เซาเปาโล 22 มิ.ย. - เจ้าหน้าที่บราซิล ระบุวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพสามารถพิสูจน์ตัวบุคคลของเหยื่อเครื่องบินสายการบินแอร์ฟรานซ์ที่ประสบอุบัติเหตุตกในมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนได้แล้ว 11 ศพ จากที่เก็บกู้ขึ้นมาได้ 50 ศพ
สำนักงานความปลอดภัยสาธารณะของรัฐเปร์นัมบูกู ทางภาคเหนือของบราซิล แถลงว่า ศพที่พิสูจน์ตัวบุคคลได้แล้วเป็นชายชาวบราซิล 5 คน สตรีบราซิล 5 คน และชายชาวต่างชาติอีก 1 คน
โดยเจ้าหน้าที่ใช้ข้อมูลทางทันตกรรม ลายนิ้วมือ และตัวอย่างดีเอ็นเอ ในการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลครั้งนี้ และทางการได้แจ้งข้อมูลดังกล่าวไปยังครอบครัวเหยื่อ รวมทั้งสถานทูตประเทศของเหยื่อชายชาวต่างชาติ แต่จะไม่เปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ต่อสาธารณชน ขณะเดียวกัน ทีมสอบสวนกำลังตรวจสอบศพที่เหลือ รวมทั้งซากเครื่องบิน และกระเป๋าสัมภาระที่เก็บกู้ขึ้นมาจากมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งเก็บไว้ที่เมืองเรซีเฟ เมืองเอกของรัฐเปร์นัมบูกู
เครื่องบินสายการบินแอร์ฟรานซ์ เที่ยวบินที่ 447 ประสบอุบัติเหตุตกในมหาสมุทรแอตแลนติก นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล เมื่อคืนวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา
ทำให้คนบนเครื่อง 228 คน เสียชีวิตทั้งลำ ด้านเจ้าหน้าที่บราซิลและอเมริกัน ระบุเมื่อค่ำวานนี้ว่า ยังไม่สามารถตรวจจับสัญญาณจากกล่องบันทึกข้อมูลการบิน หรือกล่องดำได้ ซึ่งขณะที่ยังไม่พบเจ้าหน้าที่สอบสวนจะพุ่งเป้าไปที่ข้อความอัตโนมัติที่เครื่องบินส่งออกมาเพียงไม่กี่นาทีก่อนที่จะขาดการติดต่อไป โดยข้อความหนึ่งชี้ให้เห็นว่า เครื่องตรวจวัดความเร็วภายนอกถูกน้ำแข็งเกาะ ส่งผลกระทบต่อระบบการควบคุมเครื่องบิน. -สำนักข่าวไทย