ที่สนามฟุตบอล นายเอกได้ชักชวนให้รับงานขนยาเสพติด แต่ตนไม่ทราบมาก่อนว่ายาที่อยู่ภายในรถนั้นเป็นยาไอซ์จำนวนมากเช่นนี้ คิดว่าเป็นยาบ้า ทุกครั้งที่มีการนัดส่งยาจะมีคนนำรถยนต์มาจอดไว้ตามสถานที่ต่างๆ ก่อนจะมีโทรศัพท์โทรเข้ามาบอกให้ไปที่รถเพื่อขับนำยาไปส่งให้ลูกค้า โดยเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ตนก็มาที่ห้างดังกล่าวเพื่อจะขับรถไปส่งยา แต่ขณะที่เข้าไปในรถและกำลังหากุญแจที่ซ่อนอยู่ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว ซึ่งครั้งนี้ทำเป็นครั้งที่ 2 ได้ค่าจ้างครั้งละ 2 หมื่นบาท เงินที่ได้ก็นำไปใช้จ่ายจุนเจือครอบครัว
"ผมเคยได้ยินเหมือนกันว่าถ้าครอบครองยาเสพติดเป็นจำนวนมาก มีโทษถึงประหารชีวิต แต่ครั้งนี้ที่ถูกจับกุมผมไม่คาดคิดว่าจะมียาเสพติดมากมายขนาดนี้ รู้สึกเสียใจ แต่ผมก็ขอรับผิด" นายสุธีกล่าว
พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รอง ผบก.น.4 กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทำมาแล้วประมาณ 6 เดือน มีเงินหมุนเวียนในบัญชีประมาณ 4-5 แสนบาท ในการส่งยาแต่ละครั้ง
ทราบว่านายเอกจะเป็นผู้รับงานมาให้ จะมีการซื้อรถไว้สำหรับขนยาโดยเฉพาะ เมื่อเสร็จงานแต่ละครั้งก็จะเปลี่ยนรถคันใหม่ แต่จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด คาดว่าผู้ต้องหาอาจเป็นเจ้าของยาเองด้วย จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหารับจ้างส่งยามาแล้ว 6 ครั้ง จะทำเดือนละประมาณ 1 ครั้ง และเคยได้ค่าจ้างสูงสุด 4 แสนบาท นอกจากนี้คาดว่าผู้ต้องหารายนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่จับกุมตัวได้ไปก่อนหน้านี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล และจะเร่งติดตามตัวนายเอกมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป