ความขัดแย้งเข้าขั้น...
ในขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่นิ่ง ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายต่อต้านและสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำลังร้อนระอุยังหาข้อยุติไม่ได้ กลับเกิดเหตุลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีการใช้ รถยนต์ขนวัตถุระเบิดป้วนเปี้ยนบ้านนายกรัฐมนตรี แต่โชคดีที่ตำรวจสามารถสกัดจับกุมได้ หวิดก่อเกิดโศกนาฏกรรมช็อกประเทศ
ทีมอรินทราชพบรถต้องสงสัย
เหตุลอบวางระเบิดหมายถล่มนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 24 ส.ค. ขณะที่ จ.ส.ต. ภูวนาท นิ่มนวล และ ส.ต.ท.สุธิ เปลี่ยนขุนทด เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.บางพลัด กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณแยกบางพลัด ได้รับแจ้งจากวิทยุโรงพักให้ร่วมกับหน่วยอรินทราช 26 ที่อยู่ในชุดรักษาความปลอดภัยหน้าบ้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ช่วยตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อแดวู รุ่นเอสเพอโร สีบรอนซ์เงิน
ทะเบียน ฐฉ 3085 กรุงเทพมหานคร ที่อยู่บริเวณใต้สะพานข้ามแยกบางพลัด ถนนราชวิถี มุ่งหน้าสะพานกรุงธน (ซังฮี้) แขวงและเขตบางพลัด กทม. หลังจากขับรถวนเวียนเข้าไปในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ผ่านหน้าบ้านจันทร์ส่องหล้าของ พ.ต.ท.ทักษิณหลายรอบจนเป็นที่ผิดสังเกต
ล็อกตัวร้อยโททหารขนระเบิด
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวขอดูบัตรชายคนขับที่สวมชุดซาฟารีสีน้ำเงิน สวมหมวกและใส่แว่นดำ ทำเอาเจ้าตัวออกอาการสั่นเตรียมจะขับรถหนี ทีม อรินทราชคุ้มกันนายกรัฐมนตรีเลยให้ลงจากรถไปเปิดกระโปรงท้ายพบถุงปุ๋ยใส่กระสอบทรายนับสิบถุง แกลลอนน้ำมันเครื่องขนาด 5 ลิตร ที่อัดด้วยปุ๋ยแอมโมเนียไนเตรตหรือปุ๋ยยูเรียผสมน้ำมันดีเซล 13 แกลลอน
มีแท่งสีเขียวคล้ายระเบิดต่อชนวนสายไฟระโยงระยางเต็มไปหมด เป็นเหตุให้ทุกคนรีบผละถอยมาจากตัวรถพร้อมล็อกตัวคนขับเอาไว้ ทราบภายหลังเป็นนายทหารชื่อ ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ สังกัดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) อดีตคนขับรถ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รอง ผอ.กอ. รมน. นำตัวสอบปากคำเบื้องต้นที่ศูนย์สืบสวน บช.น.
ปิดถนนกู้คาร์บอมบ์ระทึก
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้รีบประสาน ร.ต.อ.ประจำ หนุนนารถ พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.บางพลัด รุดมาร่วมตรวจสอบรถต้องสงสัย พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรัมพร สุระมณี พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ ผบก.ตปพ. พล.ต.ต.บุญส่ง พาณิชอัตรา ผบก. น.7 พ.ต.อ.สนั่น อิ่มใจ รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.หน.ศส.บช.น. พ.ต.อ.บุญเพ็ญ มั่งคั่ง ผกก.สน.บางพลัด ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.7
และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ. โดยปิดกั้นการจราจรตั้งแต่สะพานกรุงธนถึงแยกบางพลัด สะพานข้ามแยกบางพลัดยาวถึงถนนสิรินธรและกันผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้าในพื้นที่อันตรายอย่างเด็ดขาด เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ใช้สมาธิในการตรวจสอบวัตถุระเบิดที่พบในรถเก๋งต้องสงสัยของทหารหนุ่มใหญ่นายนี้
ใช้ปืนยิงทำลายวงจรจุดชนวน
หลังทราบแน่ชัดว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบทีเอ็นที และซีโฟร์อัดท้ายกระโปรงต่อวงจรเข้ากับขั้วแบตเตอรี่ มีปุ๋ยยูเรียเพิ่มอานุภาพของแรงระเบิด เจ้าหน้าที่ จึงเริ่มปฏิบัติการเอาเครื่องยิงแรงดันน้ำสูงทำลายฝักแควงจรจุดชนวนรีโมตคอนโทรลที่ซุกไว้ใต้เบาะคนขับ กระทั่งมั่นใจว่าปลอดภัยถึงเข้าเคลียร์พื้นที่แล้วรีบนำวัตถุระเบิดของกลางทั้งหมดใส่รถของกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์
วัตถุระเบิด บก.ตปพ. จำนวน 3 คันไปตรวจหาความชัดเจนที่ต้นสังกัดพร้อมลากรถคันดังกล่าวเข้าตรวจสอบหาที่มาที่ไปของรถด้วยเช่นกัน ก่อนเปิดการจราจรตามปกติ ท่าม กลางความโล่งออกของบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ สื่อมวลชน และชาวบ้านที่ยืนมุงดูนาทีกู้วิกฤติการณ์คาร์บอมบ์กลางกรุงอยู่ห่างๆ นับร้อยชีวิต